Step 4: Feel the Energy Flow

Step 4: Feel the Energy Flow

Step 4 of Leadership Energy Journey: Feel the Energy Flow เรากำลังเดินตามเส้นทางของพลังแห่งผู้นำ

จากขั้นแรก Start Now เริ่มตั้งแต่เดี๋ยวนี้ Discover Who You Are หาตัวตนของคุณให้พบ Get Over Activation Barrier ก้าวข้ามกำแพงธรรมชาติเพื่อวัดความตั้งใจจริง สเต็ปที่ 4 คือ Feel the Energy Flow พลังที่ถูกปลดปล่อย

Johan เป็นเด็กหนุ่มชาวเอเชียที่เรียนจบวิศวะจากมหาวิทยาลัยมีชื่อแห่งหนึ่งในออสเตรเลีย เขาได้เกรดค่อนข้างดี มีบริษัทหลายแห่งทาบทามนัดไปสัมภาษณ์

ปัญหาคือ Johan ไม่เห็นภาพตนเองเป็นวิศวกรในอนาคต  

"I couldn’t see myself becoming an engineer for the rest of my life" เขาเล่าให้ผมฟัง "It was fun in school. But to think that this is what I would get out of bed for every morning. I just couldn’t see it."

วันหนึ่ง Johan มีโอกาสได้ร่วมงานการจัดสัมมนาประจำปีขององค์กรที่เขาทำงานด้วย ทุกอย่างถูกวางแผนไว้อย่างดีเยี่ยม องค์ประกอบต่างๆ คำนวณไว้เพอร์เฟ็คตามสไตล์เอนจิเนียร์ แต่มาตกม้าตายตอนจบ เพราะผู้เชี่ยวชาญที่เชิญมาพูดได้น่าเบื่อมาก

"The speakers of the topics were, well, lecturers. They spoke without caring for the audience. That somehow really upset me. And I decided to do something about it." ผู้ฟังที่หมดสภาพในวันนั้น กระตุ้นให้ Johan ลงมือทำอะไรบางอย่าง

ปัจจุบัน Johan เป็น CEO ของ Leap Leadership Academy และ Professional Speaker เขามีพลังทุ่มเททุกวันเพื่อสร้างนักสื่อสารรุ่นใหม่ๆให้กับโลก ด้วยความหวังว่าจะไม่ต้องเผชิญกับภาพที่เห็นในวันนั้นอีก

"I’ve never had to work a day since then" งานไม่ใช่งานอีกต่อไป แต่เป็นการลอยล่องตาม energy flow

1. Flow Zone Dr. Mihaly Csikszentmihalyi กูรูด้านจิตวิทยาชาวฮังการีแห่งมหาวิทยาลัยชิคาโก เรียกขั้นตอนการปลดปล่อยพลังนี้ว่า Flow ใช้ตัวแปรสองตัวคือความสามารถของผู้นำ (Capability) และความท้าทายของกิจกรรม (Challenge) 

เมื่อได้ทำงานที่เหมาะสม เราจะมีสมาธิ ตั้งใจ และมุ่งมั่นกับการทำงานให้ดีที่สุด Flow เกิดขึ้นเมื่อฮอร์โมนหลั่งออกมาอย่างสมดุล หากฮอร์โมนสมองเช่นโดพามีน หรือนอร์เอพิเนฟรินอยู่ในระดับที่ลงตัว สมองส่วนหน้าจะทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ พฤติกรรมคือกระตือรือร้น ทุ่มเท สนใจและผูกพันกับกิจกรรมตรงหน้า

2. Feel It ทักษะหนึ่งที่ผู้นำสมองต้องหมั่นฝึกฝนคือการ ‘รับรู้’ สภาพ Flow ของตนเองและผู้อื่น หากเริ่มรู้สึกว่าพลังตก เช้าๆ เบื่อไม่อยากลุกมาทำงาน บ่ายๆ มองนาฬิกาอยากกลับบ้าน มีอะไรนิดหน่อยวอกแวกเสียสมาธิอยู่เรื่อง แสดงว่าเรากำลัง Underflow ต้องกลับไปลุยกับสเต็ป 1-3 ใหม่ 

แต่หากรู้สึกว่าทุกเช้าเด้งออกจากเตียงมาอย่างสดใส ถึงออฟฟิศปุ๊ปไม่อยากคุยกับใคร โฟกัสกับกิจกรรมตรงหน้าได้นานๆ เวลาผ่านไปรวดเร็วโดยไม่รู้ตัว บางทีทำงานจนมืดค่ำลืมกินข้าวเย็น นั่นแสดงว่าเรากำลังอยู่ใน Flow 

คนรอบตัวก็เช่นกัน ลองสังเกตลูกน้องดูว่าเขาดูสมาธิสั้นไหม นั่งได้สักพักเดี๋ยวลุกๆ เดินเตร็ดเตร่คุยกับคนโน้นคนนี้ หรือเขานั่งโฟกัสกับงานได้ทีละนานๆ

3. Beware of Overflow สภาวะที่เราต้องระวังเป็นพิเศษในสเต็ป 4 นี้เรียกว่า Overflow นั่นคือเรามีพลังอันถูกปลดปล่อยออกมามากเกินไปจนทะลักทะล้น เหมือนเขื่อนที่แตกแล้วน้ำไหล่บ่าไปทั่ว 

ภาษาสมองอาการนี้เรียกว่า Limbic Hijack หรือการที่สมองส่วนหลังถูกท่วมท้นด้วยฮอร์โมนแห่ง Flow จนเลยความพอดี 

พฤติกรรมที่สังเกตได้มักเกี่ยวกับอารมณ์ เช่น ด้วยความที่มุ่งมั่นและโฟกัสกับงานมาก ผู้นำ Overflow จะไม่ค่อยฟังใคร เอาแต่ใจ บางทีถึงกับฉุนเฉียวเกรี้ยวกราดใส่คนรอบตัวยามเจออุปสรรค เปรียบเสมือนน้ำจากเขื่อนที่ล้นเกินโรงงานไฟฟ้ามาท่วมบ้านเรือนพังหมด

อีกอาการหนึ่งของ Overflow อันน่ากลัวสำหรับผู้นำคือการใช้พลังสมองตัวเองไปในทางที่ส่งผลร้าย เช่นทำให้เกิดสภาพ Ego เอาตนเองเป็นใหญ่ Corruption ใช้อำนาจที่มีในทางที่ผิด Greed ความโลภอยากมีอยากได้เกิดสภาพของตน หรือกระทั่ง Complacency ความรู้สึกปล่อยผ่านเพราะทุกอย่างดูยุ่งเหยิงเกินความสามารถ

จำกฏข้อที่ 2 ของ Leadership Energy Laws ได้ไหมครับ Energy is value neutral การมีพลังไม่ได้เป็นเรื่องดีเสมอไป ผู้นำหลายคนใช้พลังไปในทางที่ผิด เช่นนินทาคนต่างแผนกได้ทั้งวันโดยไม่เหน็ดเหนื่อย หรือใช้ทำสิ่งที่ไม่ถูกต้อง เช่นแต่งบัญชีหลอกผู้ถือหุ้น เป็นต้น

ทักษะการรับมือกับสภาพ Overflowing นี้สำคัญขนาดมันจะเป็นสเต็ปต่อไปของ 8-Step of Leadership Energy เลยครับ 

ถ้าอย่างนั้น ตอนนี้สรุปแค่นี้ก่อนStep 4: Feel the Energy Flow ครับ