สวยหล่อ หรือเร็ว

ทำให้เชื่อกันว่าผู้บริหารที่ประสบความสำเร็จ ต้องเป็นคนที่มีการศึกษาสูง จบจากโรงเรียนดัง ๆ มีเสน่ห์จนกระทั้งหลายคนมโนกันไปว่าผู้บริหารเก่งๆ ต้องเหมือนซูเปอร์แมน ทั้งหล่อ ทั้งฉลาดหลักแหลม ใครมาเป็นผู้บริหารเลยพากันทำตัวประหนึ่งซูเปอร์แมน เป๊ะไปหมดตั้งแต่เสื้อผ้าหน้าผม และถ้อยคำที่จะพูดจะจา บางคนยังสำแดงความฉลาดด้วยการประกาศว่า ฉันจบมาจากที่นั่นที่นี่ที่เป็นสถาบันชั้นนำของโลก แบกหินลับมีดติดตัวไปทุกที่ ซึ่งบรรดาความเชื่อเหล่านี้ ดูแล้วก็น่าเชื่อวันเป็นจริง เพราะเห็นผู้บริหารหล่อ ๆ เท่ ๆ ฉลาด ๆ ทำอะไรก็ประสบความสำเร็จไปเสียทั้งหมด ตัดสินในอะไรก็ถูกต้องไปหมด คำว่าล้มเหลวไม่มีใครพบเห็น ใครที่เกิดมาแล้วไม่สวย ไม่หล่อ ไม่เท่ ไม่ได้จบจากโรงเรียนดัง ๆ ชาตินี้ดูเหมือนจะก้าวไปไม่ถึงเก้าอี้ผู้บริหาร หากเชื่อตามผลการวิจัยที่โด่งดังนี้ แต่วันนี้ข้อมูลแบบ Big Data กลับบอกความจริงที่ท้าทายความเชื่อเกี่ยวกับผู้บริหารอย่างคาดไม่ถึง

บริษัทที่ปรึกษาชั้นนำของโลกอีกแห่งหนึ่ง ไปรวบรวมข้อมูลหลากหลายรูปแบบ จากสารพัดแหล่งข้อมูล เกี่ยวกับผู้บริหารกว่า 17,000 คน รวมทั้งจากบริษัทชั้นนำของโลกที่ติดอันดับ Fortune 100 ภายใต้โครงการ CEO Genome พบว่าความเชื่อว่าผู้บริหารที่ประสบความสำเร็จต้องเป็นคนเก่งที่จบมาจากโรงเรียนดังๆ ไม่เป็นความจริง เพราะข้อมูลบอกว่ามีเพียง 6-7% ของผู้บริหารที่ประสบความสำเร็จ จบมาจากโรงเรียนดัง ๆ ดังนั้นหินลับมีดจึงไม่ใช่ตัวประกอบสำคัญ ของการบริหารให้ประสบความสำเร็จ 

ข้อมูลแบบ Big Data บอกว่าความสามารถในการตัดสินที่รวดเร็ว ถูกเรื่อง และถูกเวลา ต่างหากที่เป็นตัวประกอบสำคัญในการบริหารให้ประสบความสำเร็จ แต่การจบมาจากโรงเรียนดัง ๆ ให้โอกาสมากกว่าในการก้าวสู่เก้าอี้ผู้บริหาร ด้วนเหตุอื่นหลายประการ นอกเหนือจากความสามารถในการตัดสินใจอย่างรวดเร็ว ถูกเรื่อง และถูกเวลา ผลการวิจัยบอกว่าความล้มเหลวจากการตัดสินใจเร็วเกินไปมีเพียง 10% ของการตัดสินใจ แต่ความล้มเหลวจากการตัดสินใจช้าเกินไปมีสูงถึง 90% และยังพบว่าคนที่ดูว่ามีการศึกษาดีจำนวนหนึ่ง รีรอที่จะตัดสินใจในเรื่องสำคัญ ๆ มากกว่าคนที่ดูด้อยกว่าในคุณสมบัติด้านการศึกษา ขอเน้นว่าเป็นความสามารถในการเลือกเรื่องที่จะตัดสินใจ ในช่วงเวลานั้นได้อย่างเหมาะสม และกระทำได้อย่างรวดเร็ว ไม่ใช่มั่วๆในการตัดสินใจ ซึ่งตัดสินใจถูกบ้างผิดบ้างเป็นธรรมดา ไม่ใช่ตัดสินใจถูกไปหมดทุกเรื่องทุกครั้ง ผู้บริหารที่เชื่องช้าในการตัดสินใจ แม้จะดูดีในอีกสารพัดเรื่องนั้นหมดยุคไปแล้วสำหรับวันนี้

เหตุหนึ่งที่ทำให้คนที่ดูมีการศึกษาดีรีรอในการตัดสินใจ เพราะเชื่อว่าต้นทุนที่ตัวเองมีสูงกว่าคนอื่น เลยเชื่อว่าต้องตัดสินใจถูกต้องไปหมดทุกเรื่อง เสียเวลาทบทวนมากกว่าคนที่ไม่ได้เชื่อว่าต้นทุนเดิมของตนเองไม่ได้ดีวิเศษอะไรนัก จะถูกบ้างผิดบ้างก็เป็นเรื่องปกติของคนธรรมดา ยิ่งถ้าเป็นคนสวยคนหล่อ และเชื่อไปเองว่าความหล่อ ความสวย ความเท่ ผูกพันกับผลการตัดสินใจ ก็ยิ่งเสียเวลาในการทบทวน และแบ่งสมองไปกังวลล่วงหน้าว่า การตัดสินใจที่ผิดพลาดอาจทำให้คนอื่นเห็นความสวย ความหล่อของตนเองน้อยลง 

การตัดสินใจในเรื่องสำคัญจึงล่าช้ากว่าผู้บริหารที่ดูเป็นคนธรรมดา ๆ ทั้งๆที่คนสวยคนหล่อได้เปรียบคนอื่นอยู่แล้วในความนึกคิดของคนอื่น ผลการวิจัยจากหลายสำนัก หลายโอกาสบอกไว้ตรงกันว่า ผู้คนอะลุ่มอล่วยกับความผิดพลาด ของอะไรก็ตามที่สวยงามมากกว่าที่ดูไม่สวยไม่งาม เก้าอี้ที่ดูสวยถูกบ่นว่านั่งไม่สบายน้อยกว่าเก้าอี้ที่ดูน่าเกลียด

การตัดสินใจถูกเรื่อง ถูกเวลา ได้อย่างรวดเร็วมีความสำคัญขึ้นมาในวันนี้ เพราะโลกเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และเปลี่ยนมาก ๆได้ในเวลาสั้น ๆ ดูแค่ผู้นำในหลายบ้านเมืองก็เห็นแล้วว่าคนใหม่ขึ้นมาแล้วเปลี่ยนจากของเดิมได้มากแค่ไหนในเวลาแค่ไม่กี่เดือน องค์กรจึงต้องปรับตัวเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ซึ่งจะปรับเปลี่ยนก็ต้องเลือกทิศทางใหม่อยู่เสมอ ทิศทางใหม่ขององค์กรว่าจะไปทางไหน คนที่ต้องตอบคำถามนี้หนีไม่พ้นตัวผู้บริหาร ดังนั้นวันนี้ไม่หล่อ ไม่สวย ไม่ได้จบมากจากโรงเรียนดังๆ ก็เป็นผู้บริหารที่ประสบความสำเร็จได้ 

ขอแค่กล้าตัดสินใจอย่างทันกาล ในเรื่องที่ถูกกาละ ถูกโอกาสเท่านั้น และไม่ยึดมั่นถือมั่นว่าวันหน้าต้องเป็นแบบที่ฉันคิดเท่านั้น ใครมาเปลี่ยนไม่ได้เด็ดขาด