มองปรากฏการณ์แจ็ค หม่า ให้ครบทุกมิติ!

คุณภาวุธ “ป้อม” พงษ์วิทยาภานุแห่ง tarad.com เป็นหนึ่งในคนที่มีคำถามว่าอาลีบาบากำลังจะมาทำลายธุรกิจอีคอมเมิสระดับกลางและเล็กของไทยและอาเซียนหรือไม่

วันก่อน ผมอ่านเจอข้อความของคุณภาวุธในเฟซบุ๊คของเขา

“ข่าวมาว่า Jack Ma ได้เป็นที่ปรึกษาด้าน E-Commerce ของรัฐบาลอินโดนิเซียแล้ว เดาไม่ยาก... ว่าคงบอกว่าจะช่วยเอาสินค้าอินโดนิเซียขายไปจีน แล้วขอสร้าง Infrastructure ภายในประเทศ เพื่อรองรับ....แน่นอนเอาสินค้าอินโดนิเซียไปขายจีน แต่ในอีกทางหนึ่งก็ขนสินค้าจีนเข้าไปขายในอินโดฯ

คุณคิดว่าระหว่างสินค้าอินโดนิเซียออกไปจีน กับสินค้าจีนเข้าอินโดนิเซีย แบบไหนจะเยอะกว่ากัน

กลยุทธนี้คุ้นๆ แหะ....... เหมือนได้ยินแว็บๆ ที่เมืองไทยกับมาเลย์เซีย รวมไปถึงอเมริกาด้วย

ดูดีมาก.. เหมือนจะช่วย แต่ในอีกทางคือเปิดเส้นทางการค้านำสินค้าตัวเองเข้ามามากกว่า เพราะความได้เปรียบด้านราคาและต้นทุนของสินค้าจีน ส่วนใหญ่ ยังไงจีนก็ชนะ......

รัฐบาลต่างๆ ก็ดีใจ เปิดรับ Jack Ma ใหญ่ เพราะเค้าเป็นคนดังถึงระดับโลก (Jack ถือว่าเป็นคนที่ใช้ Personal Branding ตัวเองในการเข้าถึงผู้นำระดับประเทศได้เก่งจริงๆ) และการได้ Jack Ma มาเป็นที่ปรึกษา ก็ทำให้รัฐบาลประเทศนั้นๆ ดูดีขึ้นอีกด้วย

แต่ส่วนใหญ่รัฐบาลนั้นๆ ก็จะได้ยินแผนอยู่ด้านเดียว คือการช่วยเหลือธุรกิจท้องถิ่น และการส่งออกไปขายจีน แต่อาจจะมองไม่ถึงแผนอีกด้านของ Jack Ma

ยังแอบคิดว่า Jack Ma ไปพูดกับรัฐบาลจีนยังไง?

ให้เดา แกคงบอกว่า “ผมจะเอาสินค้าจีน ส่งออกไปทั่วโลกผ่านทางออนไลน์” รัฐบาลจีนเลยสนับสนุนอย่างเต็มที่

ผมฝากคำถามนี้ไปทางคุณ Suthichai Yoon ถาม Jack Ma ตรงๆ ครั้งก่อนที่แกไปหา Jack ถึงหางโจว คำตอบจากเค้าก็ยังคงเป็น "ยาหอม (Sweet Talk)" เช่นเคย ว่าเราไม่เคยมุ่งเน้นทำธุรกิจท้องถิ่น เราจะสนับสนุนธุรกิจ E-Commerce ท้องถิ่น เราเน้นการค้าระดับโลก

แต่สิ่งที่เห็นกับสิ่งที่เกิด มันเกิดตรงกันข้ามกัน.... สิ่งนี้เกิดขึ้นในแทบทุกประเทศในอาเซียน ผมกับเพื่อนๆ ผมที่ทำ E-Commerce ที่มาเลย์เซีย อินโดนิเซีย เวียดนาม เราต่างเห็นตรงกัน...... ว่ามันไม่ใช่

Jack Ma มาไทยครั้งหน้าหวังว่าคุณสุทธิชัย หยุ่นจะจัดให้ผมเจอเค้าซักครั้ง....... น่าจะมีอะไรสนุกๆ หากผมได้เจอและคุยกับเค้าจริงๆ

รู้สึกว่าทั้งประเทศนี้ มีผมคนเดียวที่ตีกับ Jack Ma นะ ฮ่าๆๆ เขียนถึงประจำ ฮ่าๆ”

ผมเห็นด้วยกับคุณภาวุธนะครับว่าเราจะต้องมองปรากฏการณ์อาลีบาบาให้ครบทุกมิติและไม่ควรจะ “ตายใจ” คิดว่าเขาจะเป็น “นักบุญ” ที่จะมาช่วยเราเท่านั้น เพราะเขาก็คือนักธุรกิจที่ต้องการทำกำไร อยู่ที่ว่าเราจะทำให้การคบหาเป็นเรื่อง win-win ของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องอย่างแท้จริง

ครับ ถ้าประสานกับทุกฝ่ายได้ น่าจะได้เห็นคุณภาวุธนำทีมนักธุรกิจไทยกับอาเซียนได้นั่งลงจับเข่าถกแถลงกับแจ็ค หม่ากันให้ถึงพริกถึงขิงทีเดียวครับ

และผมก็จะไปบันทึกฉากประวัติศาสตร์นั้นด้วยตัวเองเช่นกัน!

(คืนนี้ติดตามตอนสามของ The Jack Ma Story ทาง Nation TV เวลา20.45 น. ครับ)