ไขปมลับ.. แลกคืนรถหรู
1-2 เดือนที่ผ่านมาคงจะเห็นข่าวใหญ่โต ปรากฏว่าตามสื่อกันแทบทุกวัน
จากการไล่ล่าของกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ตระเวนปฏิบัติการตรวจค้นแหล่งนำเข้ารถยนต์หรูหลบเลี่ยงภาษี เรียกว่าไล่ตรวจกันทุกที่ ไม่ว่าจะตามโชว์รูม หรือแม้แต่บริษัทนำเข้ารถหรู ซูเปอร์คาร์ เรียกว่าโดนกันถ้วนหน้า ส่วนใหญ่เป็นรถหรูยี่ห้อดังจริงๆอย่าง มาเซราติ โรลส์-รอยซ์ แอสตัน มาร์ติน แมคลาเรน และเฟอร์รารี เป็นต้น
เป้าหมายการตรวจสอบของดีเอสไอ อาจมองว่าผู้นำเข้ารถหรูทั้งหลาย อาจสำแดงเท็จหรือหลีกเลี่ยงภาษี ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อประเทศชาติ นี่อาจจะเป็นเหตุที่ทำให้ดีเอสไอ ถึงกับต้องปูพรมทำการตรวจสอบในช่วงที่ผ่านมาอย่างหนัก
จริงๆการตรวจสอบพวกที่ชอบหลบเลี่ยงภาษีนำเข้า หรือนำเข้าไม่ถูกต้อง เห็นด้วยอย่างยิ่งว่าสมควรจัดการขั้นเด็ดขาด โดยยึดหลักกฎหมายและทำงานอย่างตรงไปตรงมา อย่าได้หวั่นเกรงอิทธิพลใดๆ ทั้งสิ้น ใครทำผิดทำถูกดีเอสไอย่อมรู้ดี และไม่ต้องหรี่ตาข้างใดข้างหนึ่ง หากผู้นำเข้ารายใดทำผิดจัดการไปเลย
สิ่งที่เกิดขึ้นดูเหมือนจะยังไป“ไม่สุด”วันดีคืนดีก็บอกว่าเข้าตรวจยึด ตรวจค้นที่นั่นที่นี่ แต่ในความเป็นจริงแล้วตกลงตอนนี้มันเป็นอย่างไร อย่าทำเพียงแค่“เป็นข่าว” เป็นภาพปรากฏตามสื่ออีกเลย ช่วยจัดการกับกระบวนการที่คิดว่ามันคดโกงบ้านเมืองสักทีเถอะ
แว่วๆมาว่าตอนนี้มีคนพูดกันหนาหูเหลือทำนองมี“นางนกต่อ” พยายามแจ้งข่าวไปยังกลุ่มลูกค้ารถหรู เหมือนจะปล่อยรถที่ถูกยึดให้แต่กลับมีเงื่อนไขประหลาดๆเกิดขึ้น ทำเอาเจ้าของรถหรูบางรายที่ตกอยู่ในสภาพรถถูกอายัด เกือบจะหลงเชื่อ หรืออยู่ในระหว่างช่างใจอยู่
ก็เพราะมี“นางนกต่อ”พยายามติดต่อเจ้าของรถหรู ประมาณว่าให้มารับรถที่ถูกอายัดไว้ได้ แต่มีเงื่อนไขสำคัญที่เจ้าของรถต้องยินยอมและปฏิบัติตาม ห้ามเป็นข่าว ต้องมีข้อตกลงร่วมประมาณว่าให้นำรถออก แต่หากรถมีปัญหาหรือหายเจ้าของรถต้องชดใช้ดีเอสไอ 15 ล้านบาท สุดท้ายเคลียร์ได้สำเร็จต้องดูแลกัน
ข้อเสนอแบบรถมีปัญหาชดใช้ 15 ล้านบาทอย่างนี้จะมีเจ้าของรถคนไหนกล้ารับข้อเสนออย่างนี้หรือ? ที่สำคัญข้อเสนออย่างนี้ มันใช่ดีเอสไอจริงหรือไม่
หากเป็นเรื่องที่มีคนสร้างกันขึ้นมา ดีเอสไอ พึ่งต้องระวังอย่าปล่อยให้ใครใช้ช่องทางดีเอสไอทำมาหากินกัน