9 คุณลักษณะที่สร้างความก้าวหน้าได้ในทุกสถานการณ์

9 คุณลักษณะที่สร้างความก้าวหน้าได้ในทุกสถานการณ์

อยู่ดี ๆอาจารย์ Daniel Brown ที่มหาวิทยาลัย Bath ในสหราชอาณาจักรเกิดนึกสงสัยว่าทำไมบางคนประสบความสำเร็จได้ในแทบทุกสถานการณ์

ใครจะมาใครจะไปก็ทำความก้าวหน้าในการงานให้เกิดขึ้นได้เป็นประจำ ในขณะที่บางคนนั้น ถ้าไร้คนถือหาง การงานก็ไม่เป็นเรื่อง เก่งเฉพาะตอนที่มีนายใหญ่คอยเชียร์อยู่ข้างหลัง ท่านอาจารย์เลยทำวิจัยหาคำตอบนี้ และเผยแพร่คำตอบที่ได้จากการวิจัยในวารสาร European Psychologist เมื่อ 2-3 เดือนที่ผ่านมา

โดยบอกว่าขอให้เป็นคนที่มีคุณลักษณะ 9 ประการที่ท่านค้นพบ คนนั้นจะสร้างความก้าวหน้า สร้างความสำเร็จได้ในแทบทุกสถานการณ์ ดังนั้นถ้าจะลองดูคำตอบทั้ง 9 ประการจากงานวิจัยนี้บ้าง อย่างน้อยก็น่าจะพอใช้เป็นแนวทางในการปรับเปลี่ยนคุณลักษณะของตัวเราให้มีสัก 5-6 อย่าง จาก 9 อย่างที่ค้นพบ เผื่อว่าจะได้กลายเป็นอีกคนหนึ่งที่ก้าวหน้าได้ในทุกสถานการณ์

คุณสมบัติแรกที่นำความสำเร็จมาให้เราได้ในทุกสถานการณ์ คือมองโลกในแง่ดี คิดบวกมากกว่าคิดลบ เจอปัญหามองเป็นโอกาส ไม่ใช่อุปสรรค เมื่อมองแต่ในทางที่ดี ทุกสถานการณ์ที่พบเจอก็แปรเป็นโอกาสสร้างความสำเร็จได้เสมอ คนที่มองโลกในแง่ดีได้เสมอมักเป็นคนที่มีศรัทธาในศาสนาใดศาสนาหนึ่ง เพราะศรัทธาในศาสนาจะกระตุ้นให้รู้จักมองเรื่องราวรอบตัวในแง่ดีได้ง่ายขึ้น คำสอนของแทบทุกศาสนาช่วยเรื่องคิดบวกได้เป็นอย่างดี

คุณสมบัติที่ 2 จึงเป็นการมีศรัทธาในศาสนา แต่ต้องหยุดแค่ศรัทธาไม่ใช่จมลงไปถึงขั้นงมงาย ซึ่งแบบนั้นคงไม่ใช่ช่วยการคิดบวก หรือมองโลกในแง่ดีแล้ว แต่กลับช่วยเพิ่มโมหะ ซึ่งกลายเป็นอุปสรรคในการสร้างความสำเร็จในยามที่อยู่ท่ามกลางสารพัดแรงกดดัน เรื่องง่ายกลายเป็นยากไปหมดเพราะโมหะนี่แหละ

คุณสมบัติที่ 3 คือการทำงานอย่างมีแรงบันดาลใจในการสร้างความสำเร็จ จะยากจะเย็นอย่างไร ก็มีแรงบันดาลใจให้เดินหน้าต่อไป เจอหัวหน้าที่เก่งก็ไม่เก่ง ดีก็ไม่ดี ก็ยังสรรหาแรงบันดาลใจจากเพื่อนร่วมงาน จากลูกค้า หรือแม้แต่จากโลกรอบตัวมากระตุ้นให้เกิดความมานะพยายามที่จะสร้างความสำเร็จ ถ้าไร้แรงบันดาลใจ ก็เหมือนรถไม่มีพลังงาน ขับไปไหนไม่ได้ คุณสมบัตินี้จำเป็นมากสำหรับการสร้างความสำเร็จในยามยาก ก่อนทำงานใด ตอบให้ได้ก่อนว่าอะไรคือแรงบันดาลใจในความสำเร็จของงานนั้น

คุณสมบัติที่ 4 คือทำงานเชิงรุก เตรียมพร้อมเสมอ มีความตระหนักรู้ในสรรพสิ่งรอบตัว ทั้งปัจจัยภายใน และภายนอกองค์กร ทำให้สามารถเห็นปัญหาและจัดการเสียก่อนที่จะบานปลายจนแก้ไขได้ยาก ชอบค้นหาสิ่งที่อาจเกิดปัญหา มากกว่าชอบคอยตามแก้ปัญหา แต่ขอเติมจากงานวิจัยสักนิดหนึ่งว่าต้องระวังอย่าให้ข้ามหน้าข้ามตาผู้ใหญ่บางคน เพราะผู้ใหญ่บางคนชอบให้ทำตามที่ท่านคิด มากกว่าที่ให้คิดก่อนที่จะทำ ซึ่งกรณีนี้ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่ สำหรับคนที่ทำงานเชิงรุก รู้ว่าท่านคิดแล้วตันตรงไหน ก็หาทางบอกอ้อม ๆให้ท่านนึกว่าท่านคิดเจอทางตันนั้นเอง ผู้ใหญ่ไม่เสียหน้า การงานที่ทำก็ไม่ยากที่จะก้าวหน้าได้ด้วยดี ทำงานเชิงรุกนั้นดี ตราบเท่าที่ไม่ทำให้ผู้ใหญ่เสียหน้า

คุณสมบัติที่ 5 คือเรียนรู้คู่การงาน ซึ่งไม่จำเป็นถึงกับต้องไปเรียนปริญญาโทเอกภาคพิเศษ เพื่อให้เกิดการเรียนรู้คู่ไปกับการทำงาน แต่ให้ตั้งคำถามเสมอในระหว่างทำงาน ทำไมต้องทำแบบนี้ ทำไมต้องใช้เครื่องมือนี้ ถามมาก ๆในระหว่างทำงาน เพื่อป้องกันไม่ให้ติดกับดักของความต่อเนื่อง คือเคยทำอย่างไรมาเมื่อร้อยปีก่อน วันนี้ก็ยังทำแบบนั้น โดยไม่เคยสงสัยว่าทำไมต้องทำแบบนั้นในวันนี้ ที่โลกวันนี้ไม่เหมือนกับโลกเมื่อร้อยปีก่อน ตั้งคำถามเอง หาคำตอบเอง และปรับปรุงเปลี่ยนแปลงเองในทุกโอกาสที่สามารถกระทำได้ อย่าตั้งคำถามให้คนอื่นตอบ ให้คนอื่นปรับปรุง เพราะนั่นไม่ใช่การเรียนรู้คู่การงาน แต่เป็นเรื่องที่เอาความดีไว้กับฉัน แล้วเอาความแย่ไปอยู่กับคนอื่น ซึ่งการงานอาจก้าวหน้า แต่รับรองว่าก้าวไปข้างหน้าอย่างไร้มิตรสหายแน่นอน

แค่ 5 จาก 9 คุณสมบัติก็คงจะพอมองเห็นแล้วว่าจะช่วยสร้างความก้าวหน้าได้ในทุกสถานการณ์ได้อย่างไร ส่วนอีก 4 คุณลักษณะจะบอกให้ทราบในโอกาสต่อไป