พลิกโลกธุรกิจด้วย บล็อกเชน (2)

พลิกโลกธุรกิจด้วย บล็อกเชน (2)

พลิกโลกธุรกิจด้วย บล็อกเชน (2)

สวัสดีครับ

จากครั้งก่อนที่ผมได้ชวนท่านมารู้จักและทำความเข้าใจเกี่ยวกับเทคโนโลยีบล็อกเชน (Blockchain) แบบง่ายๆ วันนี้จะบอกว่าผมยังคงติดลมอยู่กับความน่าสนใจของเทคโนโลยีบล็อกเชนก็คงไม่ผิดนัก เพราะยิ่งเข้าไปเรียนรู้เรื่องนี้มากขึ้น ผมก็เห็นถึงพลังความสร้างสรรค์ที่ไม่เคยหยุดนิ่งของมนุษย์ที่นำไปสู่การพัฒนาไม่สิ้นสุดครับ

จากคุณสมบัติพื้นฐานของบล็อกเชนที่ขยับขยายสู่การใช้ประโยชน์เพื่อสนับสนุนการทำธุรกิจให้สะดวก รวดเร็ว ง่าย และปลอดภัยมากยิ่งขึ้น เรากำลังเห็นภาพการประยุกต์ใช้บล็อกเชนในระดับองค์กรและสตาร์ทอัพ ที่ส่งผลขยายต่อเนื่องไปสู่ภาครัฐและการใช้งานในระดับประเทศ ซึ่งในบ้านเราแวดวงการเงินธนาคารจะเป็นตัวชูโรงในเรื่องนี้อยู่พอสมควร ในระยะหลังเราจึงได้ยินได้เห็นถึงเรื่องการใช้บล็อกเชนในการให้บริการทางการเงิน อย่างเช่น นวัตกรรมการโอนเงินระหว่างประเทศในแบบเรียลไทม์ หลังทำธุรกรรมเสร็จสิ้นเพียง 2-3 วินาทีต่อมา เงินจากต้นทางในประเทศหนึ่งก็ส่งไปถึงปลายทางในประเทศที่ตั้งอยู่ในอีกซีกโลกเป็นที่เรียบร้อย จากเดิมที่ต้องกินเวลาเป็นวันๆ หรือกระทั่งการใช้บล็อกเชนในการบริหารจัดการงานเอกสารที่มีจำนวนมหาศาลในระบบหลังบ้านของสถาบันการเงิน ไม่ว่าจะเป็นเอกสารสัญญา เอกสารการอนุมัติต่างๆ ให้อยู่ในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ และฝังอยู่ในฐานข้อมูลบล็อกเชน นั่นหมายถึงระดับความปลอดภัยที่มากขึ้น ความสะดวกรวดเร็วก็เพิ่มขึ้น นับเป็นการลงทุนที่ให้ผลดีอย่างชัดเจนในระยะยาว จึงไม่แปลกใจที่เห็นสถาบันการเงินในบ้านเราคึกคักในเรื่องนี้เป็นพิเศษ

ขยับจากระดับองค์กรสู่ระดับประเทศ เมื่อรัฐบาลจีนมีแผนพัฒนาประเทศภายใต้ชื่อ The 13th Five-Year National Informatization Plan ในแผนดังกล่าวมี 6 เรื่องหลักที่จีนให้ความสำคัญและมุ่งขับเคลื่อน ส่วนหนึ่งในนั้นได้มีการระบุว่าจะนำบล็อกเชนมาใช้ในการพัฒนาประสิทธิภาพการทำงานของรัฐบาลให้ดียิ่งขึ้น เช่นในเรื่องของการจัดเก็บและจ่ายคืนภาษี การบันทึกข้อมูลสุขภาพแบบอิเล็กทรอนิกส์ และล่าสุดแผนดังกล่าวได้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรมแล้ว เมื่อรัฐบาลจีนได้มีการประกาศใช้บล็อกเชนในการเรียกเก็บภาษีประชาชนและออกเอกสารทางภาษีในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์อีกด้วย

ไม่เพียงเท่านั้น หลายคนคงเคยได้ยินคำว่า “Cryptocurrency หรือเงินดิจิทัลอยู่บ้าง แท้จริงแล้วเจ้าเงินดิจิทัลนี้ก็มีพื้นฐานมาจากเทคโนโลยีบล็อกเชนด้วยเช่นกัน ซึ่งปัจจุบันเงินดิจิทัลมีอยู่หลายร้อยสกุลเงินด้วยกัน เหมือนที่เรามีสกุลเงินบาท เยน ยูโร หรือดอลล่าร์สหรัฐ แต่สกุลเงินดิจิทัลที่เป็นที่นิยมมากที่สุด อีกทั้งยังเป็นที่ต้องการมากที่สุดในขณะนี้คือสกุลเงินที่มีชื่อว่า Bitcoin นั่นเอง ทุกวันนี้ มีธุรกิจหลายแห่งกำลังพิจารณารับชำระเงินด้วยบิทคอยน์ เกิดมีตลาดซื้อขายเงินดิจิทัล มีความผันผวนในเรื่องของราคาตามความต้องการและกระแสข่าว มีเว็บไซต์หรือบริษัทที่ดำเนินการแลกเปลี่ยนเงินดิจิทัลนี้เป็นมูลค่าหรือจำนวนเงินจริงๆ ที่เราใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน

รายงานการประชุมเวิล์ด อีโคโนมิค ฟอรั่ม (World Economic Forum) ในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา บอกว่าบล็อกเชนกำลังนำพาพวกเราเข้าสู่วิวัฒนาการยุคที่สองของอินเทอร์เน็ต (Second Generation of Internet) ซึ่งจะเข้ามาเปลี่ยนแปลงรูปแบบธุรกิจเดิมๆ จากเดิมที่เป็น Internet of Information สู่ Internet of Value หรือให้เข้าใจง่ายขึ้นก็คือ ที่ผ่านมาเราอยู่ในยุคที่อินเทอร์เน็ตเป็นเครื่องมือที่นำไปสู่การแลกเปลี่ยนข้อมูลและการสื่อสารระหว่างกันทั้งสิ้น แต่ในวันนี้อินเทอร์เน็ตกำลังจะเป็นเรื่องของสินทรัพย์และการส่งต่อมูลค่า

สิ่งที่เล่ามาทั้งหมดนี้ ผมเพียงอยากให้ทุกคนได้เห็นถึงความคึกคัก ความน่าสนใจ และการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญที่เกิดขึ้นจากการใช้เทคโนโลยีบล็อกเชน ซึ่งสำหรับผม นั่นเป็นคำตอบว่าทำไมเราถึงกล่าวได้อย่างเต็มปากเต็มคำว่า “พลิกโลกธุรกิจด้วย บล็อกเชน” ครับ