ซูเปอร์บอร์ด ยุทธศาสตร์ชาติ
คณะรัฐมนตรี (ครม.) ให้ความเห็นชอบกรรมการยุทธศาสตร์ชาติผู้ทรงคุณวุฒิ หรือ“ซูเปอร์บอร์ดยุทธศาสตร์”เป็นที่เรียบร้อย
นอกเหนือไปจากกรรมการโดยตำแหน่งที่มีนายกรัฐมนตรี ที่เป็นประธาน พร้อมรองประธาน 3 คน และบรรดาผู้นำเหล่าทัพ
เป็นการแต่งตั้ง 12 ตำแหน่งผู้ทรงคุณวุฒิ จากกรอบ 17 ตำแหน่ง ที่ไม่มีอะไรน่าตื่นเต้น
เพราะ“เปิดรายชื่อ”ออกมาแล้ว ก็ดูเสมือนเป็น“ครม.ฉบับย่อ”ของรัฐบาล
แม้ว่าจะมีชื่อเอกชนที่ติดโผเข้ามาด้วย แต่ก็เป็นบุคคลที่รัฐบาล“ใช้บริการ”และถูกเอ่ยชื่อจนหน้าช้ำ
จึงยังมองไม่เห็นความแปลกใหม่ หรือ“ก้าวไปข้างหน้า”มากกว่าที่มีการบริหารกันอยู่ในปัจจุบัน
โดยเฉพาะเรื่องสำคัญของบ้านเมืองในอนาคตก็จะ“ถูกกำหนด”โดยคนหน้าตาเดิมๆ
นายกรัฐมนตรี ให้เหตุว่าที่ยังเว้นที่ว่างไว้ 5 ตำแหน่ง เพื่อเปิดทางให้คนดีมีฝีมือเข้ามาทำงาน และต้องใช้เวลาในการพิจารณาเพราะมีผู้เสนอตัวเข้ามามาก
ขณะที่อีกด้านมีข้อมูลว่ารัฐบาลพยายามทาบทาม“นักวิชาการ”เข้าร่วมทีม
เพื่อลดโทนความเป็นกรรมการทหาร ที่มีทั้งกรรมการโดยตำแหน่งและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิหลายคน
แต่จนล่าสุดก็ยังไม่มีใครกล้าตอบรับ เพราะกังวลต่อบทบาทและอิสระในการทำงาน
รวมทั้งผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นในวันข้างหน้า โดยเฉพาะเมื่อมีรัฐบาลจากการเลือกตั้ง
รายชื่อที่ปรากฎออกมาขณะนี้สะท้อนว่าสิ่งที่รัฐบาลเคยบอกว่าพร้อมเปิดทางให้ทุกฝ่าย รวมทั้งภาคการเมืองเข้าร่วมทีมไม่น่าจะเกิดขึ้นจริง
น่าจะเพราะรัฐบาลยังไม่ไว้ใจใครและไม่ไว้ใจสถานการณ์ อนุมานจากการไม่“ปลดล็อค”ให้การเมืองเคลื่อนไหว
ขณะเดียวกันกระแสข่าวปรับครม.ที่มีออกมาเป็นระยะ และล่าสุดเหมือนจะเกิดขึ้นในเร็ววันนี้
หากเกิดขึ้นจริงก็อาจไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงมากนัก เพราะรัฐบาลยัง"ไม่เปิดกว้าง”
แม้นายกฯ จะยืนยันว่าการแต่งตั้งทั้งหมดไม่ใช่“การสืบทอดอำนาจ”
แต่การเลือกที่จะเชื่อของประชาชนคงพิจารณาจากหลายองค์ประกอบ โดยเฉพาะ“ข้อมูลเชิงประจักษ์”
ที่แน่นอนว่ามีน้ำหนักมากกว่าเพียงแค่คำพูด !!!