คุณเป็นผู้จัดการ "ระดับใด!?"

คุณเป็นผู้จัดการ "ระดับใด!?"

ผู้จัดการ หรือ ผู้นำทีมในทุกสายงานของแต่ละองค์กร ต่างก็มีลูกน้องมากหรือน้อยแตกต่างกันไปในแต่ละที่ แต่สิ่งที่มีเหมือนกันในทุกที่ก็คือ..

ลูกน้องบางคนสร้างผลงาน ลูกน้องหลายคนแทบไม่ได้สร้างอะไรเลย ลูกน้องบางส่วนสร้างแต่ปัญหา!

ผู้จัดการ จะถูกวัดความสามารถในการบริหารจัดการลูกน้องให้สร้างผลงาน

ระดับของผู้จัดการในทุกๆที่ พอจะแบ่งระดับได้แบบนี้ครับ

1.ผู้จัดการระดับD

D ในที่นี้ ไม่ใช่หมายถึงดีเด่น หรือเก่ง หรือมีความสามารถดี.. แต่หมายถึง D to Dead!

เพราะในทีมของผู้จัดการประเภทนี้ เต็มไปด้วย ลูกน้องที่แทบไม่ได้สร้างผลงานอะไรเลย อยู่ไปวันๆ เป็นจำนวนมาก แต่ที่หนักกว่านั้นคือ ยังมีลูกน้องที่คอยสร้างแต่ปัญหาจำนวนไม่น้อย!

วันๆของผู้จัดการประเภทนี้ จึงหมดไปกับการแก้ปัญหารายวันที่ไม่จบไม่สิ้น ปัญหามีทั้งปัญหาใหม่ๆ (จากกลุ่มลูกน้องที่ขยันสร้างปัญหาจริงจริ๊งงงง!) และปัญหาเดิมๆ หมักหมมไปเรื่อยๆ

ผลงานของผู้จัดการประเภทนี้ แทบไม่มี เพราะมีแต่ปัญหา! ถ้า ไม่ Dead ในอนาคตอันใกล้นี้ก็แสดงว่าทำบุญมาเยอะ!

2.ผู้จัดการระดับ C

ระดับนี้ มักจะเป็นผู้จัดการที่อยู่ไปวันๆ โชคดีที่ในทีมไม่ค่อยมีลูกน้องที่สร้างปัญหาให้มากนัก แต่โชคร้ายตรงที่ในทีมเต็มไปด้วยลูกน้องที่แทบไม่ได้มีผลงานอะไรเลย เพราะสมัครสมานสามัคคีอยู่ดีกินดี อยู่ไปวันๆเหมือนกับผู้จัดการเปี๊ยบเลย!

ไม่ต้องพูดถึงอนาคตและความก้าวหน้าของผู้จัดการและลูกน้องในทีมนี้ ที่ยังอยู่ดีกินดีได้ถึงทุกวันนี้ อาจกินบุญเก่าอยู่ แต่จะเหลือเวลาให้กินบุญเก่าแบบนี้ไปอีกนานเท่าไหร่!?

3.ผู้จัดการระดับ B

ระดับนี้ เป็นผู้จัดการที่ตั้งใจทำงานอย่างสม่ำเสมอ ขยันใช้ได้ แต่ฝีมือและศักยภาพรวมทั้งผลงานไม่ค่อยโดดเด่น ถึงกระนั้นก็ยังพอรอดตัวไปได้แบบไม่น่าเกลียดอะไรมากมาย

มีลูกน้องบางคนที่ช่วยสร้างผลงาน แต่ลูกน้องส่วนมากผลงานไม่ค่อยมี หรือมีก็ไม่ค่อยชัดเจน

พูดง่ายๆ ทีมนี้ /หน่วยงานนี้/หรือแผนกนี้/ ยังอยู่รอดแบบพอไปได้ เพราะได้ความขยันความตั้งใจของผู้จัดการ กับลูกน้องบางคนที่ช่วยสร้างผลงาน แบกหน่วยงานนี้ไว้!

4.ผู้จัดการระดับ A

ระดับนี้ เป็นผู้จัดการที่ค่อนข้างเก่ง เพราะในทีมแทบจะไม่มีลูกน้องที่ขยันสร้างแต่ปัญหา

เพราะผู้จัดการระดับนี้จะไม่ปล่อยลูกน้องประเภทนี้ไว้! ถ้าแก้ไข-พัฒนาได้ ก็จะให้โอกาสกลับเนื้อกลับตัว แต่ถ้ายังมัวเมาเอาแต่สร้างปัญหาอีกก็ถูกตัดออกจากทีม!

ลูกน้องส่วนหนึ่งอาจจะผลงานไม่เด่นมาก แต่ก็ถือว่าผลงานใช้ได้ แต่ที่โดดเด่นคือ ลูกน้องจำนวนไม่น้อยที่สร้างผลงานที่ชัดเจน เป็นหน้าเป็นตาของทีมของหน่วยงาน ด้วยการ Coaching และการสร้างของผู้จัดการ!

5.ผู้จัดการระดับ A++

ระดับนี้จะใช้คำว่า“เก่งโคตรๆ”ก็ได้นะครับ!

มักจะเป็นผู้จัดการระดับ“หัวกระทิ” ที่ได้รับมอบหมายงานใหม่ๆ/งานยากๆ/จาก CEO ให้ไปทำให้บรรลุเป้าหมาย และมักจะทำได้ด้วยสิ!

ที่บอกว่าเก่งโคตรๆ เพราะเก่งทั้งเรื่องคนและเรื่องงาน สร้างทีมงานได้เก่งมีมือดีรอบตัวที่พร้อมลุย!

ในทีมจะไม่มีลูกน้องที่สร้างปัญหาเพราะไม่อนุญาตให้อยู่ในทีม!

ส่วนลูกน้องที่ไปเรื่อยๆมาเรียงๆ ไม่สร้างผลงานก็ไม่มีพื้นที่ให้อยู่เช่นกัน! ในทีมจึงมีแต่ลูกน้องที่เก่งมาก เก่งพอใช้ เก่งคนละด้านมาหลอมรวมกันในทีมนี้!

และที่ลูกน้องส่วนมากเก่งๆ นอกจากจะได้รับการบ่มเพาะ-หล่อหลอมจากผู้จัดการแล้ว...คนเก่งๆก็จะชวนคนเก่งๆทั้งจากที่อื่นและในบริษัทเดียวกันแต่ต่างแผนก ให้ขอโอนย้ายมาอยู่ด้วยกัน มาร่วมกันสร้างสรรค์ผลงาน เพราะใครก็อยากอยู่กับผู้จัดการที่เก่งๆ!

สุดท้ายนี้... ผมไม่ทราบว่า ท่านที่เป็นผู้จัดการในปัจจุบัน อยู่ที่ระดับใด? แต่มั่นใจได้เลยว่า ถ้ายังอยู่ที่ระดับ D หรือC...เหนื่อยใจแทนเลยครับ ถ้าต้องการยกระดับไปอยู่ที่ B หรือ A ไปจนถึง A++

ไม่มีทางลัด มีแต่ทางตรงคือ ต้องสร้าง-พัฒนาคนของท่าน แล้วคนของท่านจะสร้างผลงานให้ท่านเองครับ!