“บิ๊กป๊อก” มีกรรม?

“บิ๊กป๊อก” มีกรรม?

ในบรรดา “พี่น้อง 3 ป.” แห่งนักรบบูรพา “ป้อม-ป๊อก-ประยุทธ์” ต่างมีบุคลิกแตกต่างกันไป

“บิ๊กป้อม” อารมณ์ดี พูดจาหยอกเอินตามประสาพี่ใหญ่ใจดี

“บิ๊กป๊อก” พูดน้อย มาดขรึม สมกับชายชาติทหาร ตรงข้ามกับน้องเล็ก “บิ๊กตู่” พูดเยอะ พูดยาว แถมปล่อยมุขกระจาย

ตลอด 3 ปีมานี้ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีมหาดไทย ค่อนข้างเงียบ แต่เดินงานลึกจนคุมกลไกมหาดไทยไว้เบ็ดเสร็จ ดูผลงานตอนที่ลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ จำนวนผู้มาใช้สิทธิ์เป็นไปตามเป้า

มาวันนี้ กลับครึกโครมกับกรณีที่พล.อ.อนุพงษ์ ลงนามในคำสั่งอนุมัติให้ บริษัท เคทีดี พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด ใช้ “ที่สาธารณะห้วยเม็ก” ที่ขึ้นทะเบียนเป็นป่าชุมชนเพื่อขยายเขตโรงงาน

งานนี้กลายเป็นของร้อน ว่าแล้วพี่รองค่ายบูรพาพยัคฆ์ก็ “ลั่นขาด” ว่า ถ้ามีค้านมาเพียงคนเดียว ก็พับเลย พร้อมขีดเส้นสอบ 15 วัน ต้องจบ

ดูเหมือนเรื่องจะยังไม่จบ เพราะยังมีเรื่องมาเหนือเมฆตามมาติดๆก็เรือเหาะไง

ล่าสุด พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาร ผู้บัญชาการทหารบก เผยว่าหมดอายุการใช้งานแล้ว

เรือลำนี้ซื้อเมื่อปี 2552 ในสมัย พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รับตำแหน่ง ผบ.ทบ.ขณะนั้น ในมูลค่า 350 ล้านบาท

แถม 8 ปี มานี้ ก็รั่วซึมบ่อย จึงไปเก็บไว้ในโรงจอดที่ พล.ร.15 อ.หนองจิก จ.ปัตตานี

มายุคของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็น ผบ.ทบ. ได้ว่าจ้างบริษัทมาดูแลปีละ 50 ล้านบาท โดยมีการนำออกมาบินตรวจการณ์แต่ถูกวิจารณ์ว่าบินต่ำกว่ามาตรฐานที่กำหนด เลยต้องนำมาเก็บไว้จนหมดอายุ

หากถามถึงพลังของบิ๊กป๊อกในกองทัพบก ช่วงตั้งแต่ก่อนนั่งเก้าอี้ ผบ.ทบ. อยู่ ก็ได้รับการจับตามองแล้วว่า คนนี้จะสามารถปกครองกำลังพลในกองทัพได้เป็นอย่างดี

“บิ๊กป๊อก” หรือ “พี่รอง” ในกลุ่มบูรพาพยัคฆ์ มีส่วนสำคัญในการรัฐประหารล้มรัฐบาลทักษิณ ปี 2549 พอสำเร็จก็ได้เก้าอี้ ผบ.ทบ. มาครองในที่สุด

ต่อมาปี 2557 คสช.ยึดอำนาจรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร บิ๊กป๊อกก็กลับมาอีกครั้ง เป็นรองประธานคณะที่ปรึกษา คสช.

“บิ๊กป๊อก” เป็นทั้งจุดอ่อนและจุดแข็งของ คสช. ซึ่งน้องเล็ก “บิ๊กตู่” คงต้องเล่นบทประคองสถานการณ์ไปให้ถึงวันเข้าคูหา

โดยหวังว่า จะไม่สะดุดขาตัวเอง ล้มคว่ำหัวคะมำ เพราะเวลานี้มันออกอาการ “ขาลง” ชัดขึ้นทุกที

คนเรามีกรรม บิ๊กป๊อกเจอทั้งกรรมเก่าและกรรมใหม่ จนต้องทำบุญใหญ่สักที