Social Stock Exchange(SSX) ตลาดหุ้นนี้มีแต่ธุรกิจเพื่อสังคม

Social Stock Exchange(SSX) ตลาดหุ้นนี้มีแต่ธุรกิจเพื่อสังคม

สวัสดีค่ะคุณผู้อ่านทุกท่าน ขึ้นชื่อว่าตลาดหุ้นแล้วล่ะก็ นักลงทุนหลายท่านคงคุ้นเคยกันดีว่าเป็นตลาดที่ทุกคนมุ่งหวังสร้าง “ผลกำไร”

แต่วันนี้ดิฉันจะขอพามารู้จักตลาดหุ้นแห่งหนึ่งที่โจทย์ของเขาไม่ใช่แค่เรื่องตัวเลขผลกำไรหรือผลประกอบการ หากแต่ตลาดหุ้นแห่งนี้มีไว้เพื่อ “สังคม”ค่ะ

The Social Stock Exchange หรือ SSX เป็นบริษัทสัญชาติอังกฤษที่จัดตั้งขึ้นภายใต้ความร่วมมือกับ NEX ตลาดหลักทรัพย์สำหรับบริษัทขนาดกลางและเล็กในอังกฤษก่อตั้งโดย “มาร์ค แคมพาเนล” และ “ปราดีป เจธิ” ในปี 2007 และเปิดตัวอย่างเป็นทางการในงานประชุมนานาชาติ G8 ที่รัฐบาลอังกฤษเป็นเจ้าภาพในปี 2013 โดยมีจุดประสงค์ในการส่งเสริมและพัฒนากิจการที่เน้นการสร้างผลลัพธ์ทางสังคมหรือ Social impact sector ในอังกฤษ โดยเปิดโอกาสให้นักลงทุนทั่วไปได้เข้ามาลงทุนในกิจการ Social impact เพื่อเป็นช่องทางในการระดมเงินให้แก่กิจการเหล่านั้น เพื่อสร้างโอกาสการเติบโตและขยายกิจการในระยะยาว

โดยกิจการเพื่อสังคมที่สนใจเข้ามาจดทะเบียนใน SSX ได้จะต้องเป็นกิจการเพื่อสังคมหรือสิ่งแวดล้อมเป็นหลัก และจะต้องมีคุณสมบัติตรงตามเกณฑ์ตามที่กำหนด นั่นคือจะมีหลักทรัพย์ที่เทรดในตลาดอื่นมาก่อนหรือยังไม่เคยเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ แต่มีความต้องการที่จะเข้าตลาดในอนาคตก็ได้ โดยขั้นตอนแรกเมื่อสมัครเข้ามาทาง SSX จะมีการให้คำแนะนำ รวมถึงจัดหาที่ปรึกษาทางการเงินให้ หลังจากนั้นบริษัทจะต้องจัดทำรายงานผลลัพธ์หรือImpact Report และหากรายงานได้รับการอนุมัติ บริษัทหรือกิจการนั้นๆ ก็จะได้รับการแต่งตั้งเป็นสมาชิกใน SSX

และตลอดระยะเวลาที่เป็นสมาชิก บริษัทสมาชิกจะต้องมีการจัดทำ Impact Report เป็นประจำทุกปีเหมือนกับที่บริษัทจดทะเบียนทั่วไปต้องจัดทำรายงานประจำปีหรือ Annual Reportซึ่ง Impact Report นี่เองที่จะช่วยให้ทั้งบริษัทและนักลงทุนมีความมั่นใจว่าทั้งผลลัพธ์ทางการเงินและผลลัพธ์ทางสังคมที่ได้นั้นเป็นที่น่าพอใจพอๆ กัน และควรค่าแก่การลงทุนต่อไป

เรียกได้ว่า SSX เป็นตลาดหุ้น รายแรกและ รายเดียวของโลกก็ว่าได้ค่ะ ที่เปิดมารองรับธุรกิจเพื่อสังคมทุกขนาด รวมถึงนักลงทุนที่สนใจ ซึ่งหมายความว่าธุรกิจเพื่อสังคมที่ได้รับการจดทะเบียนเป็นสมาชิกใน SSX จะสามารถเทรดได้ไม่ต่างอะไรกับบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ทั่วไป

สำหรับประโยชน์ที่บริษัทสมาชิกจะได้รับนอกจากจะได้เข้าถึงแหล่งเงินทุนแล้ว บริษัทจะเป็นที่รู้จักในวงกว้างมากขึ้น และได้รับกรอบแนวทางในการจัดทำรายงานทั้งทางด้านการเงินและผลลัพธ์ทางสังคม รวมถึงยังได้รับการยอมรับว่าเป็นกิจการที่โปร่งใสและมีการกำกับดูแลกิจการที่ดีอีกด้วยนอกจากนี้ยังเป็นการช่วยสร้างการรับรู้ให้แก่สาธารณชนในวงกว้างถึงประเด็นทางด้านสังคมและสิ่งแวดล้อมที่กำลังเป็นปัญหาในสังคมปัจจุบัน

SSX สามารถระดมเงินทุนได้ในหลากหลายรูปแบบให้แก่บริษัทสมาชิก โดยสามารถระดมทุนโดยเริ่มตั้งแต่การเสนอขายหุ้น IPO ไปจนถึงการเข้าจดเบียนในตลาดรอง (Secondary listing) โดยสำหรับธุรกิจในระยะเริ่มแรก SSX สามารถจัดหานักลงทุนที่เน้นการลงทุนเพื่อผลลัพธ์ทางสังคม (Impact investors) ผ่านเครือข่ายองค์กรพันธมิตรที่แข็งแกร่ง หรือหากเป็นธุรกิจที่เติบโตมาระยะหนึ่งแล้วและกำลังเตรียมความพร้อมเข้าสู่การจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ทาง SSX ก็จะเปิดโอกาสให้กิจการนั้นๆ เข้ามาจดทะเบียนและเทรดได้ ภายใต้การดูแลจากที่ปรึกษาทางการเงิน

โดยในปี 2016 ที่ผ่านมา SSX มีบริษัทสมาชิกจำนวน 36 บริษัท ซึ่งในจำนวนนั้นมี 14 บริษัทที่ลิสต์อยู่ใน AIM หรือตลาดการลงทุนทางเลือกในตลาดหลักทรัพย์ลอนดอน (คล้ายกับตลาด MAI ในบ้านเรา) ส่วนบริษัทที่เหลือส่วนใหญ่ยังไม่ได้จดทะเทียนในตลาดหลักทรัพย์มาก่อน แต่ก็มีความมุ่งมั่นว่าจะเข้าตลาดในอนาคต

ปัจจุบันตลาด SSX มีมูลค่าตามราคาตลาดประมาณ 2.3 พันล้านปอนด์ หรือประมาณ 1 แสนล้านบาท และสามารถระดมทุนให้แก่บริษัทสมาชิกได้กว่า 400 ล้านปอนด์ หรือประมาณ 17,000 ล้านบาททีเดียว โดยวิสัยทัศน์ของ SSX คือการเป็นตลาดหลักทรัพย์สาธารณะที่สามารถสร้าง “Profit with purpose”หรือ ทำกำไรได้อย่างมีเป้าหมายทั้งทางสังคมและสิ่งแวดล้อม

สอดคล้องกับเทรนด์ของการลงทุนเพื่อสร้างผลลัพธ์หรือ“Impact Investing”ในปัจจุบัน ที่ต้องการระดมเงินทุนเพื่อเป้าหมายที่ชัดเจนทั้งทางด้านสังคมและสิ่งแวดล้อม เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่จับต้องได้รวมถึงได้ผลตอบแทนทางการเงินที่น่าพอใจค่ะ