ความเหลื่อมล้ำในสังคมที่เกิดจากนโยบายรัฐ (1)

ความเหลื่อมล้ำในสังคมที่เกิดจากนโยบายรัฐ (1)

นั่งทบทวนเรื่องราวในอดีตเกี่ยวกับบางโครงการรัฐ แล้วก็อดสงสัยไม่ได้ว่าทำไมหลายโครงการเข้าลักษณะ

 ขึ้นต้นเป็นลำไม้ไผ่ พอเหลาลงไปกลายเป็นบ้องกัญชา

จำได้ว่า โครงการประกันสุขภาพประชาชน ที่เรียกชื่อต่างกันออกไปเป็นโครงการบัตรทองหรือสามสิบบาทรักษาทุกโรคนี้ เริ่มต้นจากแนวคิดของนายแพทย์สงวน นิตยารัมพงศ์ แพทย์ชนบทที่เห็นความเดือดร้อนของชาวบ้านที่อยู่ห่างไกลตัวเมืองต้องเดือดร้อนจากปัญหาสุขภาพอนามัย โรงพยาบาลชุมชนขาดยา ขาดเวชภัณฑ์ เขาจึงเสนอความคิดเพื่อช่วยให้คนยากคนจนได้รับการดูแลอย่างทั่วถึง ขอย้ำอีกที เฉพาะคนยากคนจนเท่านั้น ไม่ใช่ทุกคนในประเทศ

จำได้ว่าพรรคการเมืองในอดีตที่เข้ามาเป็นรัฐบาล เห็นปัญหาชาวนาเกษตรกรยากจนปลูกข้าวแล้วขายไม่คุ้มทุน ต้องเป็นหนี้เป็นสินเดือดร้อนแสนสาหัส โครงการจำนำข้าวหรือประกันราคาข้าวจึงเกิดขึ้นเพื่อให้มั่นใจว่าชาวนาที่ยากจนจะได้ลืมตาอ้าปากได้

ขอย้ำอีกที เฉพาะชาวนาเกษตรกรที่ยากจนเท่านั้น ไม่ใช่ชาวนาทุกคนในประเทศ ไม่ได้คิดจะรับจำนำข้าวที่สูงกว่าราคาตลาดทุกเม็ด หรือประกันราคาข้าวทุกเม็ดของชาวนาทุกคน

แต่ทำไม จึงกลายเป็นว่าประชาชนทั้งประเทศได้รับประโยชน์จากโครงการประกันสุขภาพเหมือนกัน ทั้งๆที่มีความต้องการต่างกัน

ทำไมชาวนาที่ไม่ได้ยากจน กลับได้ประโยชน์ยิ่งกว่าชาวนาที่ยากจน ทั้งๆที่ไม่ได้เดือดร้อนเหมือนชาวนาที่ยากจน

และทำให้เกิดภาระอันหนักอึ้งสำหรับรัฐบาลชุดต่อๆ มาในการหางบประมาณมาโปะทุกปี

คนที่ทำให้เป็นเช่นนี้ คงเป็นใครไม่ได้ นอกจากนักการเมืองและพรรคการเมืองที่หวังประโยชน์ ที่จะกวาดทุกคนเข้ามาเป็นฐานเสียงในการเลือกตั้ง

คนที่ไม่จำเป็น และไม่ยากจนนั้น ถ้าให้ประโยชน์น้อยก็คงไม่สามารถดึงดูดให้มาสนใจพรรคของตนได้ จึงจำเป็นต้องให้มากกว่า มีข้อจำกัดน้อยกว่า จึงจะน่าสนใจ วาดหวังว่าจะเป็นเหยื่อล่อปลาอันโอชะ ให้เหล่าปลาเล็กปลาน้อย ปลาที่หิวและไม่หิว อยากเป็นอยากได้ เข้ามาติดเบ็ด แล้วก็ปล่อยให้ปลาเล็กปลาน้อยในข้องกัดกันเอง ทำร้ายกันเอง จนเกิดบาดแผลเหวอะหวะ ส่วนนักการเมืองและพรรคการเมืองก็มองอยู่ภายนอก

เป็นกลยุทธ์ที่ชาญฉลาดแต่โหดร้ายของนักการเมืองและพรรคการเมืองในอดีตที่ทำกับประชาชน

นักการเมืองประเภทนี้ ถ้าไม่เลวจริง ทำไม่ได้

เราคงไม่มีเรื่องจำนำข้าว ประกันราคาข้าวอีกต่อไป

แต่เรายังมีเรื่องอื่นๆอีกหลายเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องประกันสุขภาพ ที่รัฐต้องดูแลคน 48 ล้านคน ด้วยงบประมาณกว่าแสนล้านบาททุกปี ทั้งๆที่มีผู้ขึ้นทะเบียนคนจนแค่ 14 ล้านคน ถ้ารัฐบาลไม่ทำอะไร คน 34 ล้านคนจะได้ประโยชน์จากโครงการประกันสุขภาพทั้งๆที่อยู่ในฐานะที่จะดูแลตัวเองได้ และเป็นภาระของรัฐบาลมหาศาลต่อไปและตลอดไป เพราะ แท้จริงแล้ว คนที่สมควรได้รับหลักประกันสุขภาพโดยไม่มีค่าใช้จ่ายจริงๆมีแค่ 14 ล้านคน

ชัดเจนว่า ผู้ที่เป็นต้นเหตุแห่งความเหลื่อมล้ำมิใช่ใครอื่น แต่เป็นรัฐบาลที่ออกนโยบายแบบนี้ นโยบายที่ทำให้คนรวยยิ่งรวย คนจนตามไม่ทัน ช่องว่างระหว่างคนรวยกับคนจนถึงได้ห่างมากขึ้นทุกที จนเกือบจะเป็นประเทศที่ประชาชนมีความเหลื่อมล้ำสูงที่สุดในโลกอยู่แล้ว