ภัยร้ายของเทคโนโลยีใหม่ ATM Skimmer

ภัยร้ายของเทคโนโลยีใหม่ ATM Skimmer

เตือนภัยอีกครั้งสำหรับผู้ใช้บริการ ATM ภัยร้ายที่ถูกพัฒนารูปแบบที่ยากต่อการป้องกันมีมากขึ้นเรื่อยๆ

ซึ่งเป็นภัยทางธุรกรรมที่ทุกคนในยุคนี้ต้องตามให้ทัน โดยในครั้งนี้โจรได้เปลี่ยนแปลงการขโมยจากบัตรเดบิตหรือบัตรเครดิตโดยใช้อินฟาเรดเพื่อลดโอกาสในการถูกจับได้ให้น้อยลง

จากข้อมูลจาก KrebsOnSecurity เปิดเผยว่า สำหรับรูปแบบการขโมยบัตรจากบัตรเดบิตหรือบัตรเครดิต ทางโจรจะทำการวางอุปกรณ์สกิมเมอร์ (Skimmer) แบบใหม่ ซึ่งใช้หลักการเทคโนโลยีเดียวกันกับการส่งสัญญาณจากรีโมทโทรทัศน์ไปยังเครื่องรับสัญญาณ 

โดยเครื่องสกิมเมอร์ (Skimmer) แบบใหม่จะมีการติดตั้งเสาอินฟาเรดเพื่อใช้ในการส่งข้อมูลที่ขโมยมาจากบัตรของเหยื่อไปยังกล้องที่ถูกซ่อนไว้บริเวณใกล้ตู้ ATM ซึ่งกล้องที่ซ่อนไว้จะทำหน้าที่สองอย่างควบคู่กัน คือ บันทึกเวลาของผู้ใช้เครื่อง ATM ในขณะที่กดรหัส และทำหน้าที่รวบรวมข้อมูลของบัตรเผื่อส่งข้อมูลออกไปด้วยเครื่องสกิมเมอร์ที่แอบติดตั้งไว้ 

กลยุทธ์ใหม่ของโจรนี้ช่วยให้โจรสามารถทิ้งเครื่องสกิมเมอร์ให้ฝังอยู่ใน ATM และเปลี่ยนกล้องใหม่เมื่อแบตเตอรรี่กล้องหมดเท่านั้น อย่างไรก็ตามนายตำรวจนอร์แมน ที่เมือง Oklahoma ได้ตรวจพบเครื่องสกิมเมอร์แบบใหม่นี้ในเครื่อง ATM หลายเครื่อง และได้ทำการเอาเครื่องสกิมเมอร์เหล่านั้นออกแล้ว

แม้ว่าหลายภาคส่วนจะตระหนักในปัญหาอาชกรรมทางการเงินนี้ รวมถึงธนาคารแห่งประเทศไทยจะพยายามหาทางป้องกันการสกิมมิ่ง (Skimming) ด้วยการกำหนดธนาคารต่างเปลี่ยนบัตรเอทีเอ็มเป็นแบบชิพการ์ด (Chip Card) 

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นผู้ใช้เครื่อง ATM ต้องตระหนักและระมัดระวังเช่นกัน โดยจำเป็นต้องตรวจสอบหรือสังเกตตู้ ATM ก่อนเข้าใช้บริการทุกครั้ง ว่ามีอุปกรณ์ต้องสงสัยหรือผิดปกติหรือไม่ และเวลากดรหัสควรจะมีการปิดบังมือเวลากดรหัสเสมอ

อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ถือเป็นภัยใกล้ตัวสำหรับผู้ใช้บัตรเดบิตและบัตรเครดิตที่ต้องระมัดระวังมากขึ้น โดยโจรเหล่านี้มักจะเป็นกลุ่มอาชญากรข้ามชาติ ที่เข้าไปก่อเหตุในหลายประเทศ 

และประเทศไทยซึ่งนับได้ว่าตกเป็นพื้นที่เป้าหมายของอาชญากรเหล่านี้เข้ามาก่อคดีโจรกรรม