จาก‘สมชาย’ ถึง‘บุญทรง’

จาก‘สมชาย’ ถึง‘บุญทรง’

เรียกว่าโล่งอกโล่งใจกันไปตามๆ ซะที

สำหรับ สมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี, พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตรองนายกรัฐมนตรี, พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ อดีต ผบ.ตร. และพล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว อดีต ผบช.น. เป็นจำเลยที่ 1-4 ในความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบและโดยทุจริต เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157

ทันทีที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ได้มีคำพิพากษาคดีสลายการชุมนุมกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) ที่ปิดล้อมรัฐสภาในปี 2551 คดีนี้ ป.ป.ช.ได้ยื่นฟ้อง

ศาลได้อ่านคำพิพากษาโดยให้ยกฟ้องจำเลยทั้ง 4 คน เนื่องจากเห็นว่าไม่มีข้อเท็จจริงพิสูจน์ได้ว่า จำเลยมีเจตนาก่อให้เกิดอันตราย หรือมีเจตนาพิเศษที่จะสลายการชุมนุมเพื่อให้เกิดการสูญเสีย

ศาลจึงพิพากษาว่า จำเลยที่ 1, 3 และ 4 ไม่มีความผิดฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และไม่มีความผิดฐานปฏิบัติหน้าที่มิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด ขณะที่จำเลยที่ 2 ได้ลาออกจากตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี หลังผู้ชุมนุมปิดล้อมรัฐสภา

     แต่ก่อนที่ศาลจะมีคำพิพากษาออกมา ดูเหมือนกองเชียร์แต่ละฝ่ายมากหน้าหลายตาอยู่ไม่น้อย ที่มาให้กำลังใจ ฉะนั้นผลที่ออกมาทั้งสองฝ่ายต้องเคารพกับการตัดสินกับคดีที่ค้างคามากว่า 9 ปี

    ที่แน่ๆกองเชียร์ฝั่งของ สมชาย วงศ์สวัสดิ์, พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ เรียกว่า ไปกันอย่างคับคั่งบรรดาอดีตแกนนำ, อดีตส.ส.พรรคเพื่อไทย มีทั้งขาประจำและขาจร แม้กระทั่ง บุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์  ยังร่วมวงไปให้กำลังใจ ด้วยสีหน้าสดใส แบบกำลังใจต้องมีต่อกัน

   ฉะนั้น 25 สิงหาคม 2560 คงจะเป็นวันสำคัญกับคำพิพากษาคดีทุจริตระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) วันนั้นไม่แน่ใจกองเชียร์จะเป็นอย่างวานนี้หรือไม่ แต่ที่แน่ๆ บุญทรง เตริยาภิรมย์  เห็นบอกว่ายังมีกำลังใจดี เตรียมพร้อมไว้แล้ว  เชื่อว่าไม่น่าจะหายไปไหน เพราะเห็นบอกว่าเตรียมหลักฐานจะยื่นฟ้องกรมบังคับคดี และกรมการค้าต่างประเทศ ที่อายัดบัญชีของตนและภรรยา 8 บัญชี แบบว่ากระทำเกินกว่าเหตุ ใครฟ้องใครก็ว่าไป

 ยังไงๆ อย่าปล่อยให้กองเชียร์ไปเก้อก็แล้วกัน