ไม่เสียดาย! ถอดบทเรียนชีวิต70กะรัต...‘เจ้เล้ง’(1)

ไม่เสียดาย! ถอดบทเรียนชีวิต70กะรัต...‘เจ้เล้ง’(1)

“700 ล้าน เสียดายเงินแต่ไม่เสียดายคน” นี่เป็นคำยืนยันจาก “เจ้เล้ง” ที่พูดถึงข่าวที่ดังเกรียวกราวทั้งเมือง

ที่เธอเลิกกับสามีที่อยู่กินกันมาหลายสิบปีพร้อมกับเงินก้อนโตคงไม่ใช่เรื่องง่ายนักสำหรับผู้หญิงวัยนี้ที่ต้องมาพูดเรื่องส่วนตัวกับสาธารณชน หลายคนจึงสงสัยว่านี่เป็นเกมการตลาด ที่โปรโมทร้านเจ้เล้งให้กลับมาฮือฮาอีกหรือเปล่า?

รายการ Business 101 เดินทางไปที่ร้านเจ้เล้งที่ดอนเมือง ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่า มูลค่ายอดขายในพื้นที่นี้จะเป็นพันล้านบาทต่อปี มีลูกค้าต่างชาติเข้ามาซื้อสินค้าบิลละเป็นล้านบาท ขณะที่ลูกค้าคนไทยก็ยังแวะเวียนเข้ามาชอปปิงเครื่องสำอาง ขนม และสินค้านำเข้าจากต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง 

ร้านเจ้เล้งทำทั้งขายส่ง (Wholesale) และขายปลีก (Retail) ลูกค้าก็จะเป็นคนละกลุ่มกันชัดเจน แม้จะเป็นลูกค้าขายปลีก แต่เนื่องจากสถานที่ตั้งของร้านอยู่ที่ดอนเมือง ลูกค้าต้องตั้งใจขับรถไป มาทั้งทีก็ต้องซื้อให้คุ้มค่ารถ ดังนั้นยอดขายต่อบิลของลูกค้ารายย่อยจึงสูงไปด้วย ชนิดที่ห้างค้าปลีกใหญ่ๆ ที่ติดรถไฟฟ้าต้องมองค้อนเลยทีเดียว 

ตัวเจ้เล้งเดินทางไปต่างประเทศบ่อยๆ เพื่อไปหาสินค้าใหม่มาขายในร้าน เธอจึงรู้จักกับผู้ผลิตสินค้าแทบจะทั่วทุกมุมโลก อีกหนึ่งรายได้เสริมจึงเป็น นายหน้าการค้า(Trader) ซื้อมาขายไป ส่วนนี้แทบไม่มีต้นทุนเพิ่ม ใช้เพียง “คอนเนคชั่น” ที่มีเท่านั้นก็หาเงินได้เป็นหลักล้านบาท 

อะไรที่ทำให้ได้เงิน ไม่เดือดร้อนใคร จะทำทันที” นี่คือหลักการที่นักธุรกิจหญิงคนนี้ยึดถือมาตลอด แม้ว่าร้านเจ้เล้งจะหน้าตาเหมือนร้านขายปลีกแบบดั้งเดิม (Traditional) แต่เมื่อเข้าไปในร้านกลับพบว่ามีเอกลักษณ์ชัดเจน ยากจะหาแบรนด์ค้าปลีกไหนลอกเลียนได้ หนึ่งในนั้นคือตัว “เจ้เล้ง” เอง ซึ่งยืนยันว่าขายความเป็นเจ้เล้งที่ใส่ใจลูกค้า ตรงไปตรงมา และเข้าใจสรรหาสินค้าที่หลากหลายเข้าร้านอยู่เสมอ 

ลูุกเล่นของร้านคือ ใช้การตลาดโดยเล่นกับประสาทสัมผัสของคน(Sensory Marketing) เมื่อเดินซื้อของในร้าน จะได้ยินเสียงของเจ้เล้งพูดบรรยายสรรพคุณของสินค้าตั้งแต่แปรงขัดหน้า ครีมรกแกะ แป้งผสมรองพื้น ไปจนถึงซอสปรุงรสหมูแดงหมูกรอบ ถือว่าครอบจักรวาลจริงๆ เจ้เล้งบรรยายด้วยภาษาง่ายๆ ตรงไปตรงมา บางประโยคก็ตรงจนคนฟังสะดุ้ง แต่ก็ถือเป็นเสน่ห์ที่หาคนเลียนแบบได้ยาก

นอกจากนี้การสื่อสารการตลาดก็ไม่ธรรมดา มีป้ายบอกสรรพคุณสินค้าแบบละเอียดทุกจุด การันตีว่าเจ้เล้ง ใช้เอง กินเอง ขณะเดียวกันพนักงานในร้านถือว่ามีจำนวนมากครอบคลุมทุกพื้นที่ สามารถสังเกตลูกค้าได้ทั่วถึงรวมถึงการเชียร์ขายสินค้าที่ทำโปรโมชั่นอยู่ด้วยความเป็นกันเอง ยิ่งทำให้ซื้อง่ายขายคล่องเข้าไปอีก ถ้ามองอย่างง่ายกลยุทธ์ที่เป็นหัวใจสำคัญก็คือ เรื่องการเฟ้นหาสินค้า(Sourcing) ที่ไม่สามารถพบได้ทั่วไปตามท้องตลาดหรือกระทั่งร้านค้าปลีกขนาดใหญ่ ซึ่งร้านเจ้เล้งจะเป็นผู้นำเเข้า ถ้าอยากขายก็ต้องมาซื้อที่เจ้เล้งเอง นี่ก็จะเป็นส่วนที่ทำเงินได้เป็นกอบเป็นกำ

หลายสิบปีที่ทำธุรกิจเจ้เล้งยึดมั่นเรื่องของความจริงใจกับลูกค้า ไม่โกหก ไม่พูดเกินจริง นอกจากบทบาทนักธุรกิจค้าปลีกแล้ว เธอยังชอบสะสม “อสังหาริมทรัพย์” ด้วยตามประสาคนมีเงินสดมาก กระทั่งวันที่่ไปสัมภาษณ์ ยังมีคนแปลกหน้าเดินมาหาเจ้เล้งเพื่อให้ช่วยซื้อบ้าน “มีมาแบบนี้ทุกวัน” เธอบอก พรุ่งนี้เราจะไปดูแผนธุรกิจจากนี้ต่อไปของเจ้เล้ง ทั้งเรื่องการขยายสาขาใหม่ ยอดขายในปีนี้ และ หลักคิดสำหรับผู้ประกอบการรุ่นใหม่...รอติดตามนะครับ