Step 6: Celebrate Successes

Step 6: Celebrate Successes

“Kids, we are moving to KL”  ผมกับเพชรบอกเด็กสองคนตรงหน้า ทั้งครอบครัวเรากำลังจะย้ายตามไปอยู่ด้วยกัน Out-of-Thailand

“Huh. No. We don’t want to go!”  ทั้งคู่ประสานเสียงพร้อมกัน หลังจากนั้นตามมาด้วยการคร่ำครวญยกใหญ่ มิไยพ่อแม่จะปลอบประโลมอย่างไร สมองส่วนหน้าที่ยังไม่พัฒนาย่อมไม่สามารถสู้กับสมองส่วนหลังแห่งอารมณ์ได้ คืนนั้นลูกสาวและลูกชายผมร้องไห้จนหลับไปทั้งคู่

คนที่นอนไม่หลับกลับเป็นพ่อ แม้จะรู้ว่าการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้เพื่ออนาคต แต่น้ำตาของลูกก็อดทำให้หวั่นไหวไม่ได้ว่าเราเลือกถูกหรือเปล่า

Step ก่อนหน้านี้ของ Leadership Energy Journey คือ Channel Towards Usefulness แปลง่ายๆ ว่า เรื่องบางอย่างไม่ต้องชอบแต่ต้องทำ 

การตัดสินใจครั้งนี้ก็เช่นกัน ทั้งพิน และธีร์เรียนโรงเรียนปัจจุบันมาหลายปีแล้ว แม้ทุกอย่างจะดูลงตัว เด็กๆ เข้ากับครู เข้ากับเพื่อน เรียนหนังสือได้ดี แต่มีสิ่งหนึ่งที่พวกเขายังไม่พร้อม นั่นคือการปรับตัวให้อยู่ที่ไหนทำงานร่วมกับใครก็ได้ ซึ่งประสบการณ์ในต่างประเทศน่าจะสร้างทักษะตรงนี้ได้ดีที่สุด

“พินคะ เพื่อนหนูที่เป็นคนดำชื่ออะไร”  ผมถามหลังจากเห็นรูปที่ลูกถ่ายกับเพื่อนๆในห้อง เรามาเรียนซัมเมอร์โปรแกรมของ International School of Kuala Lumpur (ISKL) ได้สองสัปดาห์แล้ว

“ใครคะ”  ลูกสาววัยสิบขวบถามงงๆ

“คนที่ผิวดำไง” ผมบอกอย่างงงๆ บ้าง ก็ในรูปออกจะชัด เด็กร่วมสิบคน มีฝรั่งผมทองสี่ห้าคน มีเอเชียสาม และมีเด็กผิวดำอยู่สองคน พินไม่รู้ได้อย่างไรว่าผมหมายถึงใคร

นั่งคิดอยู่สามสี่วันพ่อจึงเข้าใจลูก สำหรับผม การแบ่งคนด้วยสีผิวเป็นเรื่องปกติ แต่สำหรับพิน เธอไม่เข้าใจว่าพ่อหมายถึงอะไร เพราะเธอไม่เคยใช้สีผิวเป็นการจำแนกคน สมองของเธอไม่รู้จักคำว่าคนผิวขาว คนผิวสี คนผิวดำ เพื่อนก็คือเพื่อน ฉะนั้นเด็กน้อยจึงงงยิ่งนักเมื่อพ่อถามแบบนั้น

“That’s Ava. She’s from Africa. She’s very nice. She plays with me in the morning and during breaks” พินยิ้มร่า เมื่อผมชี้ว่าหมายถึงใคร

ใจคนเป็นพ่อที่แป้วด้วยน้ำตาลูกในคืนนั้น เปลี่ยนมาเป็นหัวใจอันพองฟูด้วยความปิติ รู้สึกยินดียิ่งที่ความใจแข็งในวันนั้น สร้างโอกาสให้ลูกได้เรียนรู้และเติบโตอย่างที่เห็นวันนี้

นี่คือหัวใจของสเต็ปนี้ เป็นการรับรู้ว่าเมื่อเราส่งพลังไปในทิศทางที่เป็นประโยชน์ ผลลัพธ์ดีๆย่อมเกิดขึ้น เหมือนคนชูถ้วยรางวัลสูงเหนือศีรษะ

1. Skills of the future หน้าที่ของพ่อแม่คือการเตรียมความพร้อมให้กับลูก 

ทักษะสำคัญสำหรับอนาคตคือ 1) ต้องคิดต้องเขียนต้องพูดเป็นภาษาอังกฤษ 2) ต้องหมั่นตั้งคำถามและกล้าแสดงความเห็น และ 3) ต้องทำงานกับใครก็ได้ที่ไหนก็ได้อย่างมีประสิทธิภาพ 

การส่งลูกเรียนโรงเรียนอินเตอร์ช่วยให้พินและธีร์มีพื้นฐานที่ดีกับสองข้อแรก ส่วนการเลือกย้ายครอบครัวไปอยู่ต่างประเทศ มีจุดมุ่งหมายคือการพัฒนาข้อที่สาม วันนี้ลูก(น้อง)ของคุณพร้อมแล้วหรือยังครับ

2. Be mindful of your behaviors วาจาและการกระทำคือหน้าต่างสู่สมองและหัวใจ 

ประโยคซื่อๆ กับหน้างงๆ ของเด็กน้อย ทำให้ผมตระหนักว่าลูกผมไม่แบ่งคนด้วยสีผิว น่าเสียดายที่ผู้บริหารระดับสูงบางคนยังคิดไม่ได้แบบนี้ หลายประโยคที่ผมเคยได้ยินกับหู “คนพวกนี้ผมไม่คบ” “คนจีนล้งเล้งไม่มีมารยาท” “เด็กรุ่นใหม่หัวแข็ง ดื้อ” ล้วนสะท้อนอคติที่ฝังลึกอยู่ในใจ หากอยากจะทำงานกับใครก็ได้ ต้องฝึกมองให้พ้น Bias ที่เห็นตรงหน้าเพื่อดึงโอกาส และศักยภาพออกมา จริงอยู่ผู้ใหญ่มีหน้าที่สอนสั่งเด็ก แต่หลายครั้งเด็กก็สอนเราได้ไม่แพ้กัน

3. Measure Successes จะฉลองความสำเร็จได้ต้องรู้ว่าความสำเร็จคืออะไร 

สำหรับบ้านผมเราพาลูกออกไปเรียนนอกประเทศเพราะอยากให้ลูกมีทักษะสามด้านดังกล่าว ภาษาอังกฤษวัดได้เลยว่าแข็งแรงขึ้น สำเนียงดีขึ้น คล่องทั้งพินและธีร์ ความกล้าคิดกล้าถามกล้าเถียง วัดได้จากความหงุดหงิดของแม่ (หุๆ) ข้อสุดท้ายเพิ่งจะได้เห็นกับตาตัวเองนี่แหละว่าทักษะการเข้าไหนเข้าได้ก็สามารถวัดได้จริงๆโดยผ่านพฤติกรรม

วัดแล้วก็อย่าลืม acknowledge ความสำเร็จนั้นด้วย หลังพิมพ์คอลัมน์วันนี้เสร็จ ผมยื่นส่งให้เจ้าลูกสาวที่นั่งเมียงมองอยู่ข้างๆ อ่าน จะได้รู้ว่าพ่อชื่นชมอย่างไร

นี่คือ Step 6 of Leadership Energy Journey: Celebrate Successes ครับ