กองเชียร์มาแน่ แต่ไม่‘ก้าวร้าว’
การตัดสินคดี“จำนำข้าว”ของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ 25 ส.ค.นี้ ถูกประเมินจากหน่วยงานความมั่นคงว่าจะมีมวลชนมาให้กำลังใจไม่น้อยกว่า 1พัน
จากที่เคยประมาณเมื่อคราวแถลงปิดคดีว่าจะมี 500 คน
ท่ามกลางการส่งทหารลงพื้นที่เจรจาผู้นำท้องถิ่นและอดีตนักการเมือง ก็ตอกย้ำว่าการขนคนเข้ามาให้กำลังใจมีเค้าความจริง
แม้ว่าท่าทีของฝ่ายความมั่นคงหลายคนออกมาพูดตรงกันว่า"ไม่ปิดกั้น”
แต่ในทางปฏิบัติก็เป็นที่รู้กันดีว่ารัฐบาลก็ไม่อยากจะให้มีภาพของการให้“กำลังใจ”ปรากฎออกมา
ขณะที่กลุ่มคนเสื้อแดงบางพื้นที่พยายามให้ข่าวว่าถูกเจ้าหน้าที่รัฐตามประกบจนกระดิกตัวไม่ได้
แต่ระดับ“แกนนำ”บอกว่างานนี้อย่างไรก็ต้องมี“กองเชียร์” เพราะประการแรกเป็นการให้กำลังใจคนที่รัก
และอีกประการต้องถือว่าเป็นการ“แสดงพลัง”บางอย่าง ที่ยืนยันว่าไม่มีจุดประสงค์ให้เกิดความก้าวร้าว รุนแรง
ดังนั้นท่าทีกับการ“ขับเคลื่อน”ของทั้ง 2 ฝ่ายจึงอาจไม่ได้เป็นไปตามที่ปรากฎออกมาเป็นข่าว
ในส่วนของกองเชียร์มีการจัดพลังมวลชน“กลุ่มหลัก”จากจังหวัดปริมณฑล ไม่ว่าจะเป็นปทุมธานี นนทบุรี สมุทรปราการ ที่สะดวกต่อการเดินทาง
โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากมวลชนภาคอีสาน และเชียงราย เชียงใหม่ ถูกสกัดกั้นจนเดินทางเข้ามาไม่ได้
ขณะเดียวกันประชาชนจากจังหวัดไกลๆ ส่วนหนึ่งก็ออกเดินทางล่วงหน้าไปปฏิบัติภารกิจอื่นเสียก่อน แล้วจึงมาตามนัดหมาย โดยปรับแผนจัดงบสนับสนุนแทนการใช้เงินอปท.ที่ถูกเพ่งเล็ง
เช่นเดียวกับมวลชนอีกบางส่วนที่แยกกันเดินทางเน้นเส้นทางรถไฟ เพื่อให้ยากแก่การตรวจสอบและสกัดกั้น โดยมีทั้งนัดหมายกันที่สถานีรถไฟหลักสี่และสถานีรถไฟดอนเมือง
ขณะที่ในส่วนของภาครัฐนอกจากความพยายามสกัดตั้งแต่ในพื้นที่ จนถึงการบล็อคเส้นทางเข้ากรุง
ยังมีความพยายามใช้มาตรการต่างๆ ทั้งสตง.ตรวจสอบการใช้งบของอปท. การใช้กฎหมายว่าด้วยการชุมนุม ไม่เว้นแม้แต่การงัดเอาพ.ร.บ.จราจร มาใช้
ความพยายามของทั้ง 2 ฝ่ายจะเป็นอย่างไร น่าติดตามเช่นเดียวกับ“คำพิพากษา” !!!