AI จะเป็นกรรมการบริษัทแทนคน?

จะขยายตัวได้ดีกว่าที่ผ่านมา สะท้อนว่าเราสามารถทนทานความผันผวนและแรงปะทะได้ดีระดับหนึ่ง

แต่ประเทศไทยยังต้องแก้ปัญหาเชิงโครงสร้าง และเตรียมพร้อมเปลี่ยนแปลงสู่โลกยุคใหม่

เพราะในโลกอีกไม่กี่ปีข้างหน้า เราอาจจะเห็นการตั้ง Artificial Intellligence (AI) หรือปัญญาประดิษฐ์ เป็นคณะกรรมการบริษัทเพราะเชื่อว่าจะทำหน้าที่ได้ดีกว่าคน

ขณะที่ธนาคารทางอินเตอร์เน็ทจะเข้ามาแทนสาขาธนาคารพาณิชย์

อีคอมเมิร์ซจะมาแทนศูนย์การค้า

สื่ออิเล็กทรอนิกส์จะเข้ามาแทนสื่อสิ่งพิมพ์และโทรทัศน์

และเชื่อว่าจะเห็นการเปลี่ยนแปลงในอัตราเร่งที่เร็วและรุนแรงใน 3-5 ปีข้างหน้า

ใครที่ได้อ่านข่าวนี้แล้วไม่เฉลียวใจ ว่าคุณวิรไทกำลังทำนายความเปลี่ยนแปลง ที่จะเขย่าทุกวงการอย่างรุนแรงในเร็ววันนี้ ก็แปลว่าไม่ทันกับแนวโน้มใหม่อย่างแน่นอน

ปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI จะมาแทนคนทำหน้าที่เป็นกรรมการบริษัทได้จริงหรือ?

นักธุรกิจคนไหนได้คิดถึงประเด็นนี้หรือยัง? หรือส่วนใหญ่ยังคิดว่าเป็นเพียงคำพยากรณ์ลม ๆ แล้ง ๆ ในวงสัมมนาของเหล่าผู้เชี่ยวชาญด้านไอทีเท่านั้น คงเป็นเรื่องจินตนาการพาไปมากกว่าจะเกิดขึ้นจริงได้

แต่คุณวิรไทเป็นนักเศรษฐศาสตร์ เป็นนักการเงิน เป็นนักบริหารและเป็นผู้มองอนาคตด้วยวิสัยทัศน์ที่มาจากปัจจัยปัจจุบัน ไม่ใช่กูรูด้านไฮเทค ไม่ใช่นักจินตนาการเพ้อฝันแน่นอน

ผมเชื่อว่าผู้ว่าแบ็งก์ชาติสัมผัสได้ถึงความเปลี่ยนแปลงในโลกจากการไปร่วมประชุมนานาชาติเป็นประจำ และได้เห็นถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในหลาย ๆ ประเทศ เกิดความตระหนักถึงพายุคลื่นลมแรงที่กำลังกระหน่ำซัดมายังอุตสาหกรรมเกือบทุกวงการ

ใครไม่ปรับไม่เปลี่ยนก็รอวันล่มสลายได้

การทำนายว่าหุ่นยนต์และปัญญาประดิษฐ์มานั่งทำหน้าที่เป็นกรรมการของบริษัทไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้อีกต่อไป

เพราะ AI กำลังเข้ามามีบทบาทในการทำหน้าที่แทนคนได้หลายด้าน ในบางเรื่อง AI สามารถเอาชนะคนแล้วด้วยซ้ำเพราะความสามารถในการ “เรียนรู้ด้วยตนเอง” ที่เรียกว่า self-learningหรือ machine learning ซึ่งหมายถึงการที่มนุษย์ป้อนข้อมูลให้กับคอมพิวเตอร์มากเพียงพอที่จะทำให้เกิด “ปัญญา” มากขึ้นตามลำดับ

AI สามารถเอาชนะมนุษย์ในการเล่นเกม “โกะ” มาแล้วก็ด้วยเหตุผลนี้ เพราะเมื่อคนสามารถป้อนเอาข้อมูลเกี่ยวกับการเดินหมากเป็นพัน ๆ หมื่น ๆ เกมเข้าไปในระบบคอมพิวเตอร์ที่สามารถวิเคราะห์ได้อย่างเป็นวิทยาศาสตร์มากขึ้น ก็ย่อมจะบรรลุการตัดสินใจที่อยู่บนพื้นฐานของหลักคำนวณได้ถูกต้องและแม่นยำมากขึ้นเช่นกัน

จึงเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งที่คนไทยในทุกวงการจะต้องตระหนักถึงความเปลี่ยนแปลงที่กำลังเกิดขึ้น และจะยิ่งเปลี่ยนแปลงในอัตราเร่งมากขึ้นเพราะการค้นพบใหม่ ๆ ในแวดวงเทคโนโลยีเกิดขึ้นอย่างถี่และเร็วขึ้นอย่างคาดไม่ถึง

เรื่องอีคอมเมิร์ซมาแทนศูนย์การค้านั้นไม่ต้องถกเถียงกันอีกต่อไป เพราะได้ปรากฏออกมาอย่างชัดแจ้งแล้ว อยู่ที่โลกใหม่จะกลืนกินโลกเก่าไปมากน้อยเพียงใดในเวลา 3-5 ปีข้างหน้าเท่านั้นเอง

ผมยืนยันมาสิบปีแล้วครับ : ไม่ปรับก็พับฐาน Adapt or die!