ตลาดหุ้นไทยจะไปทางไหน

ตลาดหุ้นไทยจะไปทางไหน

ทิศทางเม็ดเงินนักลงทุนต่างประเทศทยอยไหลกลับตลาดหุ้นภูมิภาคนี้อย่างต่อเนื่อง น่าจะทำให้ตลาดหุ้นไทยมีโอกาสปรับตัวขึ้นมาก

บรรยากาศการลงทุนสำหรับตลาดหุ้นไทยใน 5 เดือนแรกปีนี้ดูอึมคริม ทั้งนี้อาจเกิดจากปัจจัยต่างประเทศมากมายที่ยังหาข้อสรุปเบ็ดเสร็จไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นนโยบายของสหรัฐต่อกลุ่มประเทศเอเซีย การเลือกตั้งของหลายประเทศในกลุ่มเศรษฐกิจยุโรป การขยายตัวของเศรษฐกิจเอเซีย โดยเฉพาะประเทศจีน ทิศทางของกระแสเงินนักลงทุนต่างประเทศ ตัวเลขการจับจ่ายใช้สอย การส่งออกของไทย เป็นต้น

หากเราประเมินทิศทางตัวเลขสำคัญอาทิ การส่งออก นักท่องเที่ยว ดูจะมีความหวังมากขึ้นว่าเรากำลังอยู่ในทิศทางที่ดีขึ้น เฉกเช่นเดียวกับหลายประเทศในเอเซีย อย่างไรก็ดี ตัวเลข GDP อาจไม่สามารถตอบคำถามของเราได้ดีนัก หากแต่เรามองลึกลงไปสู่กำไรบริษัทจดทะเบียนของตลาดหุ้นไทยในไตรมาสแรกที่สูงขึ้นไปในระดับ 2.8 แสนล้านบาท ทำให้เราประเมินตลาดหุ้นไทยในด้านบวกมากขึ้น

แน่นอน สำหรับนักลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ สิ่งที่จับต้องได้ และเป็นยันต์ป้องกันความเสียหายคือ กำไรบริษัท และ อัตราผลตอบแทนเงินปันผลที่คาดหวัง เราพบว่ากำไรในไตรมาสแรกของบริษัทไทยดีขึ้น แต่ยังกระจุกตัวในบริษัทขนาดใหญ่เป็นส่วนใหญ่ โดยกำไรของบริษัทขนาดกลาง ถึงเล็กยังน่าผิดหวัง

ดังนั้น กระบวนการปรับพอร์ตในช่วงที่ผ่านมา เราจึงเห็นแรงซื้อในบริษัทในดัชนี SET50 ขณะที่แรงขายกระจายไปสู่หุ้นบริษัทขนาดเล็ก และส่งผลต่อบรรยากาศการลงทุนที่ดูค่อนข้างแย่ แม้ว่าดัขนีตลาดหุ้นไทยไม่ค่อยลงนัก แต่นักลงทุนส่วนใหญ่ที่ถือลงทุนในหุ้นขนาดกลาง ลงไปรู้สึกแย่

หากพิจารณากำไรตลาดหุ้นไทยไตรมาสแรกนั้นขยายตัว 27% จากปีก่อน และ ดีขึ้น 40% จากไตรมาสสี่ที่ผ่านมา โดยกำไรไตรมาสแรกนั้นดีกว่าที่เราคาดการณ์ 8% สำหรับกำไรสุทธิที่เราประเมินไว้สำหรับปีนี้ โดยยอดรายได้ของบริษัทมีการเติบโต พร้อมอัตราทำกำไรดีขึ้น

สำหรับไตรมาสที่สองนั้น กำไรคาดว่าปรับเล็กตามลง 3% เทียบไตรมาสเดียวกันปีก่อน กลุ่มที่น่าจะสามารถแสดงกำไรโตได้นั้นจะมาจากกลุ่มธนาคาร การเงินเพื่อการบริโภค ยานยนต์ พาณิชย์ น้ำมัน มีเดีย การขนส่ง และ โรงพยาบาล ขณะที่กลุ่มประกัน พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ อาหาร สื่อสาร วัสดุก่อสร้าง และรับเหมา

หากมองจากมูลค่าตลาดหุ้นไทยปัจจุบันที่ค่ากำไรเทียบกับราคา 15.07 เท่า เราถูกกว่าตลาดอาเซียนและเอเซียที่ส่วนใหญ่ซื้อขายสูงกว่าไทยที่ระดับ 16-18 เท่า ประกอบทิศทางเม็ดเงินนักลงทุนต่างประเทศทยอยไหลกลับตลาดหุ้นภูมิภาคนี้อย่างต่อเนื่อง 11 สัปดาห์ติดต่อกัน ก็น่าจะทำให้ตลาดหุ้นไทยมีโอกาสปรับตัวขึ้นมากกว่า โดยฝ่ายวิจัยฯ บล.บัวหลวงประเมินเป้าหมายดัชนีฯปีนี้ไว้ที่ 1630 จุด