อย่าดูถูกใคร อย่าอิจฉาใคร อย่าหมั่นไส้ใคร!
“ดูถูกคนจน อิจฉาคนรวย หมั่นไส้พวกเดียวกัน... คนอย่างนี้ไม่มีวันเจริญ”
นี่คือสัจธรรมจาก “ผู้ใหญ่ใจดี” ที่กระซิบบอกผมวันก่อน ที่ได้นั่งติดกันในงานเลี้ยงรับรองผู้ว่ามณฑลจากเหอหนาน เพื่อสร้างสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทยกับมณฑลใหญ่ที่สุดของจีน เพราะมีประชากรกว่า 100 ล้านคน
คุณไกรสร จันศิริ ประธานกลุ่ม Thai Union Group PCL ยักษ์ใหญ่วงการปลาทูน่าระดับโลก มีธุรกิจใน 30 กว่าประเทศ ยอดขายปีละกว่า 100,000 ล้านบาทมีความเมตตาต่อคุณรุ่นใหม่เสมอ
พอนั่งสนทนากับท่านถึงเรื่องราวของชีวิตและงานการ คุณไกรสรจะให้ข้อมูลและความรู้ ที่พรั่งพรูออกมาอย่างลื่นไหล เพราะประสบการณ์ชีวิตของท่านล้วนเป็นตัวอย่างให้กับคนรุ่นต่อไปอย่างดียิ่ง
ปีนี้คุณไกรสรอายุ 83 แต่ยังกระฉับกระเฉง “ผมต้องทำงานทุกวัน ถ้าไม่ทำงานก็เหี่ยวเฉาเร็ว”
ท่านคือหนึ่งในซีรีส์ The People I Meet ที่น่าประทับใจอีกหนึ่งตอน
ผมพบปะสนทนากับใครที่ได้ประโยชน์จะนำมาเล่าขานในคอลัมน์นี้ เพราะความรู้อย่างนี้ไม่มีในห้องเรียนหรือที่ทำงาน หากแต่ต้องเป็นการถ่ายทอดระหว่างการสนทนาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันอย่างเป็นกันเอง มิใช่การสัมภาษณ์อย่างเป็นทางการ ไม่ใช่การตั้งกล้องหยิบปากกามาบันทึกเท่านั้น
คุณไกรสรแนะนำว่าชีวิตของคนต้องทำความดี การกุศลและช่วยเหลือคนอื่นเพราะคนที่ร่ำรวยแล้วเก็บไว้เอง มีแต่จะนอนตายตาไม่หลับเพราะเป็นห่วงทรัพย์สินเงินทองของตัวเอง ไม่สนใจว่าสังคมจะเป็นอย่างไร
“ผมโตมาไม่ได้เรียนหนังสือ ไม่จบ ป. 4 ด้วยซ้ำเพราะต้องทำงานหาเลี้ยงชีพและครอบครัวตั้งแต่เด็กๆ ทุกวันนี้แม้จะเกิน 80 แล้วก็ยังอ่านหนังสือทุกวัน...ผมพยายามอ่านหนังสือไทยทุกวัน และก่อนกลับบ้านจากที่ทำงานจะอ่านหนังสือพิมพ์ภาษาอังกฤษเพื่อศึกษาศัพท์แสง อ่านข่าวหน้าหนึ่งและหน้าธุรกิจทีละตัวหนังสือ...เพื่อจะเรียนรู้อะไรใหม่ ๆ ตลอดเวลา” คุณไกรสรบอกผม
เขาดิ้นรนต่อสู้แบบอาบเหงื่อต่างน้ำจริง ๆ เพราะครอบครัวต้องเผชิญกับอุปสรรคนานัปการ กว่าจะรอดปากเหยี่ยวปากกามาตั้งเนื้อตั้งตัวด้วยวิริยะอุตสาหะด้วยลำแข้งของตัวเองจริง ๆ
วันนี้ เขาเป็นนักธุรกิจแสนล้านแต่ดำเนินชีวิตแบบเรียบง่ายและถ่อมตน แม้จะเผชิญกับการท้าทายของโรคร้าย แต่ก็รักษาจนหายด้วยการปฏิเสธการรักษาแบบเดิม หันเข้าหายาที่แก้โรคนั้นได้อย่าชะงัดและพร้อมจะแบ่งปันความรู้ให้กับทุกคนที่สนใจ
คุณไกรสรออกกำลังกายด้วยการเดินเร็ว 40 นาที สัปดาห์ละสามวันเป็นอย่างน้อย อีกทั้งยังมีครูมาสอนร้องเพลงแบบโอเปร่าจีนอาทิตย์ละสองวันเพื่อผ่อนคลายและฝึกฝนทักษะการใช้เสียงอย่างสม่ำเสมอ
เขาทำบุญทำกุศลอย่างต่อเนื่อง ให้ทุนการศึกษาเยาวชนไทยเรียนจนจบมหาวิทยาลัยแล้วเป็นจำนวนมาก “เพราะตอนเด็กผมไม่ได้เรียนหนังสือ เมื่อผมพอจะมีเงินมีทองบ้างผมก็ส่งเสียให้เด็กที่ยากไร้ได้มีโอกาสเต็มที่...”
และอีกเคล็ดลับแห่งการดำรงชีวิตอีกอย่างของนักต่อสู้ระดับสากลคนนี้คือ
“ฟังการเมืองแต่ไม่พูดการเมือง”
จบข่าว!