'เซ็ตซีโร่กกต.' 'ปูพรม' ยึดเลือกตั้ง
หลังจากที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เมื่อปลายสัปดาห์ก่อน
เสียงท่วมท้น 177 ต่อ 1 เสียง เห็นชอบร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)ในวาระ 3
นั่นหมายถึง“เซ็ตซีโร่กกต.” แม้ก่อนหน้านี้ก็มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ประเด็น“เซ็ตซีโร่กกต.” โดยเฉพาะคนในกกต.เอง และกองเชียร์จากสมาชิกสนช.บางคน มองว่ากกต.ควรอยู่ต่อทั้งชุดจนครบวาระ เพราะกกต.บางคนมีคุณสมบัติถูกต้องตามรัฐธรรมนูญ พร้อมๆกับมีการตั้งคำถามว่าจะมีการ“เซ็ตซีโร่ทุกองค์กร”หรือไม่
แม้เวลานี้จะอยู่ในห้วงเวลาของการตั้งคณะกรรมาธิการร่วม เป็นตัวแทนจากสนช. 5 คน กรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.)5 คน และกกต. 1 คน ด้วยสัดส่วนและน้ำหนักแบบนี้แล้วจะรอดจากการถูก“เซ็ตซีโร่กกต.”ได้อย่างไร
จริงๆตามรัฐธรรมนูญใหม่ กติกาใหม่ ถ้าจะต้องเริ่มต้นอะไรใหม่ ก็ควรจะเริ่มด้วยกันให้หมด โดยเฉพาะองค์กรอิสระ ฉะนั้นหลักการสำคัญที่สุด แต่การที่เริ่มสตาร์ทจากกกต.ทำให้คิดได้หลายอย่างทำไมต้องกกต. มีผู้คนวิเคราะห์กันหนัก บ้างก็บอกว่าองค์กรนี้มีความสำคัญต่อการเลือกตั้งอย่างมาก บ้างก็บอกว่ามีปัญหา“ปลาสองน้ำ”
เอาเถอะ..หากครบ15วันตามที่คณะกรรมาธิการร่วม 3 ฝ่าย ได้ข้อสรุปก็ต้องเสนอเข้าที่ประชุมสนช. เมื่อถึงตอนนั้นเชื่อขนมยายกินก่อนได้เลย ยังไงๆก็“เซ็ตซีโร่กกต.”แน่นอน
มาถึงตอนนี้แล้วงานใหญ่รออยู่ข้างหน้านั่นคือ“การเลือกตั้ง” ที่กำลังจะเกิดขึ้น ฉะนั้นจุดสตาร์ทของการ “เซ็ตซีโร่กกต.” ก็มีคำตอบที่ชัดเจนอยู่แล้วว่าทำไมต้องเริ่มจากตรงนี้ ส่วนจะไว้ใจหรือคุณสมบัติกกต.บางคนถูกต้องตามรัฐธรรมนูญหรือไม่คงไม่ใช่คำตอบที่แท้จริง แต่ของแท้“เซ็ตซีโร่กกต.”
ยิ่งเห็นบางคนบอกว่า“เพื่อให้การเลือกตั้งมีประสิทธิภาพ จึงต้องการให้คนใหม่มาใช้กติกาใหม่”อย่าลืมมองหาความเท่าเทียมองค์กรอื่นด้วยก็แล้วกัน
ที่น่าติดตามมากกว่า“เซ็ตซีโร่กกต.” ชุดนี้ คงจะเป็นบุคคลที่จะเข้ามาแทนจะ 5 คนหรือ 7 คนมากกว่า เขาเหล่านั้นต่างหากที่จะมีบทบาทต่อการเลือกตั้งครั้งหน้า โจทย์ใหญ่คงไปอยู่ที่พรรคการเมืองและผู้สมัครส.ส.มากกว่า งานนี้รับรองมีฟ้องร้องและร้องเรียน สงสัยรอบหน้าใบเหลืองใบแดงว่อนเชียวละ กว่าจะรับรองผลการเลือกตั้งได้ลืมไปเลย