“Cherished Pets” ช่วยคนแก่ดูแลเจ้าสี่ขา

สัตว์เลี้ยงเหล่านี้ แม้พวกเขาจะพูดไม่ได้ แต่เขาก็ต้องการความรัก การดูแลเอาใจใส่ ไม่ต่างอะไรกับคนเรานี่เอง

สำหรับคุณผู้อ่านที่มีสัตว์เลี้ยงอยู่ เคยสงสัยไหมคะว่าเราได้ให้เวลาและให้คุณภาพชีวิตที่ดีพอแก่พวกเขาแล้วหรือยัง หรือหากใครที่อยู่อาศัยกับสัตว์เลี้ยงตามลำพัง เคยสงสัยไหมคะว่าหากวันใดคุณล้มป่วยหรือไม่สามารถดูแลพวกเขาได้เหมือนเดิม พวกเขาจะอยู่อย่างไรวันนี้ดิฉันมีคำตอบมาเล่าให้ฟังค่ะ

สัตวแพทย์หญิง “อลิเซีย เคนเนดี้” หรือคุณหมอลิซซี่ จากเมืองกีลอง ประเทศออสเตรเลีย เป็นผู้ก่อตั้งกิจการเพื่อสังคมที่มีชื่อว่า “Cherished Pets” ในปี 2558 ที่ผ่านมาเพื่อให้บริการอย่างครบวงจรแก่เจ้าของสัตว์เลี้ยงที่เป็นผู้สูงอายุ หรือผู้ป่วยที่อยู่อย่างโดดเดี่ยว

“ปัจจุบันมีผู้สูงอายุจำนวนมากที่มีสัตว์เลี้ยงอย่างหมาแมว เป็นเพื่อนคู่ทุกข์คู่ยาก และมีจำนวนไม่น้อยที่ต้องการความช่วยเหลืออยากให้มีใครสักคนมาช่วยดูแลสัตว์เลี้ยงของตนเอง คุณตาคุณยายหลายคนรู้สึกเป็นห่วงและกังวลใจ ว่าหมาแมวจะเป็นอย่างไร หากตนเองล้มป่วย หรือต้องไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล หรือแม้แต่เสียชีวิตลง”

Cherished Pets มีสองหน่วยงานแยกจากกัน หน่วยงานแรกคือมูลนิธิ Cherished Pets Foundation โดยมีอาสาสมัครที่เป็นผู้รักสัตว์ คอยให้ความช่วยเหลือเจ้าของสัตว์เลี้ยงในด้านต่างๆ เช่นการพาสัตว์เลี้ยงไปออกกำลังกาย เพราะส่วนใหญ่สัตว์เลี้ยงของผู้สูงวัยเหล่านี้จะมีน้ำหนักตัวเกินปกติหรืออ้วนเพราะขาดการออกกำลังกายโดยผู้ที่จะใช้บริการจากมูลนิธิได้ ต้องมีคุณสมบัติตรงตามเงื่อนไข นั่นคือเป็นผู้มีสุขภาพไม่แข็งแรง ผู้สูงวัย หรือผู้พิการ

แม้พวกเขาจะมีข้อจำกัดทางด้านร่างกาย แต่พวกเขาก็ยังอยากมีสัตว์เลี้ยงเป็นเพื่อนที่ยึดเหนี่ยวจิตใจไม่ต่างจากคนปกติทั่วไป

โดยกลุ่มอาสาสมัครจะช่วยวางแผนการดูแลสัตว์เลี้ยงเมื่อเจ้าของล้มป่วยหรือต้องไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล หรือแม้แต่เสียชีวิตลง ซึ่งการวางแผนเตรียมความพร้อมนี้สามารถช่วยผู้สูงวัยอุ่นใจขึ้นได้มากทีเดียว

“สิ่งที่เราทำคือการพัฒนาโครงการดูแลสัตว์เลี้ยงในชุมชน โดยหัวใจสำคัญของเราคือสุขภาพและคุณภาพชีวิตของสัตว์ เราจะส่งทีมงานเข้าไปและประเมินสัตว์เลี้ยงอย่างละเอียด รวมถึงพิจารณาสุขภาพและความเป็นอยู่ของสัตว์เลี้ยงโดยรวม ว่าจำเป็นต้องมีการรักษาเช่นด้านร่างกาย การรักษาฟันหรือไม่ รวมถึงดูพฤติกรรมและรูปแบบการใช้ชีวิต และสภาพแวดล้อมที่พวกเขาอาศัยอยู่ รวมถึงความสามารถของเจ้าของในการพาสัตว์เลี้ยงไปออกกำลังกาย เมื่อเราทำการประเมินแล้วก็จะดูว่ามีสิ่งใดที่ขาดหรือต้องปรับปรุง”

โดยเจ้าหน้าที่อาสาสมัครจำนวน 2 คนจะถูกมอบหมายให้ไปเยี่ยมสัตว์เลี้ยงอย่างน้อยคนละ 1 ครั้งต่อสัปดาห์เพื่อไปนั่งพูดคุยกับเจ้าของ พาสุนัขไปเดินเล่น และดูว่าสัตว์เลี้ยงต้องการการดูแลใดๆ เพิ่มเติมหรือไม่

คุณหมอลิซซี่ยกตัวอย่างสัตว์เลี้ยงที่ร่วมโครงการ คือการที่เธอเคยดูแลเจ้าแมวอ้วนชื่อ “แอบบี้” ที่มีอายุถึง 17 ปี สัตว์เลี้ยงของคุณยายวัย 97 ปีที่ต้องย้ายไปสถานดูแลคนชราในเมืองอื่น โดยหลังจากที่เธอรับแมวมาดูแล เธอก็พาเจ้าแอบบี้ไปเยี่ยมเจ้าของอยู่เป็นประจำ และให้ทั้งสองได้มีเวลาเล่นด้วยกัน

“พลังแห่งความรักจากสัตว์เลี้ยง จะเป็นยารักษาผู้สูงวัยได้เป็นอย่างดี” เธอกล่าว

นอกจากมูลนิธิแล้ว อีกหน่วยงานที่คุณหมอลิซซี่ตั้งขึ้นคือกิจการเพื่อสังคมที่มีชื่อว่า Cherished Pets Community Veterinary Care (CPCVC)ซึ่งเปิดขึ้นมาเพื่อสนับสนุนการดำเนินงานของมูลนิธิฯ โดยเน้นการให้บริการทางด้านสัตว์แพทย์และการดูแลสุขภาพสัตว์อย่างครบวงจร เพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นระหว่างสัตว์เลี้ยงและเจ้าของ ไม่ว่าจะเป็นการนัดหมายสัตวแพทย์ให้ไปตรวจสุขภาพสัตว์ที่บ้าน (สำหรับเคสไม่ฉุกเฉิน) การดูแลสัตว์เลี้ยงที่บ้าน ไม่ว่าจะเป็นสัตว์เลี้ยงสูงอายุหรือสัตว์เลี้ยงที่ป่วยเป็นโรคเรื้อรัง รวมถึงการดูแลสัตว์เลี้ยงในช่วงสุดท้ายของชีวิต เช่น สัตว์ป่วยหนัก เพื่อให้พวกเขาจากไปอย่างไม่ทรมาน เป็นต้น

เป้าหมายของ Cherished Pets คือการเลี้ยงตัวเองได้อย่างยั่งยืนด้วยการสนับสนุนทางการเงินจากหลากหลายช่องทาง รวมถึงการเริ่มเปิดรับบริจาคจากผู้มีจิตศรัทธา การจัดกิจกรรมระดมทุนในท้องถิ่น การขอรับการสนับสนุนหรือสปอนเซอร์จากธุรกิจในท้องถิ่น การหาพันธมิตรทางธุรกิจ และการจัดจำหน่ายสินค้าที่ระลึกต่างๆ เป็นต้น

รูปแบบและแนวคิดของ Cherished Pets ไม่ได้เน้นเพียงการรักษาสุขภาพสัตว์เท่านั้น แต่สุดท้ายปลายทางคือการส่งเสริมความรักระหว่างสัตว์เลี้ยงและเจ้าของ ซึ่ง “พลังแห่งความรัก” นี่เองที่ทำให้ทั้งสองฝ่ายมีสุขภาพกายและใจที่สมบูรณ์แข็งแรงค่ะ