Game of Coffee สงครามกาแฟที่ปั๊มน้ำมัน

แต่ถ้าถามทุกท่านใหม่วันนี้ อาจต้องใช้เวลาพอสมควรกว่าจะนึกคำตอบได้ว่าขายอะไรกันแน่ เพราะเดี๋ยวนี้เราเข้าไปซื้อนมให้ลูก จ่ายบิลค่าบัตรเครดิต ส่งผ้าซักรีด ล้างรถ หรือกระทั่งรับประทานอาหารได้ในที่เดียว ก็คือปั๊มน้ำมัน จึงเกิดภาพทับซ้อนให้เราสับสนว่า ตกลงนี่เป็นธุรกิจพลังงานหรือว่าธุรกิจค้าปลีกกันแน่?

'อิสต์แวน คัพพิทานี' ผู้บริหารงานค้าปลีก ของ รอยัล ดัทช์ เชลล์ แห่งสถานีบริการน้ำมันเชลล์ เคยให้สัมภาษณ์ว่าช่วงทศวรรษที่ผ่านมานี้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างมากในธุรกิจนี้ สำนักข่าวบีบีซีรายงานว่าในสหรัฐอเมริกายอดขายของปั๊มน้ำมัน80เปอร์เซ็นต์มาจากร้านสะดวกซื้อ ไม่ใช่หัวจ่ายน้ำมัน ขณะที่เชลล์มีปั๊มมากถึง43,000แห่งทั่วโลก และลูกค้ากว่าครึ่งเข้าปั๊มเพื่อซื้อของในร้านสะดวกซื้อและกาแฟคือสินค้าที่ขายดิบขายดีเหลือเกิน อย่างในสหราชอาณาจักรจะจับมือกับแบรนด์คอสตา(Costa Coffee)ลุยตลาดกาแฟสดทั้งประเทศและกำลังขยายไปประเทศอื่นๆด้วย

ยอดขายเฉพาะกาแฟนั้นทะยานเป็นหลายร้อยล้านแก้วในปั๊มเชลล์ และยอดของค้าปลีกเติบโตขึ้นสามเท่าในปี2015 สูงถึงกว่า 1 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ นี่ถือเป็นการปรับตัวครั้งสำคัญของธุรกิจพลังงาน ในวันที่ราคาน้ำมันอยู่ในระดับต่ำกว่าจุดที่เคยรุ่งเรืองมามาก และบรรดาวงการธุรกิจมองว่าปรากฏการณ์ราคาน้ำมันตกต่ำตลอดกาล(Lower Forever Oil Price)จะยังเกิดขึ้นต่อไปเรื่อยๆ นี่ยังไม่นับรวมผลกระทบของยานยนต์ไฟฟ้า(Electric Vehicle) ที่กำลังโลดแล่นบนท้องถนนมากขึ้นในอนาคตด้วย

เมื่ออู่ข้าวอู่น้ำเดิมพร่องลง ก็จำเป็นต้องหารายได้อื่นเข้ามาทดแทน เพราะองค์กรด้านพลังงานแต่ละแห่งล้วนเป็นยักษณ์ใหญ่ ลงทุนสูง มีพนักงานจำนวนมาก ดังนั้นต้องคิดใหญ่ ทำใหญ่อยู่ตลอดจึงจะเลี้ยงปากเลี้ยงท้องและเติบโตต่อไปได้ เรื่องร้านกาแฟในปั๊มน้ำมันของประเทศไทยก็เป็นตัวอย่างที่ดีครับ ต้องยอมรับจริงๆว่าคาเฟ่อเมซอน(Café’ Amazon)ประสบความสำเร็จอย่างมากในการทำตลาด

ผู้บริหารของอเมซอนตั้งเป้าว่าในปี2560นี้จะลงทุนขยายสาขาเพิ่มอีก300สาขา เท่ากับว่าเราจะเห็นนกแก้วและผองเพื่อนจากป่าถึง 2,100แห่ง ส่วนใหญ่อยู่ในปั๊มน้ำมันปตท.ที่เราขับไปใช้บริการทุกวันนี่ล่ะ ถ้าพิจารณารายได้ ปี2559 ยอดขาย8พันล้านบาท ปีนี้ตั้งเป้าโต30เปอร์เซ็น เท่ากับคาเฟ่อเมซอนจะมีรายได้ประมาณกว่า 1 หมื่นล้านบาทในปี2560 ก็พอจะพูดได้แล้วครับว่า ธุรกิจร้านกาแฟในปั๊มน้ำมันเป็น’ธุรกิจหมื่นล้าน’ นี่แค่อเมซอนแบรนด์เดียวนะครับ

สิ่งที่น่าจับตาคือ คู่ท้าชิงอย่างปั๊มพีที(PT)ซึ่งใช้กลยุทธ์’ป่าล้อมเมือง(Small Town Strategy) มาโดยตลอด ปตท.และแบรนด์อื่นปักหมุดถนนสายหลัก พีทีจะเล่นพื้นที่ถนนรองแทน แยกกันชัดเจน และผลตอบรับของพีทีก็ดูดีขึ้นเรื่อยๆ เรื่องขายกาแฟก็ไม่พลาดครับ ล่าสุดไปซื้อกิจการของคอฟฟี่เวิลด์(Coffee World)ในประเทศไทยที่มี100สาขาผ่านมือของบริษัทลูกอย่าง บริษัท กาแฟพันธุ์ไทย จำกัด ปิดดีลที่205ล้านบาท และตั้งเป้าจะขยายเป็น 140 สาขา

ขณะเดียวกันก็ยังรักษาแบรนด์ร้าน’กาแฟพันธุ์ไทย’เอาไว้และจะเปิดครบ200 สาขาในปีนี้ ไม่เพียงเท่านั้นยังมองหาแบรนด์กาแฟที่มีศักยภาพอื่นๆเข้ามาเติมเพิ่มในปั๊มพีทีด้วย น่าคิดทีเดียวว่าพีทีเอาจริงเอาจังกับธุรกิจร้านกาแฟแถมยังเล่นหลายแบรนด์ด้วย ป่าใหญ่อเมซอนกับป่าเล็กพีทีใครจะปรับเกมรุกเกมรับคอกาแฟอย่างไร ในยุคที่กาแฟกลิ่นหอมรัญจวนกลบกลิ่นน้ำมันอย่างทุกวันนี้