ไร้ทางเลือก

ไร้ทางเลือก

ช่วงนี้มีข่าวหลอกลวงฉ้อโกงกันมาก เริ่มจากขบวนการหลอกให้ซื้ออาหารเสริม เพื่อแลกกับทัวร์ญี่ปุ่นราคาถูก

 สุดท้ายผู้เสียหายนับพันถูกลอยแพ อีกไม่กี่วัน เกิดกรณีแพทย์หญิงหลอกผู้คนร่วมลงทุนในบริษัททัวร์ โดยอ้างผลตอบแทน 6 – 18 % ต่อเดือน มีผู้เสียหาย 40 คน มูลค่าความเสียหายกว่า 64 ล้านบาท

ยังมีบริษัทที่หลอกลวงคนให้ร่วมลงทุนเหมืองทองคำ ถึงขนาดพาไปดูเหมืองที่มาเลเซียเพื่อให้สมจริง กรณีนี้มีผู้เสียหายหลายสิบคนและมูลค่าสูงถึง 500 ล้านบาท อีกกรณีที่มูลค่าความเสียหายมากกว่า 1,400 ล้านบาทและมีผู้เสียหายจำนวนมาก ก็คือสหกรณ์ล็อตเตอรี่ที่ผู้ดำเนินงานเป็นด็อกเตอร์ และอดีตประธานกรรมการสหกรณ์ที่มีชื่อเสียง เงินดิจิทัล “วันคอยน์” และการซื้อขายบัญชีธนาคารที่ระบาดหนักขณะนี้ ก็เป็นเรื่องที่เข้าข่ายหลอกลวงกัน

กรณีเหล่านี้มีข้อสังเกต 2 ประการ (1) หลอกลวงคนจำนวนมากโดยใช้อินเตอร์เน็ตหรือโซเชียลมีเดียเป็นเครื่องมือ เพราะง่ายต่อการสร้างภาพและยากต่อการตรวจสอบ การพูดจาชักชวนระหว่างคนต่อคนให้หลงเชื่อทำได้ยาก แต่การใช้จิตวิทยามวลชนผ่านเทคโนโลยีสมัยใหม่ กลับได้รับความเชื่อถือมากกว่า

ข้อ (2) ผู้เสียหายมีหลายระดับ ทั้งรวยและจน ทั้งด้อยการศึกษาและมีการศึกษาสูง ผลตอบแทนที่สูงเกินจริงไม่น่าจะหลอกลวงทุกคนได้พร้อมกัน แน่นอนที่สุด ความโลภเกิดขึ้นได้กับทุกคน ไม่ใช่ว่ารู้น้อยโลภมากหรือรู้มากโลภน้อย แต่รู้มากย่อมคิดอ่านรอบคอบและบริหารความเสี่ยงได้ดีกว่า เรื่องนี้คงมีปัจจัยสำคัญอื่น ๆ เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย

อันที่จริง การหลอกลวงฉ้อโกงเช่นนี้ไม่ใช่ของใหม่ ในอดีตก็มีแชร์ลูกโซ่ที่ใหญ่มากและสร้างความเสียหายมหาศาล มันคือแชร์ (น้ำมัน) แม่ชม้อยช่วงปี 2520 – 2528 ซึ่งมีวงเงินสูงถึง 10,000 ล้านบาท ผู้เกี่ยวข้องกว่า 16,000 คน โดยมีมูลค่าความเสียหายกว่า 4,500 ล้านบาท

ในยุคนั้น ราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้นมาก (2nd Oil Crisis) เป็นผลจากการปฏิวัติอิหร่าน (มกราคม 2521 – กุมภาพันธ์ 2522) ตามด้วยสงครามอิหร่าน-อิรัก (กันยายน 2523 – สิงหาคม 2531) ราคาน้ำมันกดดันให้เศรษฐกิจทั่วโลกตกต่ำ ผู้คนต้องแสวงหาผลตอบแทนที่สูงขึ้นเพื่อเอาตัวรอดในยุคข้าวยากหมากแพง

นี่คือผลของเนปจูนในพิจิก พิจิกคือภพมรณะของโลก ซึ่งหมายถึงความสูญเสียทางเศรษฐกิจ เนปจูนคือน้ำมัน เมื่อเสาร์กรกฎทำมุม 90 กับมฤตยูตุลย์กลางปี 2519 ความขัดแย้งทางการเมืองในอิหร่านเริ่มก่อตัว ราคาน้ำมันผันผวนในขาขึ้น เสาร์ยกเข้าสิงห์กันยายน 2520 เศรษฐกิจทั่วโลกได้รับผลกระทบ กันยายน 2522 เสาร์สิงห์ทำมุม 90 เนปจูนพิจิก เศรษฐกิจโลกทรุดตัวชัดเจน มฤตยูเข้าพิจิกตุลาคม 2523 เนปจูนออกจากพิจิกมกราคม 2524 แชร์แม่ชม้อยปิดฉากมิถุนายน 2528 เมื่อเสาร์เข้าพิจิกร่วมกับมฤตยู

พิจิกเป็นราศีที่อันตรายที่สุด เมื่อบาปเคราะห์ใหญ่จรในราศีนี้ มักเกิดภัยพิบัติและความตกต่ำทางเศรษฐกิจ เช่นปี 2554 ที่ราหูจรพิจิก เกิดมหาอุทกภัยในประเทศไทย เสาร์เข้าพิจิกรอบที่แล้ว 21 ธันวาคม 2527 เสาร์โคจรครบรอบจักรราศีกินเวลา 30 ปี เสาร์ยกเข้าพิจิกรอบปัจจุบันเมื่อ 2 พฤศจิกายน 2557

เสาร์พิจิกนี้เองที่มีอิทธิพลอย่างมากต่อเศรษฐกิจไทยช่วงหลายปีที่ผ่านมา เสาร์คือความล่าช้า จำกัด ขาดแคลน ฯลฯ พิจิกเป็นภพมรณะของดวงเมือง เศรษฐกิจจึงฝืดเคืองและชะลอตัวหนัก มรณะคือภัยพิบัติ เสาร์ก่อให้เกิดภัยแล้งที่ส่งผลต่อภาคเกษตรอย่างรุนแรง เสาร์ยังเป็นดาวเจ้าเรือนภพ 10 ซึ่งหมายถึงการเมือง การเมืองที่มองไม่เห็นอนาคตชัดเจนคืออีกปัจจัยหนึ่ง

ไม่เพียงเท่านั้น เสาร์เล็งอังคารเดิมในพฤษภด้วย อังคารคือดาวเจ้าเรือนมรณะ พฤษภคือภพเศรษฐกิจการเงิน อังคารเสาร์เป็นดาวคู่ศัตรู ความเสียหายจึงหนักขึ้น ช่วง 20 กุมภาพันธ์ – 17 มิถุนายน 2559 และช่วง 12 กรกฎาคม – 18 กันยายน 2559 ที่อังคารเดินหน้าถอยหลังในพิจิกร่วมกับเสาร์ สถานการณ์จะรุนแรงมาก

จุดสำคัญที่สุดคือเสาร์พิจิกทำมุม 90 กับเนปจูนกุมภ์ ดาวคู่นี้เคยส่งผลเสียร้ายแรงช่วงปี 2522 บัดนี้เข้ามุมร้ายกันอีก ยังไม่หมดแค่นี้ วันที่ 9 มกราคม 2560 ราหูยกเข้าสิงห์ บาปเคราะห์ทั้งสามเข้ารูป T-square กัน เกิดเป็นพลังทางลบที่ทำลายประเทศอย่างรุนแรงที่สุด ดังที่ผู้เขียนทำนายไว้ว่า “Perfect Storm 2016” โดยทั้งสามเข้ามุม 90 และ 180 กันสนิทตั้งแต่กลางสิงหาคม – ปลายตุลาคม (วันที่ 13 ตุลาคม ในหลวงรัชกาลที่ 9 เสด็จสวรรคต)

ราหูจรสิงห์คืออีกปัจจัยสำคัญ ทุกครั้งที่ราหูเข้าราศีนี้ มักเกิดเรื่องร้ายแรงทางเศรษฐกิจเสมอ เช่นครั้งที่ผ่านมา 20 มิถุนายน 2540 - 18 ธันวาคม 2541 เศรษฐกิจไทยฟองสบู่แตก ธนาคารแห่งประเทศไทยต้องลอยตัวค่าเงินบาทเมื่อ 2 กรกฎาคม 2540 และไทยต้องกู้เงินจาก IMF ในเดือนต่อมา

ใน “พฤหัส-ราหู” เมื่อ 25/12/2558 กล่าวไว้ว่า “...ราหูเดิมในดวงเมือง เป็นวินาศลัคน์ จรไปที่ใด ย่อมนำความเป็น “วินาศ” ติดตัวไปด้วย เมื่อจรสิงห์-ภพที่ 5 อันเกี่ยวข้องกับการลงทุน มิติเหล่านี้ย่อมเสียหาย...” (http://www.bangkokbiznews.com/blog/detail/636475)

เสาร์เนปจูนทำให้เศรษฐกิจฝืดเคืองตกต่ำ ผู้คนต้องการผลตอบแทนสูงขึ้น ราหูคือความมืด ราหูสิงห์ดลใจผู้คนแสวงหาการลงทุนแบบลึกลับพิสดาร พฤหัสสิงห์ที่ร่วมราศีด้วย ทำให้เห็นผิดเป็นชอบ และนั่นคือหนทางสู่หายนะ

ความหายนะถูกยืนยันจากคราส วันที่ 1 กันยายน 2559 เกิดสุริยคราสที่ 15:16 องศาสิงห์ ทับจุดศูนย์กลางภพ 5 พอดี นี่คือจุดเริ่มต้น วันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2560 เกิดสุริยคราสที่ 14:6 องศากุมภ์ เล็งจุดศูนย์กลางภพ 5 ซ้ำอีกที นี่คือจุดจบ สวรรค์ชี้ว่าการลงทุนแบบลับ ๆ เมื่อกลางปีที่แล้ว จะพังพินาศกลางปีนี้

การลงทุนมีความเสี่ยง แต่แรงจูงใจที่ทำให้คนกล้าเสี่ยงอย่างผิด ๆ คืออัตราดอกเบี้ยที่ต่ำมากและนานมาก มันเป็นผลของวัฏจักรพฤหัสเนปจูนที่เริ่มต้นพฤษภาคม 2552 เนปจูนแปลว่าหลอกลวง กลางเมษายน – กลางสิงหาคมนี้ พฤหัสกันย์ทำมุม 150 กับเนปจูนกุมภ์ การลงทุนที่หลอกลวงจะผิดพลาดล้มเหลว มฤตยูเมษทำให้เรื่องปรากฏสู่สาธารณชน

ว่ากันถึงที่สุดแล้ว นี่ไม่ใช่เรื่องความโลภ แต่เป็นระบบโครงสร้างเศรษฐกิจที่ผิดเพี้ยนและไร้ทางเลือกต่างหาก