คำพิพากษาคดีข้าวจีทูจี มีผลต่อการระบายข้าวที่เหลือหรือไม่

คำพิพากษาคดีข้าวจีทูจี มีผลต่อการระบายข้าวที่เหลือหรือไม่

เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2560 ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นัดฟังคำพิพากษาคดีที่อัยการเป็นโจทก์ฟ้อง

อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ อดีตเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ อดีตอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ อดีตรองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ และอดีตผู้อำนวยการกอง.กองบริหารการค้าข้าวซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ รวม6 คน และกลุ่มพ่อค้าข้าวและพวกเป็นจำเลยอีก22 คน รวมเป็นจำเลย 28 คน ความผิดจากการขายข้าวที่อ้างว่าเป็นจีทูจีที่ไม่เป็นความจริง

ศาลฎีกาฯ พิพากษาว่าจำเลยที่1 ถึง21 ยกเว้นจำเลยที่3 และที่16 ซึ่งหลบหนี มีความผิดตามฟ้องโดยให้จำคุกนายภูมิ 36ปี นายบุญทรง42ปี นายมนัส 40ปี นายทิฆัมพร32 ปี นายอัครพงศ์ 24 ปี นาย อภิชาติ 48ปี ส่วนบุคคลอื่นศาลลงโทษจำคุกลดหลั่นลงตามพฤติการณ์ความผิดและพิพากษาให้บริษัทสยามอินดิก้า จำกัด นายอภิชาติ และบริวารที่เป็นจำเลยในกลุ่มพ่อค้าข้าวร่วมกันชดใช้ค่าเสียหายแก่กระทรวงการคลัง เป็นเงิน16,912,128,273.66บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละเจ็ดครึ่ง นับแต่วันที่รับมอบข้าวตามสัญญาแต่ละฉบับ

จากคำพิพากษาที่เจ้าหน้าที่รัฐที่เป็นข้าราชการฝ่ายการเมืองและข้าราชการปประจำระดับสูง ที่มีหน้าที่รับผิดชอบในการบริหารจัดการข้าว ถูกลงโทษจำคุกในอัตราสูง ส่วนพ่อค้าข้าวที่มีบทบาทสำคัญในการกรกระทำผิดในครั้งนี้ ก็ถูกลงโทษจำคุกสูงที่สุด โดยบริวารของพ่อค้าข้าวดังกล่าวก็ถูกลงโทษจำคุกลดหลั่นกันไป และศาลยังพิพากษาให้บริษัทสยามอินดิก้า จำกัด และจำเลยที่เป็นเอกชนร่วมกันชดใช้ค่าเสียหายให้รัฐเป็นเงินถึง หมื่นหกพันกว่าล้านบาท ทำให้มีคำถามตามมาคือ

  1. เหตุใดผู้กระทำผิดที่เป็นเจ้าหน้าที่รัฐ จึงไม่ถูกศาลพิพากษาให้ชดใช้ค่าเสียหายให้รัฐด้วย มีเพียงกลุ่มพ่อค้าข้าวที่เป็นเอกชนเท่านั้นที่ต้องชดใช้ค่าเสียหายให้รัฐ

คำตอบคือการเรียกให้ผู้กระทำความผิดที่เป็นเจ้าหน้าที่รัฐให้ชดใช้ค่าเสียหายให้หน่วยงานของรัฐ ต้องดำเนินการตามพระราชบัญญัติความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ.2539 ซึงบัดนี้มีการออกคำสั่งทางปกครองให้จำเลยส่วนที่เป็นเจ้าหน้าที่รัฐชดใช้ค่าสินไหมทดแทนแล้ว ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนใช้มาตรการบังคับทางปกครอง ยึดหรืออายัดและขายทรัพย์สินของจำเลยเหล่านั้นนำเงินมาชดใช้ค่าเสียหาย สำหรับจำเลยที่เป็นกลุ่มพ่อค้าข้าว ไม่ใช่เจ้าหน้าที่รัฐ ไม่อยู่ในบังคับของพระราชบัญญัติความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. 2539 กระทำความผิดเป็นคดีแพ่งที่เกี่ยวเนื่องกับคดีอาญา อัยการโจทก์จึงขอให้ศาลมีคำพิพากษาให้ชดใช้ค่าเสียหายพร้อมคำพิพากษาคดีอาญาในคราวเดียวกันเลย

  1. จากการที่อดีตข้าราชการการเมืองกระทรวงพาณิชย์และอดีตข้าราชการชั้นผู้ใหญ่กรมการค้าต่างประเทศที่มีหน้าที่บริหารจัดการข้าวถูกศาลพิพากษาลงโทษจำคุกสูงดังกล่าว มีคำถามตามมาอีกว่า มีผลกระทบต่อการปฏิบัติหน้าที่บริหารจัดการข้าวโดยเฉพาะการระบายข้าวของข้าราชการกรมการค้าต่างประเทศปัจจุบันหรือไม่อย่างไร

คำตอบจากแหล่งข่าวในกรมการค้าต่างประเทศ ทั้งจากระดับผู้บริหาร และระดับเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการคือ มีผลต่อเจ้าหน้าที่บางรายอยู่บ้าง เพราะอดีตข้าราชการกรมการค้าต่างประเทศที่ถูกลงโทษ เคยเป็นผู้บังคับบัญชา มาก่อน

ส่วนการเกรงกลัวว่าปฏิบัติงานแล้วอาจถูกดำเนินคดีถูกยึดทรัพย์เช่นอดีตข้าราชการดังกล่าวหรือไม่ คำตอบคือแม้จะมีเสียงขู่จากบางฝ่ายอยู่บ้าง เจ้าหน้าที่เหล่านี้ก็ไม่หวั่นไหว เพราะเข้าใจดีว่า การปฏิบัติงานการระบายข้าวในสต๊อกที่มีมากมายมหาศาล ถึง17ล้านตันเศษ และเป็นข้าวที่มีคุณภาพถูกต้องตามมาตรฐานข้าว เพียง2 ล้านตันเศษเท่านั้น เป็นงานที่ยาก ที่หลายฝ่ายก็คิดว่าคงต้องใช้เวลาไม่น้อยกว่าห้าหกปีจึงจะระบายข้าวได้หมด แต่เป็นหน้าที่ที่ต้องทำ เพื่อลดค่าใช้จ่ายจากงบประมาณของแผ่นดินที่ใช้เป็นค่าเก็บรักษาข้าว ค่ารมยา ค่าดอกเบี้ยที่สูงมาก ลดความเสียหายที่มีต่อข้าวหากยิ่งเก็บไว้นานยิ่งเสียหายมากจนถึงอาจเสื่อมไร้ค่าเลย และประการสำคัญเพื่อไม่ให้มีสต๊อกข้าวกดดันราคาข้าวที่ชาวนาจะได้รับ

  1. ณ เวลานี้ ยังมีข้าวในสต๊อกที่รอการระบายอีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งเป็นข้าวที่ผิดมาตรฐานทั้งหมด ผิดมากผิดน้อยตั้งปนกันอยู่ในโกดังเดียวกัน ด้วยความจำเป็นด้านคุณภาพบวกกับความจำเป็นในด้านข้อจำกัดของตลาดข้าวเพื่อบริโภคที่ถึงจุดอิ่มตัวด้านซับพลายแล้ว เพราะข้าวใหม่ของชาวนากำลังจะออก คณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว จึงมีมติเห็นชอบให้ระบายข้าวส่วนนี้เข้าสู่อุตสาหกรรมที่ไม่ใช่เพื่อการบริโภคของคน โดยมีเงื่อนไขต้องควบคุมกำกับดูแลให้ผู้ซื้อนำข้าวไปใช้ในอุตสาหกรรมตามที่แจ้งไว้ ไม่ให้ลักลอบนำออกไปย้อมแมวขายเพื่อการบริโภคของคน

ก่อนมีคำพิพากษาคดีจีทูจี การระบายข้าวส่วนนี้ที่ได้ดำเนินการไปบางส่วนแล้ว ก็ถูกกล่าวหาโจมตีจากบุคคลบางคน ทั้งที่เป็นผู้มีวาระซ่อนเร้นทางการเมือง ผู้เสียประโยชน์และผู้ที่เข้าใจข้อมูลคลาดเคลื่อน ว่า เอาข้าวดีไปขายเป็นข้าวเสียไปทำอาหารสัตว์ เอื้อประโยชน์ให้บุคคลบางคน ส่อทุจริต แล้วแต่จะยกขึ้นมากล่าวหา เลยทำให้มีคำถามตามมากับการระบายข้าวในสต๊อกที่ค้างอยู่ เพื่อเข้าสู่อุตสาหกรรม นั้น เมื่อมีคำพิพากษาคดีจีทูจีออกมา ก็ยิ่งมีเสียงกล่าวหาในการระบายข้าวส่วนนี้มากยิ่งขึ้น เจ้าหน้าที่มีความหวั่นไหวมากขึ้นหรือไม่

ก็ได้รับการยืนยันจากแหล่งข่าวเดิมว่า เจ้าหน้าที่ไม่หวั่นไหว เพราะเห็นว่า การปฏิบัติหน้าที่ในการระบายข้าว เป็นการทำหน้าที่เพื่อลดความเสียหายให้ประเทศชาติ เป็นการชำระสะสางสิ่งไม่ดีที่ผู้ทุจริตทำไว้ต่อการค้าข้าวไทย เป็นการมทำพื่อประโยชน์ส่วนรวม ไม่ได้ทำเพื่อประโยชน์ส่วนตน การระบายข้าวใช้วิธีการประมูลที่เปิดเผย การปฏิบัติงานเป็นไปตามขั้นตอนตามระเบียบแบแผนของทางราชการ ตรวจสอบได้ทุกขั้นตอน กระทำการโดยสุจริต ไม่มีการแสวงหาประโยชน์ที่มิควรได้โดยชอบด้วยกฎหมายไม่ว่าเพื่อตนเองหรือเพื่อผู้อื่น เพราะหากหวั่นไหว ก็อาจปล่อยเกียร์ว่าง สต๊อกข้าวที่เหลือก็จะค้างอยู่ในโกดังสร้างความเสียหายให้ประเทศชาติต่อไป สำหรับกรณีที่ผู้ประมูลซื้อไปเพื่อใช้ในอุตสาหกรรม ที่มีบุคคลบางคนกล่าวอ้างว่ามีปัญหาเรื่องกำลังการผลิต ไม่มีสถานที่เก็บข้าว และอาจมีการลักลอบนำข้าวไปขายเพื่อการบริโภคของคนที่ได้กำไรมหาศาล เรื่องนี้หากปรากฏพยานหลักฐานว่ามีการลักลอบนำข้าวไปขาย ผู้ซื้อต้องรับผิดทั้งทางแพ่ง และทางอาญา ซึ่งต้องมีการว่ากล่าวกันต่อไป