Step 7: Replenish the Energy

Step 7: Replenish the Energy

ผมมักบอกใครๆว่า การทำงานคือการพักผ่อนของผม และอาชีพการยืนสอนหน้าห้องนั้น ห้ามลา ห้ามสาย ห้ามป่วย ห้ามตาย นัดใครไว้แล้วต้องไปตามนัด และทำเช่น

“I want you to take at least a week off from work. Stay off your feet. I’ll write a Medical Excuse for your company”  คุณหมอโทมัสบอกผม

“No way doctor. I have a programme next week overseas that I must run.” ผมเด้งพรวดจากเก้าอี้ ก่อนนิ่วหน้าลงไปใหม่ด้วยความเจ็บ

“นั่นก็แล้วแต่คุณ หากหมอจะบอกว่า อาการนี้ถ้าคุณดูแลมันถูกวิธี กินยาสม่ำเสมอและรู้จักผ่อนสั้นผ่อนยาว คุณจะหายขาดจากมัน แต่ถ้าคุณละเลย ก็จะเป็นๆ หายๆ และสุดท้ายจะเป็นเยอะจนรักษาไม่ได้”

“ตอนนี้คุณออกไปได้แล้ว I am done with you for now” บทสรุปอย่างเฉียบขาด

กฏข้อแรกของพลังงาน Energy is conserved พลังงานเป็นอมตะ ไม่มีใครสร้างหรือทำลายพลังงานได้ มันแค่แปรเปลี่ยนไปตามสถานะต่างๆ 

ดังนั้นเมื่อเราใช้มันเรื่อยๆต้นทุนย่อมหมดไป เหมือนหัวหน้าที่เอาแต่บี้รีดงานจากลูกน้อง ก็จะถึงวันที่เขาหมดแรง หรือหมดใจ

Energy transfers เมื่อเราใช่ร่างกายและสมองตลอดหลายสิบปีที่อยู่มา วันละไม่ต่ำกว่า 10-12 ชั่วโมง เราจึงต้องดูแลฝั่ง Input ของมันด้วย

ผมเป็นคนไม่ค่อยป่วย และเคยคิดว่าดูแลตัวเองดีพอสมควร ออกกำลัง เล่นกีฬา น้ำหนักไม่มาก ตรวจร่างกายประจำปีสม่ำเสมอ และด้วยกรรมพันธุ์ชอบคิดว่าเรื่องสุขภาพไม่เป็นไร เจ็บนิดหน่อยก็ทนเอา ไม่อยากเรื่องมากวิ่งหาหมอ ขนาดผ่าตัดวันสองวันก็ไปยืนทำงานต่อได้

จนหมอห้ามทำงานสั่งให้พักครั้งนี้ จึงมานั่งคิดว่าเราอาจต้องเปลี่ยนแปลง

1. Energy depletes สิ่งที่น่ากลัวสำหรับผู้นำคือการผุกร่อนของพลังงาน 

เวลาเราโหมทำอะไรจนสำเร็จ แน่นอนส่วนหนึ่งคือความยินดีในผลลัพธ์ นั่นคือ Step 6: Celebrate Successes แต่อย่าลืมว่าอีกส่วนหนึ่ง ย่อมเป็นการสูญหายของต้นทุน

Energy is an equation พลังงานเป็นสมการที่ไม่มีการสร้างหรือทำลาย เมื่อเราสร้างบางอย่างไปใส่ฝั่งขวา ฝั่ง credit ของผลงาน เราย่อมดึงบางอย่างจากฝั่งซ้ายที่เป็น debit เพื่อรักษาสมดุลด้วย เหมือนอดนอน 2-3 ชั่วโมงเพื่อทำโปรเจคให้เสร็จ อาจรู้สึกแค่เหนื่อยนิดหน่อย แต่สำหรับสมองนั่นคือ sleep deficit ที่ถูกบันทึกไว้

คุณหมอโทมัสอธิบายว่า โรคนี้มักเกิดกับคนที่อายุ 40 ปีขึ้นไป เพราะร่างกายใช้เวลาสะสมสิ่งที่บั่นทอนอยู่นานกว่าจะแสดงอาการ และมันจะสะสมเรื่อยไปในเวลาที่เหลือ หากไม่ดูแลให้สมการบาลานซ์ดีกว่านี้ แม้ดูไม่เป็นอะไรมาก วันหนึ่งจะสายเกินไป

2. Replenishment is a habit สาเหตุที่คน 95% หรือ 19 ใน 20 คนไม่ประสบความสำเร็จในการลดน้ำหนัก คือพวกเขาสร้างนิสัยใหม่ไม่ได้

ผมเองต้องย้อนกลับไปอ่านเรื่อง Habit Loop ในตอน ‘สูตรเทพแห่งการเปลี่ยนแปลง’ เพื่อทบทวนตัวเอง หนึ่งในสิ่งที่คุณหมอแนะนำให้ทำจนเป็นนิสัยใหม่ขึ้นคือดื่มน้ำมากๆ ที่คอนโดใหม่นี้ผมจึงซื้อตู้น้ำดื่มมาติด 

BASE โมเดลของ Brain-Based Leadership บอกว่าสังคมและสิ่งแวดล้อมมีผลอย่างมากต่อการใช้ชีวิตของเรา ดังนั้นหากอยากดื่มน้ำ สิ่งหนึ่งที่ช่วยได้คือทำให้การดื่มน้ำเป็นเรื่องง่าย และมองเห็นได้ใกล้ตัวบ่อยๆ รักแท้แพ้ใกล้ชิดครับ

3. Physical and Mental เรื่องนี้เขียนเป็นตัวอย่างของการดูแลพลังงานตนเองทางกาย แต่อย่าลืมว่าพลังงานทางใจก็สำคัญไม่น้อยไปกว่ากัน

นอกจากกินอาหารให้เหมาะสมกับตนเอง ออกกำลังสม่ำเสมอ และพักผ่อนให้เพียงพอแล้ว ผู้นำควรสร้างนิสัยด้านการ “เจริญสติ” Mindfulness ให้กับตนเองด้วย บางคนใช้วิธีนั่งสมาธิทุกเช้า บางท่านไปปฏิบัติธรรม บางคนเล่นกับลูกทุกเย็น จะใช้กิจกรรมอะไรก็ได้ สิ่งที่สำคัญคือต้องฝึก reframe ให้มองโลกในมุมรื่นรมย์ 

Dr. Jessica Payne นักวิจัยที่มหาวิทยาลัย Notre Dame พบว่า สิ่งที่เติมพลังให้กับคนมี 3 เรื่อง Good Sleep, Moderate Exercise, and a Positive Outlook

“Okay doctor. I’ll take your advice” ผมบอกคุณหมอโทมัส ขอให้ปีเตอร์ช่วยบินไปดูแลโปรแกรมแทน (ครั้งแรกในชีวิตที่ทำอย่างนี้) ขอโทษลูกค้า แล้วพักผ่อนอยู่บ้านทั้งสัปดาห์

หากอยากเป็นผู้นำสมอง ต้องหมั่นดูแลพลังงานให้มันด้วย เพราะสำหรับ Processor ในกะโหลก Input สำคัญไม่น้อยไปกว่า Output

และนี่คือ Step 7 of Leadership Energy Journey: Replenish the Energy