สงครามเย็น 4.0

สงครามเย็น 4.0

ไม่น่าประหลาดใจอันใด เมื่อ พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์

จะขอความร่วมมือสื่อสถานีโทรทัศน์ทุกช่องลงพื้นที่ทำข่าวการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) สัญจรที่ จ. นครราชสีมา

นัยว่า ได้ขอความร่วมมือในการทำรายงานสกู๊ปข่าวเกี่ยวกับรัฐมนตรีที่ลงไปในพื้นที่ โดยมีการแบ่งความรับผิดชอบ “1 ช่อง 1 รัฐมนตรี”

นี่เป็นหน้าที่ของอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ ยุคสงครามเย็น 4.0 โดยแท้

วันนี้ กรมประชาสัมพันธ์ยุค คสช. กำลังตกอยู่ในสภาวการณ์เดียวกันกับในอดีตคือ ทำสงคราม “แย่งชิงมวลชน”

บังเอิญว่า ยุุคนี้ฝ่ายตรงข้าม คสช. มีทั้งสถานีโทรทัศน์ดิจิตอล 1 ช่อง ,สถานีโทรทัศน์ดาวเทียม 2 ช่อง และสื่อออนไลน์

ฉะนั้น วิธีคิดแบบรัฐราชการรวมศูนย์ ไม่ได้ช่วยให้มวลชนเข้าใจ เข้าถึงนโยบายของรัฐบาลประยุทธ์

ยกตัวอย่างช่วงนี้ ใกล้ดีเดย์คดีจำนำข้าว ว่ากันตามจริง การที่ กสทช.สั่งระงับใบอนุญาตสถานีโทรทัศน์พีซทีวี ไม่มีผลต่อคนเสื้อแดง หรือกองเชียร์เพื่อไทย

เนื่องจากพวกเขายังติดตามข่าวสารของพีซทีวี ได้ทั้งช่องทางยูทู้ป และเฟซบุ๊ค จึงไม่มีผลต่อการสกัดกั้นการรับรู้ของมวลชนคนเสื้อแดงแต่ประการใด

เหนืออื่นใด คนเสื้อแดงส่วนใหญ่นิยมดูช่อง“ทะเวนตี้โฟร์ทีวี” หรือ "ทีวียี่สิบสี่”(TV24) มากกว่า 

เพราะช่องนี้ มีข่าวสารของ “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” ให้รับชมกันเต็มอิ่ม

“ทีวียี่สิบสี่” มีคำขวัญ “ข่าวสารเพื่อคนรักประชาธิปไตย” ออกอากาศจากกองบัญชาการคนเสื้อแดง อิมพีเรียล ลาดพร้าว

อย่างช่วงใกล้ปิดคดีจำนำข้าว ช่องทีวียี่สิบสี่ ออกแคมเปญ “ร่วมให้กำลังใจ อดีตนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” และมีรายการพิเศษ “เกาะติดจำนำข้าว”

คสช.พยายามใช้กลไกมหาดไทยอย่างกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ออกไปบอกชาวบ้านให้นั่งฟังคำพิพากษาคดีจำนำข้าวอยู่ที่บ้าน

ส่วน กอ.รมน.ก็ส่งเจ้าหน้าที่ทหาร ประกบติด “แกนนำแดง” ทุกระดับ จึงทำให้ในพื้นที่ชนบทอีสาน และเหนือ ค่อนข้างเงียบเหงา ไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ

เชื่อว่า คนเสื้อแดงส่วนใหญ่ จะเกาะติดขอบหน้าจอ “ยิ่งลักษณ์ทีวี” มากกว่าจะเดินทางมาที่หน้าศาลฯ