เกรย์มาร์เก็ต หรือ แบล็คมาร์เก็ต เส้นแบ่งมันใกล้กันเหลือเกิน

เกรย์มาร์เก็ต หรือ แบล็คมาร์เก็ต เส้นแบ่งมันใกล้กันเหลือเกิน

สังคมบ้านเรานี่ก็แปลก อะไรได้ประโยชน์แม้จะสีเทาๆ ไม่ค่อยโปร่งใสแต่ถ้าตัวเองได้ประโยชน์ ก็ปกป้องหลับหูหลับตาทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้

 เศรษฐกิจอาจเป็นเสรีนิยม แต่ธุรกิจการค้าไม่ใช่ใครนึกจะทำอะไรก็ทำตามใจชอบ ไม่ต้องคำนึงว่าจะสุ่มเสี่ยงกับการผิดกฎหมาย หรือเป็นช่องทางให้เกิดการเอารัดเอาเปรียบกันเกิดขึ้นได้ เรียกแบบภาษาวิชาการต้องพูดว่า ยังไม่มีความเป็นมืออาชีพและไร้ธรรมาภิบาล

ยืนยันว่าบทความนี้ไม่ใช่เขียนเพราะอิจฉาตาร้อน หรืออยากเห็นคนอื่นได้รับความเดือดร้อนแต่อย่างใด แต่พฤติกรรมการลักลอบนำเข้ารถนี้มีมาช้านานแต่แก้ปัญหาได้ยาก เพราะคนมีอำนาจ มีตำแหน่งหน้าที่ รวมทั้งเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายรู้เห็นเป็นใจ น่าสนใจมากคือบรรดานักธุรกิจรถหรูค่ายเกรย์มาร์เก็ตที่เมื่อก่อนมีรถเต็มโชว์รูม เมื่อถูก “ดีเอสไอ” บุกตรวจไม่เว้นแม้แต่ในห้างดัง เวลานี้ไปถึงโชว์รูมแต่ไม่มีรถให้ขับได้เหมือนเก่า อยากได้ให้เลือกดูตามแค็ตตาล็อก(catalog) เหมือนขายของออนไลน์ แต่นี่เป็นรถราคาสำแดงจริงบางคันไปไกลหลักสี่ห้าสิบล้านบาท ซื้อขายกันง่ายดายแบบนี้ ทางราชการไม่รู้เรื่องรู้ราว ปล่อยให้ทำมาค้าขึ้นกันได้แบบย่ามใจ คงต้องพิจารณาดูว่ารับเงินเดือนแล้วทำงานกันหรือไม่ หรือไปมีเงินเพิ่มเงินพิเศษทางใดทำให้เป็นใบ้กินกันไปหมด

ขณะเดียวกันรถหรูตามห้างก็หายไปมากมาย หลังเหตุการณ์นี้ ซึ่งเป็นปรากฎการณ์ปกติ เมื่อเรื่องซาหรือสังคมให้ความสนใจเรื่องอื่น รถสีเทาๆ เหล่านี้ก็กลับมาโลดแล่นบนท้องถนนดังเดิม ได้เคยวิจารณ์แบบไม่ใช้อารมณ์ก่อนหน้านี้ว่าน่าจะตำหนิห้างสรรพสินค้าพวกนี้ที่มักง่าย เอาเรื่องรถหรูมาเป็นแรงจูงใจคนเดินห้างแต่หารู้ไม่คนใช้รถหรูไม่ค่อยมาซื้อของห้าง คนซื้อของส่วนใหญ่เป็นมนุษย์เงินเดือน หรือเป็นนักท่องเที่ยวจีนบ้างฝรั่งบ้างเป็นส่วนใหญ่ อยากถามว่าธุรกิจที่ไม่สร้างประโยชน์หรือมูลค่าเพิ่ม ให้ระบบเศรษฐกิจแบบนี้มีไว้ทำไม วัตถุประสงค์เกรย์มาร์เก็ตจริงๆ เขาดูแลคุ้มครองทั้งผู้ผลิตและผู้บริโภค ไม่ใช่ตลาดอย่าอ้าง free trade หรือเห็นคนอื่นเขาทำก็ต้องมีเหมือนเขาทั้งที่ระบบของเรายังไม่พร้อมโดยเฉพาะ “คน” ทั้งคนค้าขาย และ คนบังคับใช้กฎหมาย พร้อมอยู่ชัดเจนคือ “พร้อมโกงกันแบบไร้ยางอาย”

กลวิธีการโกงปัจจุบันยิ่งแยบยลขึ้นกว่าเดิมมาก เมื่อก่อนใช้นักศึกษาเรียนหนังสืออยู่ในต่างประเทศ มีการจ้างวานรายละสองสามแสนบาทขอใช้สิทธิพิเศษ บางทีรถครอบครองอยู่ที่ผู้ขายมิได้มอบให้เด็กที่มีชื่ออ้างเป็นผู้ซื้อเพื่อให้ได้ระยะเวลาตามกฎหมาย เมื่อเดินทางมาเมืองไทยก็ขนย้ายมอบรถให้ผู้สั่งซื้อตัวจริง วันนี้ใช้วิธีการทั้งขายหลายๆ ทอดให้ดูเหมือนมีการเปลี่ยนมือกันมาเป็นความพยายามตัดตอนฟอกขาวแต่ก็ยังไม่เนียนเพิ่งมีการจับได้ ประเทศอังกฤษเป็นเป้าหมายของโจรอย่างชัดเจน เศรษฐีบ้านเราจำนวนมากไปมีธุรกิจการค้าเพราะตลาดเปิดกว้าง อังกฤษเวลาเซลล์ของ (นำของมาเลหลังลดราคา) พวกนี้เห็นคนไทยเหมือนเป็นพระเจ้า ใครไม่เคยเห็นของแบรนด์เนมเวลาเลหลังแล้วมีคนไปรูดเสื้อผ้ามาทั้งราวเหมือนแจกฟรี พออ้าปากพูดก็รู้เลยว่าคนไทย ที่สำคัญรถราในอังกฤษเขา “ขับพวงมาลัยขวาเหมือนบ้านเรา” ทำให้ขบวนการคนโกงที่อังกฤษกับคนโกงที่เมืองไทยสามารถสอดประสานสัมพันธ์กันดียิ่ง ส่งตรงมาถึงเมืองไทยไม่ต้องโมดิฟายอะไรอีก เอาไปขับฉวัดเฉวียนอวดความร่ำรวยแบบจอมปลอมปนความขี้โกงแบบหน้าไม่อาย คนไม่รู้เรื่องก็นึกว่าอ๋อนี่เศรษฐี คนดัง คนใหญ่คนโต

นักร้องนักแสดงบ้านเราจำนวนหนึ่งไปทำตัวมีรสนิยมเหมือนคนเด่นดัง (celebrity) อย่างฝรั่งเขา ที่ต้องมีคือบ้านหรู เครื่องประดับประดาราคาแพง และที่ขาดไม่ได้เลยคือ รถหรูราคาแพง วัฒนธรรมคนมีเงินเป็นถุงเป็นถังที่รวยจริง เขามักไม่ต้องอวด ไม่ต้องโชว์ เพราะการเอาทรัพย์สินสฤงคารมาอวดความมั่งมี คนอังกฤษคนยุโรปที่รู้จักมักคุ้นเคยประชดประชันให้ฟังว่า คนพวกนั้นไม่มีสมองหรือปัญญาอ่อน ที่ไม่รู้จะหาปมเด่นความสามารถอะไรให้คนเขายอมรับได้ เลยต้องเอาทรัพย์สินบริวารมาอวดให้คนกล่าวขวัญถึง

เห็นใจเจ้าหน้าที่อยู่มาก เพราะจะทำอะไรคนมีชื่อเสียง บางทีคนห้อมล้อมอ้างเป็นแฟนคลับอ้างรังแกคนของประชาชน เอากระแสสังคมมากดดันเจ้าหน้าที่ ส่วนตัวมองว่า คนเอารถผิดกฎหมายมาขายนั้นผิดเต็มๆ แต่ “คนซื้อ” จะเป็นใครก็ตามจะอ้างความไม่รู้ไม่เห็นแล้วพ้นผิดไปหน้าตาเฉย ดูจะเป็นการทำลายความศักดิ์สิทธิ์ของกฎหมายไป เพราะก่อนซื้อของแพงๆ ไม่มีใครไม่หาข้อมูล ต้องรู้แหล่ง มีคนบอกต่อ แต่กิเลสความโลภก็มักจะเลือกเอา “ของดี ราคาถูก” ซึ่งถ้ามีก็คงไม่ดีจริงหรือไม่ถูกจริง แต่ก็ยอมจะเป็นเหยื่อ หากไม่มีส่วนรับผิดเลย วงจรอุบาทว์คงยากจะกำจัดให้พ้นไปได้ มันเป็นเรื่องพื้นฐานที่ “เมื่อมีผู้ซื้อ ย่อมมีผู้ขาย” การที่คนซื้อจะผลักภาระไปจากตัวโดยคิดว่าซื้อแล้วของมันจะมาจากที่ใดไม่ต้องไปสนใจก็ดูจะไม่เป็นธรรมนัก

วันนี้บ้านเมืองเดินมาถูกทางแล้ว แต่รถผิดกฎหมายมีหลายประเภท ต้องตรวจสอบไปถึงมอเตอร์ไซค์ซีซีสูงๆ รถตู้ราคาแพง รถติดไซเรน รถไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ล้วนเป็นบ่อเกิดและเป็นเครื่องมือ ในการปกปิดซ่อนเร้นอะไรหลายอย่างที่ถ้าได้ลองเข้าไปค้นหาความจริงน่าจะเจออะไรคล้ายๆ กับปัญหารถหรูอีกมากมาย เป็นที่น่าสังเกตว่ารถราคาแพงเหล่านี้ในล็อตที่ถูกตรวจสอบ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องปล่อยให้เข้ามาได้อย่างไร ผมสั่งซื้ออะไหล่รถยนต์ในเว๊ปไซต์ชื่อดังของต่างประเทศ ราคาสามสี่สิบปอนด์ ศุลกากรเรียกเก็บภาษีเข้าไปหลายพันบาทไม่มีข้อยกเว้น แต่นี่คือ “รถ” ไม่ใช่ “มด” ถึงจะมองไม่เห็น ดูไม่ออก ไม่สุ่มตรวจก็ต้องรู้กลโกงของมิจฉาชีพให้รอบด้าน สมัยก่อนคนเหล่านี้จะไปรอประมูลรถที่ศุลกากรอายัดขายทอดตลาด จะยึดรถก็เหมือนได้ซากรถ เพราะเขาจะเอาซีพียูไป พอประมูลรถได้มาก็เอาสมองกลไปใส่ขับได้เหมือนเดิม เป็นการช่วยโจรฟอกขาวอีกแรง อีกหน่อยไม่เฉพาะเสียภาษีเงินได้ส่วนบุคคล คุณธรรมจริยธรรมคนจะมาทำงาน เพื่อส่วนรวมต้องตรวจละเอียดไปถึงเรื่องส่วนตัวแบบนี้ด้วย ถ้าหลบเลี่ยงภาษีก็ต้องโดนข้อหาผิดจริยธรรมจะร้ายแรงหรือไม่ไปว่ากัน แต่ส่วนตัวมองว่าใครทำให้รัฐเสียหายเอารัดเอาเปรียบประชาชนเป็นเรื่องที่ไม่อาจให้อภัยได้เลย