ศึกนอกหรือศึกใน แรงกระเพื่อม ดันปรับครม.

  ประกาศลั่นถึงการปรับคณะรัฐมนตรี “ทำไมต้องปรับ ปรับใคร หรือต้องปรับตามสื่อ รัฐมนตรีที่มีอยู่บกพร่องอย่างไร” รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ไม่ได้ “บัญญัติในมาตราใด” ว่าต้องปรับคณะรัฐมนตรีเมื่อรัฐธรรมนูญประกาศใช้ ดังนั้นจะยังไม่ปรับคณะรัฐมนตรี “ขณะนี้” เพราะทุกอย่างยังทำงานได้อยู่

จริงๆ เสียงสะท้อนว่าจะมีการปรับคณะรัฐมนตรี ดูเหมือนจะมีมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ก่อนสงกรานต์เสียด้วยซ้ำ เดี๋ยวจะปรับรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงบ้าง รัฐมนตรีทีมเศรษฐกิจบ้าง ออกมาเป็นระลอกๆ อยู่ จึงไม่แน่ใจว่า แรงกระเพื่อมให้ปรับคณะรัฐมนตรี ปกติแล้วมาจาก “ภายใน” หรือ “ภายนอก” กันแน่ 

ถ้าบอกว่า แรงกระเพื่อมของข่าวลือก็ไม่ผิด แต่ปกติแล้วข่าวที่ลือๆ กันออกมามักจะเป็น “ข่าวจริง” เสมอ ขึ้นอยู่กับว่า มันจะเกิดขึ้นในช่วงเวลาไหนต่างหาก 

ฉะนั้นงานนี้ถ้าไม่มีมูลใดๆ เกิดขึ้นเลย ข่าวทำนองนี้ก็คงจะไม่เกิดขึ้น ถามว่าเรื่องราวเหล่านี้ ถ้าไม่เกิดจาก “ภายใน” คนเป็นสื่อกล้าที่จะเสนอหน้าไปถามเรื่องนี้ได้อย่างไร สื่อไม่มีสิทธิ์แม้แต่น้อยที่จะไปเสนอหรือแสดงความคิดเห็นใดๆ

ปกติแล้วเห็นเกิดจากแรงกระเพื่อมหรือแรงกดดันจาก “ภายใน” แทบทุกครั้ง และมักจะเกิดขึ้นในห้วงเวลาที่เศรษฐกิจอ่อนแอ หรือไม่ก็มีเหตุการณ์ผิดปกติ วันนี้อาจต้องลองหันมามองว่า การทำงานของทีมเศรษฐกิจที่เป็นอยู่ มันขับเคลื่อนไปด้วยกันได้ทุกกระทรวงจริงหรือ ยิ่งนายกฯออกมาตอกย้ำว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับเศรษฐกิจฐานราก ต้องเชื่อมต่อกับห่วงโซ่การลงทุนขนาดใหญ่ ตรงนี้ต่างหากที่ทีมเศรษฐกิจต้องไปด้วยกันทุกกระทรวง แต่วันนี้ไม่แน่ใจว่า ใช่หรือไม่

แน่นอนหากช่วงนี้ตอนนี้ขณะนี้ไม่เกิด วันไหนที่มีการปรับคณะรัฐมนตรี เชื่อเถอะ..ผลกรรมตกอยู่ที่ รัฐมนตรีเศรษฐกิจ แน่นอน ส่วนจะมากน้อยแค่ไหนขึ้นอยู่กับกาลเวลา แต่คำถามใหญ่ใครจะเข้ามารับ “ไม้ต่อ” ในภาวะแบบนี้ ปัญหาปากท้องก็มีอยู่ไม่น้อย โดยเฉพาะชาวบ้านในต่างจังหวัดบ่นกันหนักมาก   

ฉะนั้นหากวันข้างหน้ามีการปรับคณะรัฐมนตรีขึ้นมา อย่าลืมว่า “ทีมเศรษฐกิจ” นั่นแหละคือหัวใจสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศ และปากท้องชาวบ้าน ส่วนจะเป็นใครเก่งแค่ไหน อันนี้คงต้องรอเวลาพิสูจน์อีกที