เมื่อพี่น้องตระกูลลี ฟาดฟันกันในที่สาธารณะ

เมื่อพี่น้องตระกูลลี ฟาดฟันกันในที่สาธารณะ

นั่งคุยกับเพื่อนสิงคโปร์ในช่วงหลังนี้ ต้องกระซิบกระซาบกันเรื่อง “พี่น้องนายกฯทะเลาะกัน” ดังกระหึ่มไปทั่วเกาะ

เผลอ ๆ จะมีผลกระทบไปถึงเสถียรภาพการเมืองของประเทศนั้นไปด้วย

เพราะสิงคโปร์ไม่เคยเจอกับความขัดแย้ง ที่เปิดเผยในครอบครัวของผู้ปกครองประเทศที่เกรียวกราวได้ขนาดนี้

เริ่มด้วยน้องชายและน้องสาวของนายกฯ หลี่เสียนหลงออกแถลงการณ์ กล่าวหาว่าตัวนายกฯ เองไม่ทำตามพินัยกรรมที่คุณพ่อคือลีกวนยิวได้สั่งเอาไว้ นั่นคือเมื่อท่านเสียชีวิตแล้วให้รื้อบ้านหลังที่อยู่นั้นทิ้งเสีย อย่าได้ทำเป็น “อนุสรณ์สถาน” อย่างที่หลาย ๆ ประเทศทำกับผู้นำที่จากไป

ลีกวนยิวเคยให้สัมภาษณ์ว่าเขาเคยไปดูบ้านเก่าของอดีตผู้นำอินเดียเนห์รู และของเช็คสเปียร์ที่อังกฤษแล้ว ก็ตระหนักว่าบ้านช่องของอดีตผู้นำที่เก็บไว้ เพื่อระลึกถึงผลงานนั้นมักจะไม่ได้รับการดูแลรักษาเพียงพอ เกิดภาพรกรุงรังไม่น่าดู เขาจึงบอกลูกหลานว่าเมื่อเขาเสียชีวิตแล้ว อย่าเก็บไว้ ให้รื้อถอนทิ้ง เพื่อว่าที่ดินรอบ ๆ จะได้พัฒนาได้ ราคาที่ดินจะได้สูงขึ้นด้วย

หลี่เสียนหยางและหลี่เว่ยหลิง... น้องชายและน้องสาวของนายกฯหลี่เสียนหลง... ออกแถลงการณ์ร่วมยาว 6 หน้ากล่าวหาว่าพี่ชายใช้อำนาจทางการเมือง ข่มขู่พี่น้องจนพวกเขาอาจอยู่ในประเทศไม่ได้

แถลงการณ์นั้นกล่าวหาด้วยว่านายกฯ หลี่เสียนหลง จะรักษาบ้านหลังนี้ไว้เพื่อสืบสานมรดกทางการเมือง ให้ตกทอดไปถึงลูก ๆ ของเขาด้วย

เล่นกันแรงถึงขั้นเขย่าฐานอำนาจทางการเมืองของพี่ชายทีเดียว

หลี่เสียนหยางมีตำแหน่งเป็นประธานองค์การการบินพลเรือนของสิงคโปร์

หลี่เว่ยหลิงน้องสาวเป็นหมอทางประสาทวิทยา

นายกฯออกมาตอบโต้ว่าคำกล่าวหาของน้องทั้งสองต่อเขาไม่เป็นความจริง เขาต้องขอโทษประชาชนที่ปัญหาในครอบครัว กลายเป็นเรื่องที่รบกวนความรู้สึกของประชาชนชาวสิงคโปร์

จากนั้นก็ทะเลาะกันว่าพินัยกรรมฉบับจริงนั้นอยู่ที่ไหน ต่างฝ่ายต่างกล่าวหาอีกฝ่ายหนึ่งว่าใช้ทนายความของตน เพื่อแก้ไขเนื้อหาในเอกสารทางกฎหมายนั้นให้เป็นไปตามที่ตนต้องการ

คนสิงคโปร์เองก็มีความเห็นแบ่งเป็นสองฝ่าย ด้านหนึ่งเห็นว่าควรจะทำตามเจตนารมย์ของลีกวนยิวว่าให้รื้อบ้านของลีกวนยิว ณ บ้านเลขที่ 38 ถนน Oxley Rd ใกล้ Orchard Rd อันเป็นศูนย์กลางเมืองนั้นเสีย แต่คนอีกจำนวนไม่น้อยก็ต้องการจะรักษาเอาไว้เป็นสมบัติของประเทศสำหรับคนรุ่นหลัง เพราะบ้านหลังนี้ซึ่งเก่าแก่กว่า 100 ปีเป็นตำนานการเมืองและสังคมของประเทศที่ควรจะเก็บรักษาเอาไว้

นายกฯหลี่เสียนหลงบอกว่าจะให้คณะกรรมการที่ตั้งโดยคณะรัฐมนตรีเป็นคนตัดสิน โดยที่ตัวเองจะไม่เข้าไปเกี่ยวข้องโดยตรง

เมื่อน้องชายนายกฯบอกว่าเขาตกอยู่ในสภาพที่ถูกการเมืองกดดันและข่มขู่ อาจจะต้องขออพยพตัวเองออกนอกประเทศ ก็ยิ่งทำให้เกิดภาพความขุ่นข้องหมองใจหนักหน่วงมากขึ้น

เรื่องนี้ไม่เป็นเพียงการทะเลาะกันในครอบครัวลีเท่านั้น หากแต่ยังจะมีผลทำให้ฐานเสียงของนายกฯหลี่ได้รับผลกระทบด้วย เพราะแม้จะมีเสียงกระซิบเป็นระยะ ๆ ถึงปัญหานี้ แต่ก็ไม่เคยระเบิดตูมตามกลายเป็นเรื่องที่ถกกันทุกสภากาแฟรอบเกาะมาก่อนเลย

จำนวน ส.. ของพรรค PAP 83 จากทั้งหมด 89 คนในสภาฯอาจสั่นคลอนในการเลือกตั้งคราวหน้าก็ด้วยเหตุนี้