ล้ม‘สตึงมนัม’ ใคร?ได้ประโยชน์

 ล้ม‘สตึงมนัม’ ใคร?ได้ประโยชน์

ไม่ล้ม..ก็ต้องล้ม... สำหรับโครงการโรงไฟฟ้าสตึงมนัม เป็นความร่วมมือระหว่างไทย-กัมพูชา มานานกว่า 30-40 ปี แต่ก็เงียบหายไป

 มาช่วงเดือนธ.ค.2558  เป็นช่วงที่นายกฯฮุน เซน ของกัมพูชามาเยือนไทย ดูเหมือนมีการพูดคุยกันหลายเรื่องอยู่ ระหว่างนายกรัฐมนตรีกัมพูชากับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แต่การพูดคุยวันนั้นดูเหมือนนายกรัฐมนตรีของไทย เป็นผู้เสนอร้องขอให้ผลักดันโครงการนี้ เพื่อให้เกิดความร่วมมือด้านพลังงานและการบริหารจัดการน้ำร่วมกันแบบบูรณาการ การพูดคุยวันนั้น นายกฯฮุนเซน ก็ตกปากรับคำเป็นอย่างดี  

ทำไม?วันนี้ถึงกับต้องสั่งให้ทุกหน่วยชะลอโครงการออกไป  ไม่แน่ใจว่า โครงการนี้เกิดอะไรขึ้น มันมีผลประโยชน์แอบแฝงอยู่ที่ส่วนไหนกับใครอย่างไร ถึงกับต้องประกาศหยุดกลางคัน  หรือว่าโครงการได้ไฟฟ้าไม่คุ้มค่ากับปริมาณน้ำใช่หรือไม่ หรือว่ามี ไอ้โม่ง” ชักใยอยู่ข้างหลัง จนทำให้ใครต่อใครเข้าใจผิด  เรื่องแบบนี้ควรให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องชี้แจงแถลงไขพร้อมๆ กัน ไม่ใช่ต่างคนต่างออกมาตอบโต้ไปวันๆ แบบนี้ 

จริงๆ เรื่องนี้เริ่มส่ง กลิ่นโชย” มาตั้งแต่เดือนก่อนแล้ว ผู้ที่เกี่ยวข้องกับโครงการนี้ถูก รูดซิปปาก กันเป็นทิวแถว ห้ามพูดห้ามให้ความเห็น เลยไม่ค่อยแน่ใจว่า ปมปัญหาของโครงการนี้มันอยู่ในสภาพ ต่างมุมมอง หรือว่า ขัดแย้งเชิงนโยบาย กันแน่ จริงๆ ถ้าประเทศยังไม่พร้อมก็ไม่ควรหยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมา วันนี้เลยไม่แน่ใจว่า กำลังเกิดสงครามภายในหรือสงครามข้ามชาติกันแน่ 

แต่ที่อดคิดไม่ได้ทำไมเรื่องนี้เกิดขึ้นมาร่วม 2 ปี กับ 3 กระทรวงที่เกี่ยวข้อง อยู่ๆ ทำไมถึงเกิดกระแสต้านไม่เห็นด้วยแบบเชี่ยวกราก  บ้างก็มองว่า ราคาค่าไฟฟ้าที่ตกลงไว้ 10.75 บาทต่อหน่วยมัน แพงหูฉี่ บางก็บอกว่ามี คนเอี่ยว กับโครงการนี้ บ้างก็บอกว่า ไม่จำเป็นต้องไปผันน้ำจากกัมพูชา ไทยสามารถสร้างอ่างเก็บน้ำได้เอง ถ้าทำเองได้ทุกอย่างแล้ว ไม่อ้อนวอนร้องขอนายกฯกัมพูชาเพื่อแล้วอีกวันสองวันที่จะเดินทางไปกัมพูชา จะตอบเขาอย่างไร?

 นายกฯประยุทธ์ ต้องสร้างความกระจ่างกับเรื่องนี้ด้วยตัวเอง อย่าปล่อยให้ ไอ้โม่ง หรือใครก็ตามคอยแทะผลประโยชน์อยู่กับโครงการนี้อีกต่อไป ไม่เช่นนั้นประเทศชาติจะเสียหายได้