มหาเศรษฐีสอนลูก

เมื่อเร็วๆ นี้ มีเพจเฟซบุ๊กเพจหนึ่ง แอดมินเป็นคู่สามีภรรยาอาชีพหมอ เนื้อหาในเพจมักพูดถึงวิธีเลี้ยงลูกว่าต้องทำอย่างโน้นอย่างนี้ด้วยแนวคิดสุดโต่ง จนถูกต่อต้านกลายเป็นกระแสรุนแรงในโลกโซเชี่ยล บางคนถึงขนาดย้อนถามเจ้าของเพจว่า ลูกตัวเองยังเล็กขนาดนั้น แน่ใจหรือว่าโตขึ้นมาแล้วจะได้ดีอย่างที่ไปสอนคนอื่นไว้

ตัวผมเองไม่มีลูก แต่ได้เห็นคนคุ้นเคยหลายครอบครัวเลี้ยงลูกเก่งจนไม่น่าเชื่อ ขอยกตัวอย่างมหาเศรษฐีหลายหมื่นล้านท่านหนึ่ง ซึ่งผมโชคดีได้รู้จักเพราะเป็นเพื่อนของพ่อ แกสร้างธุรกิจขึ้นมาจากสองมือจนยิ่งใหญ่ ชนิดที่พูดชื่อไป คนไทยใครๆ ก็ร้องอ๋อ

แปะคนนี้เป็นคนสมถะติดดินมาก วันๆ ทำแต่งาน ไม่เคยใช้ชีวิตหรูหราฟู่ฟ่า พ่อเล่าว่า แกขยันทำมาหากินมาตั้งแต่เด็ก สมัยก่อนเป็นอย่างไร สมัยนี้ก็ยังเหมือนเดิม

แปะเป็นคนใจกว้าง มีเมตตา เจอผมทีไรก็มักจะสั่งสอนเสมอว่าทำธุรกิจต้องอย่างนั้นอย่างนี้ แกสอนอะไรผมก็จดใส่สมุดไว้ทุกครั้ง

แปะมีลูกชายสามคน ลูกทุกคนใช้ชีวิตติดดินไม่ต่างจากพ่อ แต่ละคนทำงานหนัก ช่วยธุรกิจที่บ้าน ไม่เคยทำตัวเจ้าสำราญ ขับรถหรู เที่ยวต่างประเทศไม่เว้นแต่ละเดือน ทั้งๆ ที่พ่อของพวกเขามีเงินให้ชนิดใช้ไปกี่ชาติก็ไม่หมด

ลูกแกทุกคนไม่มีใครเป็นเพลย์บอย ไม่เคยเอาดาราสาวๆ มาเป็นตุ๊กตาหน้ารถ ไม่เคยโพสต์ภาพรถหรูหรือของหรูหราลงเฟซบุ๊ก-ไอจี ทั้งๆ ที่พวกเขารวยกว่าลูกคนรวยที่เราเห็นกันในหนังสือกอสซิบดาราแทบจะทุกคน

ปัจจุบันลูกสองในสามคนแต่งงานแล้ว โดยเลือกภรรยาเป็นคนฐานะปานกลาง แต่ฉลาดและขยัน ตอนนี้เข้ามาช่วยธุรกิจของพ่อแม่สามีได้เป็นอย่างดี

ส่วนลูกคนสุดท้องยังหนุ่ม ยังไม่ได้แต่งงาน วันก่อนผมเจอเขาในรถไฟใต้ดิน ก็ทักทายกัน เขาบอกผมว่าจะไปเจอเพื่อนที่สยาม ผมก็ถามว่าทำไมไม่ขับรถไป เขาบอกว่าไม่ค่อยได้ขับรถหรอก รถติด นั่งรถไฟใต้ดินสะดวกกว่า ว่าแล้วก็โหนรถไฟต่อไป (เขามีรถยนต์ส่วนตัว แต่ก็จอดไว้หน้าร้าน)

มหาเศรษฐี self-made ใช้ชีวิตติดดินว่าน่าชื่นชมแล้ว แต่นั่นยังพอเข้าใจได้ เพราะเขาสร้างตัวขึ้นมาจากความลำบาก จึงรู้คุณค่าของเงิน ที่น่าแปลกใจกว่าคือวิธีสอนลูกของเขา

ผมไม่เคยถามแปะว่าเลี้ยงลูกอย่างไร แต่ถ้าจะให้เดา น่าจะเกิดจากการ 'ปฏิบัติตัวเป็นแบบอย่าง' ลูกๆ ทุกคนจึงเดินตาม 'เส้นทางเศรษฐี' ของพ่อ โดยไม่ต้องใช้ 'อำนาจควบคุม' ไม่ต้องบังคับกะเกณฑ์

นี่ต่างหาก น่าจะเป็นวิธีสอนลูกที่ประเสริฐสุด เป็น 'Value Way' โดยแท้จริง