เมื่อ3ก๊กในครม. หันหลังใส่กัน.. กลิ่นฟุ้งปรับครม.

ที่ต้องพูดอย่างนี้ ก็เพราะช่วงหลังๆ ไปไหนมาไหน มีแต่คนพูดเรื่องนี้กันหนาหูมาก เสียงที่ได้ยินมาก็ไม่ใช่แม่ค้า  คนขับแท็กซี่  หรือประชาชนทั่วไปเสียที่ไหน แต่มันกลับกลายมาเป็นผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมืองต่างหากที่พูดเรื่องนี้

   ฉะนั้นเมื่อมี “ประยุทธ์ 4” ได้ มันก็ย่อมมี “ประยุทธ์ 5” ได้เช่นกัน ส่วนช่วงวันเวลาไหนอย่างไร เขาบอกว่า อดใจรอไม่นานอย่างที่คิด

    เหตุผลที่..ยื้อเพื่อไปต่อไม่ได้  สำหรับครม.ชุดนี้ มันมีอยู่หลายเรื่องหลายปัญหา หากสแกนลงลึกๆ ตอนนี้บอกได้เลยว่า น่าจะอยู่ในสภาพ 3 ก๊ก เป็นอย่างน้อย ก๊กแรกเป็นของ“ท่าน ป.” ประเภทพวกพี่น้องผองเพื่อน, ก๊กที่สองของ“ท่าน ว.” ก๊กนี้เป็นการรวมกลุ่มของผู้สูงวัยด้านกฎหมาย  ก๊กที่สามของ“ท่าน ส.” เป็นกลุ่มที่ติดสอยห้อยตามกันอย่างเนืองๆ ยังไม่นับรวมก๊กผู้สูงวัย ก๊กนี้ตอนนี้อยู่ในสภาพอ่อนแรงอิทธิฤทธิ์แผ่วลง 

   เมื่อ 3 ก๊กเริ่มไม่เข้าขา อะไรๆ ก็เกิดขึ้นได้เสมอ เริ่มที่จะชี้นกไม่เป็นนกซะแล้ว มักมีอาการงัดข้อแตกคอเสมอ ถึงขั้นมีการ “วัดพลัง” กันบ่อยครั้ง ฉะนั้นหากจะยังอยู่ต่อ การทำงานย่อมไม่ง่ายอย่างที่คิด มีแต่ขัดและขวางเป็นระยะๆ ส่วนจะเป็นเรื่องอะไรทั้ง 3 ก๊กย่อมรู้แก่ใจ

   เมื่อสถานการณ์เป็นอย่างนี้ รัฐมนตรีหลายคนเริ่มงานเข้า วันนี้มีเสียงดังกึกก้องสะท้อนออกมาคนนั้นอยู่คนนี้ไป หรือไม่ก็สลับคนนี้ไปอยู่ตรงนั้น สลับคนนั้นไปอยู่ตรงนี้ เรียกว่ามีสารพัดรูปแบบออกมา แต่ที่แน่ๆ ถ้ามีการปรับคณะรัฐมนตรีเกิดขึ้นเมื่อไหร่ เป้าหมายใหญ่น่าที่จะลดสัดส่วน "ท.ทหารอดทน" ออกไปจำนวนหนึ่ง  เริ่มมีการขีดวงกระทรวงที่อยู่ในข่ายเอาไว้แล้ว มีทั้งกระทรวงเศรษฐกิจ สังคม ความมั่นคง รวมไปถึงการต่างประเทศ 

   ความน่าสนใจตอนนี้ ต้องลุ้นต่อ ใคร?จะไป..แล้วใคร?จะมา  แต่ที่แน่ๆ กระทรวงไหนที่มีปัญหาถูกร้องเรียน มีปัญหาจัดซื้อจัดจ้าง หรือเป็นรัฐมนตรีโลกลืม ก็น่าจะเตรียมเนื้อเตรียมตัวไว้บ้างก็ดี  ตัวเลขที่แพลมๆ ออกมาตอนนี้อย่างน้อย 6-7 กระทรวงเข้าไปแล้ว ส่วนหวยจะออกที่ใครตรงไหนอย่าได้กะพริบตาเชียว