จากซีรี่ส์ 4 ถึงซีรี่ส์ 6 เดินทางอย่างไร ถึงเป้าหมายด้วยดี

จากซีรี่ส์ 4 ถึงซีรี่ส์ 6 เดินทางอย่างไร ถึงเป้าหมายด้วยดี

จากซีรี่ส์ 4 ถึงซีรี่ส์ 6 เดินทางอย่างไร ถึงเป้าหมายด้วยดี

เรื่องนี้ บอกไว้ก่อนว่าไม่เกี่ยวกับรถยนต์ แต่เกี่ยวกับนักบริหารมืออาชีพ ที่อยู่ในวัยประมาณ 40-45 ปี เพราะเมื่อวานนี้ ผมต้องไปปาฐกถา ให้คนทำงานมืออาชีพในระดับ “ผู้อำนวยการฝ่าย” ในหลักสูตร “Synergy for Management” พวกเขาอยู่ในวัยนั้นพอดี

เดือนกันยายนเป็นฤดูเกษียณอายุ ทำให้ผมนึกขึ้นมาได้ว่า ผู้บริหารเหล่านี้ ก็ควรเตรียมเกษียณไว้แต่เนิ่นๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ทำอย่างไรพวกเขาจึงจะประคองตนให้ก้าวเดินจาก ซี่รี่ส์ 4 ในวันนี้ ไปจนถึงวันเกษียณ หรือ ซีรี่ส์ฺ 6 ได้ในสภาพที่ไม่บอบช้ำ หรือบาดเจ็บสาหัสระหว่างการเดินทาง

อายุขนาดนี้แล้ว ถ้าเกิดอุบัติเหตุทางวิชาชีพระหว่างการเดินทาง ก็เดือดร้อนมากพอสมควร เพราะคงจะหางานใหม่ได้ไม่ง่ายนัก ที่หนักหนาคือภาระทางการเงิน เพราะบ้านก็ยังผ่อน ลูกก็ยังเรียนหนังสือ ฯลฯ

ถ้าจะให้เป็นการเดินทาง 15 ปีที่ราบรื่น ผมเลยให้ข้อคิดไป 2 ข้อคือ หนึ่ง องค์กรที่คุณทำงานอยู่ด้วย ต้องเป็นองค์กรที่ดีและเติบโตอย่างยั่งยืน สอง ตัวคุณเอง ต้องมีคุณค่าเพียงพอต่อองค์กร

ข้อแรกนั้น ก็เป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วงและท้าทายมากมายอยู่แล้ว เพราะกระแสที่ผมเรียกมันว่า “เทคโนโลยี่ตีแตก” (Disruptive Technology) ที่กำลังกระหน่ำไปทั่วทุกประเภทธุรกิจ ก็ทำให้สั่นสะเทือนไปทั่วทุกหัวระแหงแล้ว ตรงนี้ท้าทายทุกองค์กรว่าจะอยู่รอดได้อย่างไร และมิใช่ภารกิจของบอร์ดหรือซีอีโอ เท่านั้น

แต่คนระดับผู้อำนวยการฝ่ายนี่แหละ ที่ต้องเป็นกำลังสำคัญด้วยเช่นกัน เพราะไม่ว่าบอร์ดหรือซึอีโอ จะกำหนดทิศทางองค์กรไปในทางใด ก็ต้องพึ่งพาคนระดับผู้อำนวยการฝ่ายนี่แหละครับ ที่จะเป็นผู้ปฏิบัติให้บังเกิดผล

ส่วนข้อสอง ก็คือนักบริหารซีรี่ส์ 4 จะสร้างคุณค่าของตน ต่อองค์กร์ได้อย่างไร จึงจะเพียงพอให้ตนเอง ยังดำรงคงอยู่ได้อย่างยั่งยืน จนถึงซีรี่ส์ 6 อย่างมีความสุขและสมประสงค์

หลายคนแนะนำว่า “เมื่อทำอะไร ก็ต้องทำให้ดีที่สุด” แต่ผมขอแนะนำว่า “ให้คิดอยู่เสมอว่า แม้เราทำดีที่สุดแล้ว ก็อาจจะยังไม่ดีพอ” เพราะถ้าคิดอย่างนี้ เราจะไม่หยุดนิ่ง เราจะคิดค้นวิธีใหม่ๆที่ดีกว่าเดิมเสมอ ผมจึงไม่อยากเรียกว่า “ดีที่สุด” แต่ต้องทำให้ “ดีสุดสุด”

เมื่อทำหน้าที่ของเราให้ “ดีสุดสุด” แล้ว จงอย่าลืมว่า เราก็เป็นเพียงฟันเฟืองหนึ่งขององค์กรเท่านั้น ถ้าองค์กรจะยั่งยืนเราต้องมีส่วนส่งเสริมให้ผู้อำนวยการฝ่ายอื่นๆ ซึ่งเป็นแม่ทัพ นายกอง ขององค์กรเช่นกัน บรรลุผลงานที่ “ดีสุดสุด” ของเขา ได้ด้วยเช่นกัน

ถ้ามัวแต่เหม็นหน้ากัน ขัดขา เตะสกัดกัน แบบพัลวันพัลเก องค์กรที่มีเกมแบบนี้เล่นกันทั่วทุกพื้นที่ ในที่สุดก็ไปต่อไม่ได้ เมื่อองค์กรไปต่อไม่ได้ ตัวคุณเองก็จะเดือดร้อนตั้งแต่ตอนยังไม่ถึงซีรี่ส์ 5 ด้วยซ้ำไป แล้วคิดดูว่าถ้าไม่มีที่ใหม่ให้ไปต่อ ชีวิตในซีรี่ส์ 6 ของคุณ จะเป็นเช่นใด

คิดได้อย่างนี้ คุณก็ต้องมุ่งมั่น และทำงานให้ดีสุดสุด แต่ในเมื่อคุณทำงานคนเดียวไม่ได้ ก็ต้องหันมามองว่าทีมงานของคุณเป็นใคร เป็นคนรุ่นไหน คำตอบก็คือพวกเขาเป็น คนเจนวาย ในขณะที่คุณเป็นเจนเอ็กซ์ปลายๆ คุณก็ต้องเข้าใจว่าคนเจนวาย เขาคิดกันอย่างไร

งานวิจัยหลากหลายพอจะประมวลได้ว่า พวกเขาไม่ชอบการทำงานที่มีกฏกติกา และขั้นตอนมากมาย เขามีความเชื่อมั่นในตนเองสูง อยากทำงานกับองค์กรและหัวหน้าที่มีจริยธรรมสูง ไม่ชอบทำงานหนักมากๆ ต้องการความสมดุลระหว่างงานกับการใช้ชีวิตส่วนตัว ต้องการหัวหน้าที่เก่งมากๆ และเป็นโค้ชที่ดี พวกเขาใช้เทคโนโลยี่ได้คล่องแคล่ว และไม่ชอบนั่งทำงานอยู่กับที่ตลอดเวลา ฯลฯ

เมื่อคุณต้องทำงานกับเจนวาย ซึ่งนับวันก็มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ และมีลักษณะนิสัยโดยรวม และมีความคาดหวังเช่นนี้ คุณก็ต้องปรับวิธีคิด วิธีการทำงานให้สอดคล้องต้องกัน เพื่อจะได้ผลงานที่ดีสุดสุด ให้เกิดขึ้นต่อองค์กร

ผมขอแนะนำว่า หนึ่ง ต้องบอกกับทีมงานได้ชัดเจนว่า เป้าหมายของงานที่จะต้องทำนั้น คุณค่าที่จะเกิดขึ้น คืออะไร สอง ต้องเป็นหัวหน้าที่มีคุณธรรมสูง ไม่ประพฤติปฏิบัติ ในเรื่องใดที่ทำให้ทีมงานเกิดข้อกังขา สาม เป็นโค้ชที่ดี ตั้งใจพัฒนาทีมงานด้วยเจตนาที่แรงกล้าและมุ่งมั่น

สี่ ไม่เลือกปฏิบัติ ในเรื่องสถาบัน เชื้อชาติ เพศ สีผิว หรือศาสนา ห้า ม่กลัวเทคโนโลยี่ แม้ไม่คล่องแคล่ว ก็ต้องตามติด เพราะชีวิตและสังคม กำลังอุดมด้วยเทคโนโลยี่ ที่ไล่ตีแตก แหวกเข้าไปทุกวงการ จึงต้องเร่งใช้เทคโนโลยี่อย่างเบิกบาน ปฏิรูปการทำงาน และสร้างนวัตกรรม

หก สร้างสมเกียรติประวัติ งานใดที่เรารับมาทำ งานนั้นต้องสำเร็จได้ด้วยดี เป็นที่ยอมรับเสมอ เพราะไม่ว่าใคร เจนเอ็กซ์ หรือ เจนวาย ก็สบายใจที่จะได้ทำงานกับคนเก่งที่มีผลงานประทับใจ และ เจ็ด สงบนิ่ง และมีสติเสมอ แม้มีแรงกระเพื่อมใดๆ มากระทบ ไม่ว่าจะรุนแรงแค่ไหนก็ตาม นี่จะเป็นอีกบทพิสูจน์หนึ่ง ที่ทำให้คุณได้รับศรัทธาจากทีมงาน

มีสถิติว่า วันนี้ คนเจนวายในยุโรปตะวันตก มีอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อกับอินเตอร์เน็ต ประมาณคนละ 4.5 เครื่อง และจำนวนจะเพิ่มเป็น 6 เครื่องในอีก 3 ปีข้างหน้า ในขณะที่ผู้บริหารระดับเจนเอ็กซ์ต้นๆ หรือกลางๆ บางคน ยังใช้อุปกรณ์ได้ค่อนข้างจำกัด ถนัดอย่างเดียว เลี้ยวเข้าหาไลน์

อย่าชักช้าครับ เพราะวันนี้ มนุษย์พันธ์มิเลเนี่ยม ที่เกิดตั้งแต่ปี 2,000 รุ่นแรกอายุ 17 ปี และกำลังจะเข้าเรียนมหาวิทยาลัย อีกเพียง 5-6 ปีเท่านั้น พอคุณเดินทางถึงซีรี่ส์ 5 มนุษย์พันธ์ใหม่นี้ ก็จะเข้ามาร่วมงานในทีมคุณ อีกแล้ว

ขอให้คุณโชคดี เดินทางไปสู่ซีรี่ส์ 6 ได้อย่างราบรื่นและปลอดภัยครับ