ลุ้นอสังหาริมทรัพย์ฟื้นตัว

ลุ้นอสังหาริมทรัพย์ฟื้นตัว

ลุ้นอสังหาริมทรัพย์ฟื้นตัว

สรุปภาพรวมตลาด

“SET index ตลาดหุ้นไทยภาพรวมเดือนส.ค. มีแรงซื้อต่อเนื่องหลังจากที่กลุ่มธนาคารได้ประกาศผลประกอบการไตรมาส2/2560ออกมา และกลุ่มภาคการผลิตได้ทยอยประกาศผลประกอบการออกมา ซึ่งโดยรวมแล้วเป็นไปตามที่ตลาดได้คาดไว้และมีบางส่วนที่ต่่ากว่าประมาณการไว้ก่อนหน้า ส่งผลให้มีการปรับตัวลงจากระดับสูงสุดของเดือนส.ค. 1.563.70 โดยกลุ่มพลังงานเป็นกลุ่มหลักที่ผลักดันดัชนี จากสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้าที่ขึ้นแรงจากสถาการณ์ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐและเกาหลีเหนือ

อย่างไรก็ตามความกังวลของตลาดเกี่ยวกับ NPLกลุ่มธนาคารที่อาจเพิ่มขึ้นจากภาวะน้่าท่วม การปรับตัวลงของSETสร้างจุดต่่าของเดือนที่ 1,556.22 สาเหตุหลักจากสถานการณ์ขัดแย้งเกาหลีเหนือ-สหรัฐกดดันสินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลก นักลงทุนขายลดความเสี่ยงในช่วงหยุดยาว เนื่องจากเกาหลีเหนือมีแผนจะทดลองยิงขีปนาวุธใส่เกาะกวมของสหรัฐฯ ( 11-14 ส.ค.) แต่ก็มีนักลงทุนบางส่วนที่เข้าซื้อถือความเสี่ยงจากUpsideรายหลักทรัพย์ที่สูงขึ้นและคาดหวังเรื่องของการจ่ายเงินปันผลระหว่างการชดเชยความเสี่ยงภายนอก ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวไม่ได้เพิ่มความรุนแรงขึ้นตลาดจึงเริ่มกลับตัวขึ้นในลักษณะของการแกว่งตัวในกรอบแคบ และกลับตัวขึ้นมายืนเหนือระดับ 1,565 และ 1,570 ในช่วงสัปดาห์สุดท้ายของเดือนส.ค. โดยปัจจัยบวกเรื่องของDiv.Yieldหรือเงินปันผลจ่ายกลางปีที่จูงใจ

สรุปภาพรวมกลุ่มพัฒนาอสังหาริมทรัพย์

ภาพรวมของทั้งอุตสาหกรรมในไตรมาส 2/2560 ที่ผ่านมา มีกำไรสุทธิ 21,587.92 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 73.52 จากไตรมาสก่อน และเพิ่มขึ้นร้อยละ 40.63 จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน โดยแบ่งเป็นบริษัทที่ได้กำไร 39 บริษัท จาก 52 บริษัทที่ได้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ (ใช้ข้อมูลวันที่ 25 ส.ค. 2560) คิดเป็นร้อยละ 75 ของ จะเห็นได้ว่าหากเราเลือกลงทุนในกลุ่มพัฒนาอสังหาฯในไตรมาส 2/2560 ที่ในช่วงผ่านมา จะพบว่ามีโอกาสสูงถึงร้อยละ 75 ที่สามารถเลือกลงทุนกับบริษัทที่สามารถสร้างกำไรได้ ซึ่งจะส่งผลต่อราคาหุ้นที่จะปรับตัวขึ้นในอนาคต

โดยกำไรสุทธิสูงสุดของกลุ่มน่าโดย PACE 5.31 พันล้านบาท ตามมาด้วย LH 3.61 พันล้านบาท และ CPN 2.48 พันล้านบาทหากพิจารณาบริษัทที่ประกอบธุรกิจอสังหาฯ ที่มีรายได้หลักจากการขายบ้านและคอนโด เราพบว่า PSH (พฤกษา โฮลดิ้ง) มีส่วนแบ่งการตลาดสูงที่สุด โดยมีโครงการใหม่ที่จะปล่อยในปีนี้ถึง 72 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 6.08 หมื่นล้านบาท รวมถึงได้คาดการณ์ยอด Presalesปีนี้ไว้ที่ 5.29 ล้านบาท รองลงมาเป็น SPALI และ AP โดยมีมูลค่ารวม 3.72 หมื่นล้านบาท และ 4.9 หมื่นล้านบาท ตามล่าดับ แต่ถ้าพิจารณาแต่มูลค่ารวมโครงการจะพบว่า ANAN ที่ปล่อยโครงการใหม่ปีนี้เพียง 17 โครงการ แต่กลับมีมูลค่าโครงการสูงถึง 4.3 หมื่นล้านบาทเมื่อเจาะลึกในรายละเอียดลงไป โดยเฉพาะตลาดอสังหาริมทรัพย์เพื่อที่อยู่อาศัย เราเริ่มมองเห็นถึงความคึกคักของธุรกิจนี้ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา

โดยเรามองว่าในปี 2560 นี้ จะมีปัจจัยบวกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐอย่างโครงการประชารัฐสร้างไทย การมี Demand จากชาวต่างชาติเพิ่มมากขึ้น ประกอบกับเศรษฐกิจในปัจจุบันที่กำลังเติบโต การบริโภคภาคเอกชนเริ่มฟื้นตัว ซึ่งปัจจัยบวกเหล่านี้จะส่งผลให้เกิดก่าลังซื้อที่เพิ่มมากขึ้น เป็นผลดีสำหรับภาคธุรกิจอสังหาฯ แต่อย่างไรก็ตามปัจจัยเสี่ยงที่จะส่งผลด้านลบต่อธุรกิจอย่างอัตราการปฏิเสธการขอสินเชื่อจากธนาคารที่เพิ่มขึ้นตั้งแต่ต้นปี ทำให้รายได้ของบริษัทที่มีกลุ่มลูกค้าเป้าหมายในตลาดล่าง (ราคาบ้านและคอนโดต่่ากว่า 3 ล้านบาท) นั้นหดตัวลงอย่างมีนัยสำคัญ

ฝ่ายวิเคราะห์ASLมองว่ากลุ่มลูกค้าที่เป็นเป้าหมายใหม่และจะสามารถสร้างรายได้แก่บริษัทก็ควรจะเป็นลูกค้าที่มีกำลังซื้อมากพอ เพื่อลดอัตราการปฏิเสธสินเชื่อจากธนาคาร และสามารถสร้างรายได้ให้แก่บริษัท เพราะบางครั้งแม้บริษัทจะมี Presales ที่มาก แต่ก็ไม่จำเป็นว่ายอดโอนจริงจะเยอะขึ้นตาม ซึ่งส่งผลกระทบต่อรายได้และกำไรของบริษัทในระยะยาวได้โดยตรง

ดังนั้นบริษัทที่เริ่มเข้าหากลุ่มลูกค้าระดับกลางบนขึ้นไปได้เพิ่มขึ้นก็จะสามารถสร้างรายได้ที่มั่นคง โดยเรามองว่า PSH ANAN และ SIRI เป็นบริษัทที่ประสบความส่าเร็จจากการขยาย segment ไปสู่ลูกค้าระดับบนมากขึ้น

นอกจากนี้ธุรกิจอสังหาฯยังมีความเสี่ยงในเรื่องการด่าเนินงานที่ล่าช้าในการก่อสร้าง แต่เรามองว่าเป็นความเสี่ยงในระยะสั้นต่อรายได้ของบริษัทฝ่ายวิเคราะห์ASL ได้จัดทำบทวิเคราะห์ในกลุ่มพัฒนาอสังหาฯ เราได้ให้คำแนะนำ “ซื้อ” แก่ PSH ที่ราคาเป้าหมาย 27.50 บาท(ออกบทวิเคราะห์วันที่ 25 ส.ค. 2560) และ LPN ที่ราคาเป้าหมาย 12.10 บาท (ออกบทวิเคราะห์วันที่ 16 ส.ค. 2560) หุ้นทั้งสองมีเหมือนกันคือการรักษาระดับของอัตรากำไรขั้นต้นได้ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 30 และยังมีอัตราปันผลตอนแทนที่ค่อนข้างโดดเด่นในกลุ่มนี้ ส่าหรับ PSHเท่ากับ 7.0% และ LPN อยู่ที่ 5.5% นอกจากนี้ยังมีหุ้นที่มีอัตราปันผลตอบแทนสูงกว่า 5% อย่าง LH SIRI SC และ QH ด้วยเช่นกัน ขณะที่ได้ให้

ค่าแนะน่า “ถือ” แก่ CPN ที่มีราคาเป้าหมาย 72.00 บาท (ออกบทวิเคราะห์วันที่ 24 ส.ค. 2560) โดยปีนี้ CPN ถูกกดดันด้านรายได้จากการปิดปรับปรุงพื้นที่ขายใน Central World แต่ในระยะยาว เรามองว่า CPN เป็นหุ้นที่มีผลประกอบการที่มั่นคง กระแสเงินสดแข็งแกร่ง

กลยุทธ์การลงทุน

ในระยะสั้นการแกว่งตัวของSET ที่กลับตัวขึ้นจากจุดต่่า 1,563 และรอบการปรับตัวไม่สร้างจุดต่ำใหม่อย่างมีนัยสำคัญ หรือการเรียงตัวแท่งเทียนมีแนวโน้มเชิงบวกมากขึ้นและมีแนวโน้มที่จะสร้างกรอบแกว่งตัวขาขึ้น Uptrend Channel โดยมีสัญญาณทางเทคนิคที่สำคัญคือการเรียงตัวของSMAที่เริ่มเกิดภาวะBullish กล่าวคือSMA5วันตัดSMA10วันและ25วันขึ้นมา และท่าหน้าที่กรอบแนวรับระยะสั้นที่สำคัญบริเวณ1,570-1,565

การปรับตัวที่ผ่านมาของSETจะมีแรงซื้อเล่นรอบตามระดับแนวรับเนื่องจากระดับค่าสัญญาณIndicatorที่ต่่าและค่าสัญญาณ MACD ที่ตัด Signal ขึ้นมาเป็นสัญญาณบวกและสร้างความมั่นใจในการถือครองรายหลักทรัพย์ โดยเฉพาะดัชนีกลุ่มธนาคารที่สามารถกลับขึ้นมาแกว่งตัวขึ้นตาม SMA5วัน กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ที่การปรับตัวลงทดสอบยืนSMA200วันและเริ่มแกว่งตัวสร้างฐานราคาและมีโอกาสที่จะเกิดสัญญาณการกลับตัวขึ้น

ดังนั้น ภาพรวมของดัชนีSETมีแนวโน้มที่จะทรงตัว การปรับตัวลงทดสอบกรอบแนวรับ 1,570-1,565 คาดจะเกิดแรงซื้อระยะสั้นเพื่อเล่นรอบ และการผ่านแนวต้าน 1,583 จะเป็นสัญญาณบวกและเป็นการยืนยันการแกว่งตัวUptrend Channelต่อเนื่องขึ้นมา ในขณะที่แนวต้านหลักDouble Top 1,591-1,592 การผ่านยืนควรจะมีปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นกว่า 4.5 หมื่นล้านโดยเฉลี่ยต่อเนื่อง