ห่วง‘ประมูลข้าว’ ซ้ำรอย‘จำนำข้าว’
ความน่ากังวลสงสัยในการ“ประมูลข้าวเน่า”ของรัฐบาล ทุกวันนี้ยังคงมีแต่คำกล่าวหาและข้อครหา
โดยยังไม่มีคำชี้แจงที่ชัดเจน
และไม่มีกระบวนการตรวจสอบที่สร้างความสบายใจให้ประชาชนคนไทย
ที่สำคัญข้อพิรุธก็ไม่ใช่มีเพียงการตัดสิทธิ์เอกชนบางรายด้วยเหตุผลที่ฟังยาก หรือการส่อเอื้อประโยชน์เอกชนหลายรายในเรื่อง“คุณสมบัติ”
แต่ยังมีการตั้งข้อสังเกตุอีกมากมาย ที่ตอกย้ำความไม่สมเหตุสมผลในการประมูลข้าวในสต็อกรัฐเพื่ออุตสาหกรรม
อย่างเช่นมีความเป็นได้สูงว่าข้าวที่ถูกประมูลจะไม่ได้เข้าสู่ภาคอุตสาหกรรมจริง แต่น่าจะมีการนำออกขายเพื่อการบริโภค
เพราะเป็นไปไม่ได้ที่ข้าวเน่าจะถูกนำไปทำปุ๋ยอินทรีย์ เนื่องจากไม่มีแร่ธาตุที่เป็นประโยชน์กับพืช
หรือการจะนำไปเผาไฟเพื่อให้ความร้อนก็ยิ่งเป็นไปไม่ได้
เพราะทุกวันนี้ราคาซื้อขายแกลบอยู่ที่กิโลกรัมละ 1.50 บาท จึงไม่มีความจำเป็นต้องซื้อข้าวเน่าในราคาสูงกว่า 2-3 เท่า
ที่สำคัญยังไม่มีใครยืนยันได้ว่าการนำข้าวไปเผาไฟจะให้พลังงานความร้อนดีกว่าแกลบหรือไม่
ขณะเดียวกันขบวนการนำไปผลิตอาหารสัตว์ หากเป็นโรงสีที่ไม่ได้เป็นโรงงานอาหารสัตว์โดยตรง จะทำได้ก็เพียงป่นข้าวแล้วนำไปส่งต่อ
ซึ่งหากโรงงานอาหารสัตว์มีความต้องการ ก็น่าจะเข้ามาซื้อเอง เพราะประหยัดกว่าที่จะต้องผ่านคนกลาง
ดังนั้นจึงเป็นคำถามว่ากรมการค้าต่างประเทศมีการประเมินความเป็นไปได้เหล่านี้มากน้อยแค่ไหน
รวมทั้ง“ผู้หลักผู้ใหญ่”ที่ปล่อยให้เกิดปัญหาจะเข้าข่าย“ปล่อยปละละเลย”จนเกิดความเสียหายต่อรัฐ แบบเดียวกับนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ในคดีจำนำข้าวหรือไม่
และการระบายข้าวที่กำลังจะดำเนินการอีกกว่า 5 แสนตันในเดือนนี้ ภายใต้กติกาเดิม
หากเกิดความเสียหายขึ้นมา จะเข้าข่าย“ไม่ระงับยับยั้ง”แบบเดียวกันหรือเปล่า
เพราะเรื่องนี้มีการทักท้วงมาแล้วจากหลายฝ่ายเช่นเดียวกัน
จึงไม่รู้ว่าที่สุดแล้ว...ซึ่งอาจเป็นในรัฐบาลหน้า จะมีการหยิบเรื่องนี้ขึ้นมาเรียกค่าเสียหายทางปกครอง
หรือมีการฟ้องแพ่ง ฟ้องอาญาแบบเดียวกันนี้หรือไม่ !!?