เคียวเกี่ยวดาวบูรพา

 เนื่องจากมีกลุ่มเกษตรกร เรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ใช้อำนาจตามมาตรา 44 แก้ไขปัญหาความขัดแย้งใน กฟก.

ศึกภายในกองทุนฟื้นฟูฯ ระหว่าง “คณะกรรมการบริหารกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร” กับ วัชระพันธุ์ จันทรขจร เลขาธิการกองทุนฟื้นฟูฯ นั้น ยืดเยื้อและไม่ยอมถอยด้วยกันทั้งคู่

หัวหอกฝ่ายบอร์ดบริหาร กฟก.คือ สุนทร รักษ์รงค์ นักเคลื่อนไหวภาคประชาชนสายใต้ และมีจุดยืนทางการเมืองไม่เอาระบอบทักษิณ

คล้ายกับว่า “โป๊ะ วัชรพันธุ์” ตัวแทนระบอบทักษิณ สู้กับ “สุนทร” จอมยุทธ์ชาวสวนยาง

แต่จริงๆแล้ว ไม่ใช่เลย มันเป็นเรื่องของ “อำนาจ และผลประโยชน์” ที่สองขั้วแย่งชิงกันอยู่

ขณะที่ภายในกองทุนฟื้นฟูฯ บอร์ดบริหารกับเลขาฯ เปิดศึกห้ำหั่นกัน ด้านนอก ชรินทร์ ดวงดารา ที่ปรึกษาเครือข่ายหนี้สินชาวนาแห่งประเทศไทย (คนท.) ขับเคลื่อนมวลชนเป็นระยะๆ เรียกร้องให้แก้หนี้สินเกษตรกร

แล้ววันหนึ่ง “ชรินทร์” ได้เจอกับ “นายทหารดาวรุ่ง” แห่งค่ายบูรพาพยัคฆ์ พล.ต.ธรรมนูญ วิถี รองแม่ทัพภาคที่ 1 สมัยที่ยังเป็นผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 9 

สองฝ่ายได้จับมือกันแก้ปัญหาหนี้สินของเกษตรกร จ.กาญจนบุรี จนสำเร็จในระดับหนึ่ง เรียกว่า โมเดลกาญจนบุรี และต่อมาได้กลายเป็น “โมเดลระดับชาติ” 

เมื่อ คสช.เห็นชอบหลักการให้คณะกรรมการกองทุนฟื้นฟูฯ ทั้งสามคณะจบภารกิจไป และจัดตั้ง “คณะกรรมการเฉพาะกิจ” ขึ้นมาใหม่ 1 คณะ เพื่อแก้ปัญหาหนี้สินให้เกษตรกร 15,000 ราย วงเงิน 3,000 ล้านบาท

ทั้งหมดนี้ เป็นไปตามข้อเสนอของ ชรินทร์ ดวงดารา และเครือข่ายหนี้สินชาวนาแห่งประเทศไทย (คนท.)

สรุปว่า ความขัดแย้งใน กฟก.มาลงเอย ที่ทหารจะร่วมกับ “จอมยุทธ์เกษตรกร” ล้างหนี้เกษตรกร พร้อมกับแก้กฎหมายกองทุนฟื้นฟูฯ ให้เอื้อต่อการแก้ไขปัญหาหนี้

18 ปี แห่งการตั้งกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร (กฟก.) มักจะมีการเมืองระดับชาติเข้าไปแทรกแซง เพราะต้องการฐานเสียงเกษตรกร แต่รอบนี้ “ขุนศึก” จะเข้ามาสร้างฐานการเมือง โดยอาศัยเครือข่ายหนี้ชาวนาฯ เป็นจุดเริ่ม

เหนืออื่นใด “ชรินทร์” มีพรรคการเมืองชื่อ “พรรคเครือข่ายชาวนาแห่งประเทศไทย” สัญลักษณ์ 4 เคียวเกี่ยวกัน