บำนาญสร้างได้ด้วยตัวเอง

บำนาญสร้างได้ด้วยตัวเอง

บำนาญสร้างได้ด้วยตัวเอง โดย : ฝ่ายสื่อสารองค์กร สมาคมประกันชีวิตไทย

ประเทศไทยเริ่มเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2548 และผลการสำรวจทางด้านรายได้ของผู้สูงอายุก็พบว่า 80% ของผู้สูงอายุยังรับเงินจากลูกหลาน และพึ่งพิงการดูแลจากภาครัฐ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการรักษาพยาบาล สาเหตุหลักที่เป็นเช่นนี้สืบเนื่องมาจากในวัยหนุ่มสาวขาดการวางแผนทางการเงินหรือเตรียมตัวก่อนเกษียณ ไม่ได้คำนึงถึงการเจ็บป่วย หรือสูญเสียรายได้หลักหลังวัยเกษียณ ตลอดจนการลดลงของทรัพย์สินจากอัตราเงินเฟ้อและอัตราดอกเบี้ย ทำให้มาตรฐานการคลองชีพเปลี่ยนไปจากเดิม ดังนั้นจะดีกว่าหรือไม่หากเมื่อสูงวัย เกษียณตัวเองจากการทำงานแล้วยังคงมีบำนาญเป็นรายได้หลักให้จับจ่ายใช้สอย

วันนี้จึงขอพาไปรู้จักกับการประกันชีวิตแบบบำนาญหรือแบบเงินได้ประจำ (Annuity) อีกหนึ่งเครื่องมือทางการเงินที่มุ่งเน้นการออมเงินอย่างมีวินัยในขณะที่ผู้ออมกำลังอยู่ในวัยทำงานและเป็นผู้มีรายได้ เพื่อเก็บไว้เป็นค่าใช้จ่ายในยามสูงวัย โดยบริษัทประกันชีวิตจะจ่ายเงินผลประโยชน์ตามความสามารถทางการออมเงิน ณ ขณะนั้น และเป็นไปตามความต้องการของผู้เอาประกันภัยที่ได้มีการวางแผนไว้ในวงเงินที่เท่ากันอย่างสม่ำเสมอทุกปีให้แก่ผู้เอาประกันภัย นับตั้งแต่ผู้เอาประกันภัยเกษียณอายุหรือมีอายุครบ 55 ปี หรือ 60 ปี แล้วแต่เงื่อนไขที่กรมธรรม์ประกันชีวิตกำหนดไว้ (ซึ่งอาจกำหนดให้บริษัทประกันชีวิตจ่ายเงินบำนาญเป็นรายปี ราย 6 เดือน ราย 3 เดือน หรือรายเดือนก็ได้) 

การประกันชีวิตรูปแบบนี้จะเน้นไปที่การออมทรัพย์มากกว่าความคุ้มครอง จึงเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการมีรายได้หลังเกษียณอายุ หรือผู้ที่ต้องการสร้างเงินบำนาญไว้เพื่อใช้จ่ายในยามชรา ความจำเป็นของการประกันชีวิตแบบบำนาญนั้น หากลองคำนวณเงินได้ที่จำเป็นต้องเตรียมไว้เพื่อการยังชีพภายหลังเกษียณอายุด้วยวิธีง่ายๆ เช่น สมมุติว่านาย ก.ต้องการมีเงินหลังเกษียณอายุเดือนละ 10,000 บาท โดยคาดว่าจะมีชีวิตหลังเกษียณไปอีก 10 ปื บุคคลดังกล่าวจำเป็นต้องมีเงินออม (ปรับด้วยอัตราเงินเฟ้อ 4% ต่อปี) เพื่อไว้ใช้จ่าย 1.8 ล้านบาท แต่ถ้าคาดว่าจะมีชีวิตอยู่หลังเกษียณไปอีก 20 ปี จะต้องมีเงินออมสะสมสูงถึง 3.9 ล้านบาท จึงจะเพียงพอตามการคาดคะเน แต่หากต้องการมีเงินใช้หลังเกษียณจำนวนที่มากกว่านี้ก็ยิ่งจำเป็นต้องสะสมเงินออมมากขึ้นกว่าเดิม

ดังนั้น ผู้อยู่ในวัยแรงงานจึงควรตระหนักถึงการจะวางแผนการออมอย่างไรให้เพียงพอกับค่าใช้จ่ายตามความจำเป็นภายหลังเกษียณอายุ ทั้งค่าใช้จ่ายในการดำรงชีพ และค่ารักษาพยาบาล ซึ่งค่าใช้จ่ายเหล่านี้เกิดขึ้นได้ตลอดเวลาและไม่สามารถคาดการณ์ได้ ดังนั้นการประกันชีวิตแบบบำนาญ หรือแบบรายได้ประจำ (Annuity) จึงสามารถตอบโจทย์ดังกล่าวได้เป็นอย่างดี 

อย่างไรก็ตามการสร้างความมั่นคงและความปลอดภัยทางการเงินสำหรับอนาคตนั้น คงต้องสร้างกันตั้งแต่วันนี้ เพราะหากผลัดไปเรื่อยๆ ยิ่งเวลาในการออมเหลือน้อยเท่าไร การออมก็จะกลายเป็นภาระหนักมากขึ้นเท่านั้น อย่าวางอนาคตไว้ที่ใครเพราะบำนาญนั้นสร้างได้ด้วยตัวของท่านเอง