โลกกว้างทางไม่แคบ

โลกกว้างทางไม่แคบ

อะไรที่ทำแล้วไม่ชอบ ไม่แฮปปี้ แม้จะได้เงินก็ขอเลือกที่จะไม่ทำ

ปี 2560 ผ่านไปแล้วครึ่งทาง ผมเพิ่งมีโอกาสคิดพิจารณาพอร์ตการลงทุนของตัวเอง เพื่อประเมินผลงาน และปรับปรุงเปลี่ยนแปลงให้เข้ากับสถานการณ์ อันเป็นกิจวัตรที่ทำอยู่เสมอทุกๆ หกเดือน

ช่วงครึ่งปีที่ผ่านมา ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทยเติบโตขึ้น 2% เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2559 ซึ่งทั้งปีโตขึ้น 20% ต้องถือว่า 'แผ่ว' ลงอย่างมาก และหากมองย้อนไปถึงปี 2554 อาจกล่าวได้ว่าหุ้นไทยอยู่ในภาวะ 'sideways' โดยสมบูรณ์ โดยไม่มีทีท่าว่าจะหลุดออกจากเทรนด์นี้ได้ในเร็ววัน

อย่างไรก็ตาม มีหุ้นบางอุตสาหกรรมที่ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม หนึ่งในนั้นคือหุ้น 'กลุ่มท่องเที่ยว' อันเป็นภาพที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิงจากปีที่แล้ว ที่เซคเตอร์ท่องเที่ยวค่อนข้าง 'นิ่ง' ด้วยสาเหตุหลายประการ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การปราบ 'ทัวร์ศูนย์เหรียญ' ที่ทำให้นักท่องเทียวจีนหายไปเป็นจำนวนมาก

โดยส่วนตัว ผมเป็นคนหนึ่งซึ่ง 'bet' กับเซคเตอร์ท่องเที่ยวมาตลอด นั่นทำให้พอร์ตการลงทุนของผมในครึ่งปีแรกเติบโตขึ้นอย่างมาก และสาเหตุที่ผมมั่นใจในอุตสาหกรรมนี้ ก็เพราะผมมองว่ามันเป็น 'สิ่งเดียวที่เหลืออยู่' ของประเทศไทย

ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร ต้นแบบแห่งวีไอไทย เคยกล่าวเอาไว้ว่า ในขณะที่ด้านอื่นๆ ของประเทศไทยต่างมีปัญหา 'การผลิต' สู้ประเทศอื่นไม่ได้ 'การลงทุน' ก็ย้ายไปเวียดนามเยอะแล้ว มีแต่ 'การท่องเที่ยว' ที่ยังเป็นอนาคต ฝากความหวังเอาไว้ได้

เมื่อปัญหาทัวร์ศูนย์เหรียญเริ่มคลี่คลาย หุ้นท่องเที่ยวหลายตัวที่ซึมมานานก็เริ่มกลับมารับประโยชน์โพดผลจากเทรนด์นักท่องเที่ยวจีนอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วยอีกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นหุ้นโรงแรม หุ้นห้างสรรพสินค้า โดยเฉพาะหุ้นท่องเที่ยวที่มีการ 'ผูกขาด' ทางการแข่งขัน อาทิ หุ้นสนามบิน หุ้นบริการน้ำมันเชื้อเพลิงเครื่องบิน ทำเอาราคาวิ่งกันหูดับตับไหม้

แต่ทั้งนี้ เวลาผ่านมาแล้วหกเดือน ผมเริ่มรู้สึกว่า แม้เซคเตอร์ท่องเที่ยวของไทยจะดีแค่ไหน แต่ 'โลกกว้างทางไม่แคบ' การจะทำให้พอร์ตโตอย่างยั่งยืน คงหนีไม่พ้นต้องขยับขยายไปลงทุนหุ้นต่างประเทศ ผมจึงสืบเสาะค้นหาหุ้นไปเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นหุ้นญี่ปุ่น หุ้นเดนมาร์ก หุ้นออสเตรเลีย และอีกหลายๆ ประเทศ

โดยเฉพาะ 'หุ้นจีน' ที่โดยส่วนตัวมองว่าเป็นโอกาสลงทุนอันงดงามอย่างยิ่ง เมื่อเทียบราคากับจีดีพีของแผ่นดินมังกร ณ เวลานี้ ผมถึงกับถามตัวเองอยู่บ่อยครั้งว่า 'ถ้าไม่ใช่ตอนนี้ จะเป็นตอนไหน' และยังไม่เคยที่จะตอบตัวเองได้เลย

โดยสรุป สำหรับครึ่งปีหลังของปี 2560 ผมคงไม่ตั้งเป้าหมายในการลงทุนเป็นตัวเลข แต่ตั้งใจที่จะเรียนรู้จากการลงทุนในหุ้นต่างประเทศให้ได้มากที่สุด หากจะมีเป้าหมายเพียงประการเดียวก็คือ ต้องการที่จะสนุกและมีความสุขกับการลงทุน อะไรที่ทำแล้วไม่ชอบ ไม่แฮปปี้ แม้จะได้เงินก็ขอเลือกที่จะไม่ทำครับ