‘8 เทคนิค’ผสานโซเชียลมีเดีย เข้ากับการตลาดเดิมๆ (จบ)

‘8 เทคนิค’ผสานโซเชียลมีเดีย เข้ากับการตลาดเดิมๆ (จบ)

โพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊ค ทวิตเตอร์ อินสตาแกรมและลิงก์อินเพื่อเข้าถึงกลุ่มคนในวงกว้างมากกว่าเดิม

สัปดาห์ที่แล้ว ผมเขียนถึง 8 วิธีในการผสมผสานโซเชียล มีเดีย เข้ากับการตลาดรูปแบบอื่นๆ ด้วยเพราะปัจจุบัน โซเชียล มีเดียกลายเป็นจุดศูนย์กลาง เพื่อเชื่อมโยงกิจกรรมทางการตลาดของคุณได้ ไม่ว่าจะเป็น การแชร์ภาพและวิดีโอ

ครั้งที่แล้วผมบอกไป 4 วิธี สัปดาห์นี้มาต่อที่วิธีที่ 5-8 กันครับ

5.การตลาดที่คุณใช้อยู่ในปัจจุบันด้วยแคมเปญ แฮชแท็ก (Hashtag #) ปัจจุบันแบรนด์ใหญ่หลายแบรนด์ เริ่มหันมาใช้แฮชแท็ก หรือคำที่มีตัว # นำหน้า เพื่อระบุว่าสิ่งที่เราพูดและสื่อสารในเรื่องนี้เกี่ยวกับอะไร และคนที่สนใจเรื่องเดียวกัน หรือพูดถึงแคมเปญนี้ของคุณก็สามารถนำไปแฮชแท็กไปอ้างอิงได้ ทำให้คนที่สนใจสามารถหาข้อมูลลักษณะเดียวกันผ่านแฮชแท็กได้ด้วย

ตัวอย่างเช่น ในปี 2555 แบรนด์ Nike ได้จัดแฮชแท็กแคมเปญผ่าน โซเชียล มีเดีย อย่างทวิตเตอร์, พินเทอร์เรสต์ และอินสตาแกรม โดยให้แฟนๆ (ผู้ที่ติดตามบนโลกโซเชียล) แบ่งปันความคิดเห็นว่า พวกเขาวางแผนใช้ชีวิตให้คุ้มค่าอย่างไรในปี 2555 ผ่านแฮชแท็กที่ว่า #makeitcount

Nike ได้โฆษณาแฮชแท็กผ่านทั้งสื่อสิ่งพิมพ์และสื่อดิจิทัล เพื่อทำให้คนสนใจ และรู้จักแฮชแท็กนี้ ผลที่ได้ประสบความสำเร็จมาก หลายคนแชร์ความเห็นตัวเองว่า จะทำอะไรใน 2555 ผ่านแฮชแท็ก #makeitcount มากมายเป็นประวัติการณ์ เป็นอีกวิธีสื่อสารของไนกี้ผ่าน โซเชียล มีเดีย โดยใช้แฮชแท็กทำให้ Nike ขยายระยะเวลาแคมเปญนี้ไปสู่ปี 2556 อีกปี ปัจจุบันบริการโซเชียลเน็ตเวิร์ค อย่างเฟซบุ๊ค ทวิตเตอร์ อินสตาแกรม สามารถใส่แฮชแท็ก และกดติดตามได้แล้ว จึงง่ายมากที่จะทำให้ข้อความ และแฮชแท็กคุณที่จะสื่อสารไปถึงผู้บริโภคโดดเด่นมากขึ้น

6.ขยายแคมเปญการตลาดจากช่องทางอื่นสู่ โซเชียล มีเดีย ผู้ขายของผ่านช่องทางออนไลน์ หรือการทำอีคอมเมิร์ซมักใช้การโปรโมท ส่วนลด ข้อเสนอพิเศษ และ โปรโมชั่นตามเทศกาลต่างๆ ผ่านอีเมล์ และช่องทางการตลาดประเภทอื่นๆ ดังนั้น จงอย่างลืมรวมโซเชียล มีเดียไปในช่องทางสื่อสารเหล่านั้นด้วย เราสามารถผนวกการตลาดในรูปแบบเดิมและ โซเชียล มีเดียหลากหลายวิธีดังนี้
โพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊ค ทวิตเตอร์ อินสตาแกรม และลิงก์อิน เพื่อเข้าถึงกลุ่มคนในวงกว้างมากกว่าเดิม สร้างเฟซบุ๊ค เพจ หรือทำแอพในเฟซบุ๊ค หรือลิงก์อิน โชว์เคส เพจ เพื่อให้คนสนใจแคมเปญโปรโมชั่นคุณ โชว์ผู้ที่ชนะการแข่งขันบนโซเชียล กระตุ้นให้เขาแชร์ (share) ความสำเร็จหรือชัยชนะออกไปยังเพื่อน ผู้ติดตามของพวกเขา

7.ให้ลูกค้ามาให้คะแนน (Rating) และ การรีวิว (Review) บนเว็บไซต์คุณ เว็บไซต์ขายของ หรืออีคอมเมิร์ซในหลายแห่ง มาพร้อมกับความสามารถให้ผู้ซื้อสามารถให้คะแนน และรีวิว สินค้าและการให้บริการได้ เช่น TARAD.com แต่หากคุณไม่มีบริการลักษณะนี้ แต่อยากให้บริการก็มีผู้ให้บริการด้านนี้มากมายที่สามารถเปิดโอกาสให้ลูกค้า หรือคนที่สนใจให้คะแนนและรีวิว โดยการใช้ จาวาสคริปต์ หรือเอชทีเอ็มแอล โค้ด มาติดที่เว็บคุณได้ง่ายๆ สร้างความน่าเชื่อถือได้อีกวิธีหนึ่ง กรณีโซเชียล คอมเมิร์ซ หรือแม่ค้าออนไลน์ให้เรตติ้งบนแฟนเพจก็ส่งผลต่อการตัดสินใจซื้อของลูกค้าเช่นเดียวกัน

8. เชื่อมโยงข้อมูล (Content) เดิมไปสู่โซเชียล เน็ตเวิร์ค แทนที่จะให้ข้อมูลเดิมของคุณอยู่เพียงแค่บนเว็บไซต์ และคนเข้าถึงข้อมูลเหล่านั้นได้ยาก เช่น ข้อมูลบริษัท ประวัติ ความเป็นมา ข้อมูลสินค้า ข้อมูลต่างๆ ที่น่าสนใจ เป็นต้น ให้โพสต์ข้อมูลเหล่านั้นลงไปในโซเชียลของคุณ และหากคุณนำข้อมูลที่น่าสนใจในรูปแบบ (Format) ต่างๆ เช่น พาวเวอร์พ้อยต์ ไปโพสต์แชร์ใน Slideshare.net, วิดีโอให้ไปแชร์บนยูทูบ, หากมีรูปภาพให้ไปแชร์ใน Flickr.com, เอกสารที่น่าสนใจนำไปแชร์ใน Scribd.com, และโพสต์ข้อมูลลงในลิงก์อิน ทวิตเตอร์ กูเกิลพลัส รวมถึงโซเชียลอื่นๆ เพื่อทำให้เกิดการพูดถึงและแชร์ออกไปมากที่สุด

เป็น 8 ข้อที่น่าสนใจ และคุณสามารถนำไปใช้กับธุรกิจคุณได้ทันที แต่ต้องกลับมาดูก่อนว่า คุณเองได้สร้างตัวตนของคุณในโซเชียล มีเดียแล้วหรือยัง หากยังจงรีบไปสร้าง และกำหนดคนดูและสื่อเหล่านี้ให้ชัดเจน ปัจจุบันหลายองค์กรเริ่มมีเจ้าหน้าที่ด้านโซเชียล มีเดียเฉพาะแล้ว (ส่วนใหญ่อยู่ภายใต้ฝ่ายการตลาด หรือประชาสัมพันธ์) หากเป็นองค์กรขนาดเล็กเจ้าของกิจการก็สามารถทำได้ด้วยตัวคุณเอง