ผู้ทำนาย 911

ผู้ทำนาย 911

ทุกวิชาชีพที่ต้องใช้ทักษะและพรสวรรค์ เช่น ดนตรี กีฬา ศิลปะ แพทย์ กลยุทธ์ การทหาร ฯลฯ

ล้วนมีการแบ่งแยกระดับขั้นทั้งสิ้น เพราะมันขึ้นกับการฝึกฝน ประสบการณ์ และภูมิปัญญาของแต่ละคน ยิ่งสูงขึ้นไป ยิ่งละเอียดอ่อนลึกซึ้งและสวยงาม

โหราศาสตร์ก็เฉกเช่นเดียวกัน ศาสตร์นี้มีสายวิชามากมาย เช่น ดวงบุคคล ดวงเมือง ดวงกาลชะตา ถ้าจะเรียนให้แตกฉานครบถ้วน ชีวิตเดียวคงไม่พอ นักโหราศาสตร์จึงถนัดไม่เหมือนกันและมีความสามารถไม่เท่ากัน ปัญหาคือคนที่ไม่เคยเรียนแต่ชอบวิจารณ์ในสิ่งที่ตัวเองก็ไม่รู้ไม่เข้าใจ มักเหมารวมว่าศาสตร์นี้งมงายและทุกคนเชื่อถือไม่ได้พอ ๆ กัน

กว่า 7,000 ปีที่โหราศาสตร์สืบทอดต่อเนื่องในทุกอารยธรรมหลักของโลก เช่น เปอร์เซีย บาบิโลเนีย อินเดีย จีน อียิปต์ กรีก โรมัน อาหรับ ยุโรป ฯลฯ เป็นศาสตร์ที่กำเนิดก่อนทุกศาสตร์ในโลก เป็นศาสตร์ที่กษัตริย์ ปราชญ์ และชนชั้นผู้นำเท่านั้นที่ได้เรียน ถ้าไม่มีแก่นสารที่ถูกต้องดีงาม โหราศาสตร์คงหายสาบสูญจากโลกนี้ไปนานแล้ว

ประโยชน์หลักของโหราศาสตร์คือการทำนายอนาคต มันสำคัญมากในดวงเมือง เพราะเราไม่สามารถควบคุมบังคับหรือเข้าไปมีส่วนร่วมได้ หากไม่รู้อนาคตบ้านเมืองเลย ไม่เพียงไม่รู้สึกมั่นคงปลอดภัย แต่ยังไม่สามารถวางแผนเพื่อให้ชีวิตดีขึ้นอีกด้วย

เหตุการณ์ใหญ่ทำนายได้ยาก โดยเฉพาะเรื่องใหญ่ระดับโลกที่เป็นจุดเปลี่ยนประวัติศาสตร์ คนมักค่อนแขะว่า นักโหราศาสตร์เก่งแต่อธิบายตามหลัง หรือทาย 10 ถูก 1 บ้าง ซึ่งอาจจะจริง แต่ไม่ใช่กับทุกคน มีคนที่เก่งจริงและทำได้จริง ครั้งนี้จะพูดถึงผู้ทำนายเหตุการณ์ 911 กัน

วันที่ 11 กันยายน 2001 เกิดเหตุการณ์ช็อคโลก เมื่อผู้ก่อการร้ายจี้เครื่องบินพุ่งเข้าชนตึกเวิล์ดเทรดเซ็นเตอร์และเพนตากอน อเมริกาช่วงนั้นมีสถานะมหาอำนาจใหญ่สุด เพียบพร้อมทั้งความมั่งคั่งทางเศรษฐกิจ พลานุภาพการทหารที่ไม่มีชาติใดเทียบ และความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่ล้ำหน้าสุด ไม่มีใครคาดคิดว่าจะเกิดเหตุการณ์นี้ ยกเว้นนักโหราศาสตร์คนหนึ่ง เขาคือ Robert Zoller

ซอลเลอร์เกิด 25 มกราคม 1947 ที่นิวยอร์ค เริ่มเรียนโหรปี 1970 ช่วงนั้นโหราศาสตร์จิตวิทยา (Psychological Astrology) เฟื่องฟูในอเมริกา มันเน้นอิทธิพลดาวที่มีผลต่อจิตวิทยา เช่น บุคลิกภาพ นิสัยใจคอ แรงจูงใจ จุดอ่อนจุดแข็ง ฯลฯ ปัจจัยเหล่านี้เองที่ส่งผลต่อชะตาชีวิตของบุคคลตามมา ต่างจากยุโรปอินเดียที่นิยมใช้โหราศาสตร์ทำนายเหตุการณ์ (Predictive Astrology)

ทั้ง 2 สายต่างกันอย่างไร ? สายแรกเป็นแนวคิดสมัยใหม่ที่เชื่อว่า มนุษย์สามารถกำหนดชะตาชีวิตตัวเอง คนเราเปลี่ยนดวงได้ ถ้าเปลี่ยนนิสัยใจคอ (คำถามคือเขาเปลี่ยนตัวเองได้จริงหรือ ?) สายหลังเป็นแนวคิดที่ถ่ายทอดมาตั้งแต่ยุคเปอร์เซียบาบิโลเนีย โดยเชื่อว่าทุกเรื่องราวในชีวิตคนถูกกำหนดแน่นอนตายตัวแล้ว เปลี่ยนแปลงไม่ได้ โหราศาสตร์เพียงชี้ให้เห็นว่า อะไรจะเกิดขึ้นเท่านั้น

ตัวอย่างเช่น “อังคารดับ” ในดวงสตรีมักชี้ถึงการหย่าร้าง อังคารดับคืออาทิตย์กุมอังคารใน 5 องศา ในสายจิตวิทยา อาทิตย์คือพลังชีวิต อังคารคือการกระทำ ดาวกุมกันสนิททำให้พลังดาวไม่สมดุล ก่อให้เกิดผลทางลบ เธอใจร้อนวู่วามและโกรธง่าย ทำให้ชีวิตคู่ไม่ยั่งยืน ในอีกสายหนึ่ง อาทิตย์คือสามี อังคารคือการต่อสู้ สงคราม ฯลฯ เธอท้าทาย ข่ม และต่อต้านสามี จึงต้องจบลงด้วยการหย่าร้าง (ต้องพิจารณาเงื่อนไขสำคัญอีกหลายประการก่อนตัดสินชี้ขาด)

โหราศาสตร์จิตวิทยาไม่ถูกกับจริต ซอลเลอร์หันไปศึกษาโหราศาสตร์ยุโรป แต่ตำราหายาก เขาจึงไปเรียนภาษาละตินเพื่อให้สามารถอ่านจากต้นฉบับ ตำราที่ศึกษาเป็นโหราศาสตร์ยุคกลาง (Medieval Astrology) ซึ่งใช้กันแพร่หลายช่วงค.ศ. 800 – 1500 โดยเฉพาะตำราหลักอย่าง Liber Astronomiae ของโหราจารย์อิตาลี Guido Bonatti และ Astrologia Gallica ของโหราจารย์ฝรั่งเศส Jean-Baptiste Morin

กว่า 21 ปีที่ซอลเลอร์ศึกษาและฝึกฝนด้วยตัวเอง เขาค้นคว้าและแปลตำราโบราณมากมาย ความรู้เหล่านี้เป็นสิ่งที่สูญหายไปจากโหราศาสตร์ปัจจุบัน  นั่นทำให้เขากลายเป็นสุดยอดโหราจารย์ของโลก ผลงานยิ่งใหญ่ที่สุดคือการทำนายเหตุการณ์ 911 ล่วงหน้ากว่า 2 ปี

ซอลเลอร์เผยแพร่คำทำนายหลายครั้งในจดหมายเหตุรายเดือน Nuntius ที่ให้กับลูกศิษย์ ฉบับสำคัญคือสิงหาคม 2000 ที่ว่า “...คราสสิงหาคม 1999 มีผล 1 ปีแล้ว มันจะมีผลไปอีก 18 เดือนถึงกุมภาพันธ์ 2002 ปลายพฤษภาคมที่ผ่านมา พฤหัสเสาร์กุมกัน ตั้งแต่กันยายน อเมริกาจะเข้าสู่ช่วงอันตราย ...หลังจากสิ้นสิงหาคม 2001 ไปอีก 6 เดือน อิทธิพลคราสจะส่งผลร้ายหนัก ระวังการโจมตีทางชายฝั่งตะวันออก เป็นภัยจากผู้ก่อการร้ายไอเอส นี่คือคำเตือนครั้งสุดท้าย...”

โดยปกติ คำทำนายประกอบด้วย 2 ส่วนหลัก คือเรื่องราว (What) และเวลา (When) ซอลเลอร์ทำได้มากกว่านั้น เขาเพิ่มเติมว่า “กลุ่มไอเอสทำ (Who)” และ “เป็นการก่อการร้าย (How)” แต่ที่สุดยอดคือ “เกิดที่ชายฝั่งตะวันออก (Where)” ชายฝั่งแอตแลนติกยาว 3,200 กม. ตรงไหนล่ะ ? ซอลเลอร์ตอบคำถามนี้ด้วยการกระทำ มีนาคม 2001 เขาย้ายจากนิวยอร์คไปอยู่แคนาดา คุณว่าเขารู้คำตอบไหม

หลายคนวิจารณ์ว่า ช่วงเวลา 6 เดือนนานไป ไม่ถือว่าถูก ด้วยความสามารถระดับนี้ ถ้าจะทายลึกถึงสัปดาห์ ก็เชื่อว่าทำได้ แต่นี่เป็นเรื่องใหญ่ที่กระทบต่อสาธารณชน จำต้องระวังถ้อยคำ ประโยค “สิ้นสิงหาคม 2001” คือกุญแจสำคัญ อันที่จริง มีนักโหราศาสตร์หลายคนทำนายว่าเกิดเหตุร้ายใกล้ ๆ วันดังกล่าว แต่ไม่มีใครทายว่าก่อการร้าย และไม่มีสักคนที่ทายจุดเกิดเหตุ ซอลเลอร์เป็นคนเดียว (ในโลก) ที่ทำนายล่วงหน้า 2 ปีและถูกต้องครบถ้วน

เขาใช้อะไรทำนาย ? คราสสิงหาคม 1999 คือปัจจัยสำคัญ มันคือสุริยคราส (เต็มดวง) 11 สิงหาคม ที่ 24:30 องศากรกฎ คราสนี้กระทบจุดสำคัญในดวงเมือง แต่เส้นทางคราสไม่ผ่านอเมริกา พฤหัสเสาร์ที่กุมกัน 28 พฤษภาคม 2000 ที่ 28:52 องศาเมษคืออีกปัจจัย นอกนั้นเขาไม่บอก ที่แน่ใจคือซอลเลอร์ใช้หลักวิชายุคกลางที่สูญหายไปจากปัจจุบัน

ความรู้ที่แท้จริงยังมี คนรู้จริงก็มี ใจที่เปิดกว้างย่อมมองเห็น