เบื้องหลัง ‘ปู’ล่องหน
เรียกว่า“หักเหลี่ยมหักมุม” เหนือความคาดหมายของทุกฝ่าย เมื่อ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี หายตัวลึกลับไม่ไปตามนัด
ทั้งๆ ที่มีนัดหมายต้องไปรับฟังคำพิพากษาคดีโครงการรับจำนำข้าว ของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองของวันที่ 25 ส.ค.ที่ผ่านมา
แม้ใครต่อใครจะมองว่า “win-win” กับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่ก็มีกลุ่มที่รู้สึกเสียหน้าพอสมควร อุตส่าห์ประคบประหงม เรียกว่า คุมพฤติกรรมแบบไม่คลาดสายตา แต่เหตุไฉนถึงหลุดมือไป จะด้วยเหตุผลตั้งใจไม่ตั้งใจก็ตามแต่ สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้อดคิดไม่ได้ว่า “หลุดมือไปได้อย่างไร” ทั้งๆ ที่เป็นคนที่มีคดีความติดตัว อย่างนี้เท่ากับเพิ่มดีกรีการเคลื่อนไหวต่างแดนของ 2 พี่น้อง ใช่หรือไม่
งานนี้ “ฟันธงยิ่งลักษณ์ คิดเองไม่เป็น” เพราะเป็นเกมหักมุมคนทั้งประเทศทั้งฝ่ายสนับสนุนและฝ่ายค้านแบบไม่ทันตั้งตัว มีคนจำนวนไม่น้อยฟันธงไปที่ “พี่ชาย” ที่มีสไตล์แก้ปัญหาตามสถานการณ์ วางหมากให้น้องสาวเดิมตามเกมเพื่อหลบหนี แสดงว่า งานนี้คนวางหมากคือ “พี่ชาย”
ที่แน่ๆ งานนี้ต้องมีพี่เลี้ยงนำทางพาออกไป มีคนบอกว่า การล่องหนของยิ่งลักษณ์ จะเกิดขึ้น “ยามวิกาล” หลังเที่ยงคืนของวันที่ 23 ส.ค.2560 เป็นยามวิกาลที่แม้กระทั่งคนในบ้านก็ไม่รู้ ว่ากันว่า งานนี้มีเพียง “คนขับรถ-คนถือเงิน(เพศหญิง)ตำรวจคุ้มกันไปส่ง 1 คน” พื้นที่รับส่งแว่วๆ มาว่าแถวๆ “สระแก้ว” จากนั้นพี่ชายส่งคนมารับไม้ต่อ ก่อนนำขึ้นเครื่องบินส่วนตัว ส่งถึงมือพี่ชายที่สิงคโปร์
ส่วนจะมีใครรับอาสาอำนวยความสะดวกการเดินทาง ก่อนจะขึ้นเครื่องบินส่วนตัว ยิ่งลักษณ์ และทีมเท่านั้นที่รู้ดี แต่สิ่งที่น่าคิด ใคร?คือสปอร์ตไลท์นำทางต่างหาก
มีหลายกระแสบอกตรงกันว่า พี่ชายวิเคราะห์มาตลอดทำนอง “น้องสาวไม่รอด”ฉะนั้นหากไม่รอดก็ต้องวางหมากให้หนีคดี ก่อนที่จะถูกตัดสินหรือมีคำพิพากษาออกมา กลเกมที่ออกมาพี่ชายล้วนๆ
การหลบหนีของยิ่งลักษณ์ ยังเป็นเรื่องที่น่าขบคิด ถ้าหลบหนีหลังเสร็จสิ้นภารกิจเดินทางไปทำบุญกราบไหว้สมเด็จโต ที่วัดระฆัง ของวันที่23 ส.ค.2560 ไม่น่าจะเป็นไปได้ แต่ถ้าหายตัวหลังจากเข้าบ้านพักไปแล้ว แสดงว่าวันนั้น หน้าบ้านยิ่งลักษณ์ ไม่มีตำรวจเข้าเวรยามใช่ไหม?หรือว่าสปอร์ตไลท์ นำทาง