ทำไมต้องกลัว ปลดล็อกการเมือง

แม้ว่าหลายพรรคจะบอกว่าในฐานะ“ผู้เล่น”พร้อมจะทำตามคนที่“วางกติกา”

แต่เชื่อได้ว่าเป็นเพียงแค่คำพูดปลอบใจตัวเอง และทำใจ“รับสภาพ”

เพราะความเป็นจริงแล้วพรรคการเมืองมีภาระจะต้องดำเนินการตามรัฐธรรมนูญและกฎหมายลูกหลายเรื่อง 

บางพรรคต้องมีการปรับโครงสร้างการบริหารพรรคกันใหม่ เพราะในช่วงสุญญากาศ 3 ปี ผู้บริหารพรรคหลายคนถอดใจออกไปเลี้ยงลูก เลี้ยงหลาน และบางคนก็ตัดสินใจย้ายค่ายไปเป็นที่เรียบร้อย

อีกทั้งการเตรียมตัวลงพื้นที่ด้วยเวลาเพียงประมาณ 1 ปี กับการที่ห่างเหินการเลือกตั้งกันมายาวนาน ก็ไม่ใช่เวลาที่มากนัก

ดังนั้นจึงได้ยินเสียงเรียกร้องจากฝ่ายการเมืองอยู่เป็นระยะว่าขอให้“ปลดล็อกทางการเมือง”

และทุกครั้งก็มีเสียงตอบมาทันควัน จากทั้ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคสช. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม

เหมือนที่ล่าสุด“บิ๊กป้อม”ออกมาตอบแบบดู“ไร้ความหวัง”ว่าไว้สบายใจก่อนแล้วค่อยปลดล็อก

ทั้งหมดนั้นจึงกลายเป็นคำถามว่า“รัฐบาล-ทหาร”กลัวอะไร?

ทำไมจึงไม่กล้าเปิดทางให้พรรคการเมืองทำกิจกรรมตามบทบาทหน้าที่

เพราะพรรคการเมืองเหล่านี้ไม่ใช่กลุ่มก้อนข้างถนน ไม่ใช่กลุ่มคนที่ออกมาปลุกระดม เดินขบวนไล่รัฐบาล

แต่เป็นองค์กรตามกฎหมายที่จะต้องนำพาบ้านเมืองให้ก้าวเดินต่อไปตามวิถี“ประชาธิปไตย”

อีกทั้งในห้วงยามเช่นนี้ คสช.ก็ยังมีอำนาจเต็มมือ ที่ไม่มีใคร“กล้าหือ”

เมื่อเป็นเช่นนี้จึงห้ามไม่ได้ที่ข้อครหาจะเริ่มขยายเป็นวงกว้างว่ามี“ทหาร”บางคนต้องการสานต่ออำนาจ ผ่านสนามการเมือง

รวมไปถึงการขยายความว่าเป็นความจงใจ"เอาเปรียบทางการเมือง ก็เป็นเหตุผลที่รับฟังได้

แม้จะไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าข้อกล่าวหาเป็นจริง แต่ก็ยังไม่เห็นเหตุผลอื่นที่น่าเชื่อถือมากไปกว่านี้ !!!