ผู้ชนะ

 มารีน เลอแปงได้ 10.6 ล้าน 33.9 % มาครงชนะและได้เป็นประธานาธิบดีคนใหม่ ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ที่ผู้ชนะเป็นผู้สมัครหน้าใหม่ที่ไม่เคยลงเลือกตั้ง และไม่มีฐานเสียงในสภาเลย

โพลว่ามาครงมีคะแนนนำทิ้งห่างเลอแปงตลอด ผู้เขียนชี้ว่า 3 พฤษภาคม พุธวิกลคติเสริดกุมมฤตยูสนิท พุธคือข้อมูลข่าวสาร จะปรากฏข้อมูลใหม่ที่เปลี่ยนกระแสได้ ทั้งคู่ดีเบตกันวันนั้น เลอแปงถามถึงข่าวลือเรื่องบัญชีลับของมาครงในหมู่เกาะบาฮาม่า เขาปฏิเสธและยื่นฟ้องเธอในคดีหมิ่นประมาท คืนนั้นมีภาพบัญชีลับในหมู่เกาะเนวีย์ของมาครงเผยแพร่ในอินเตอร์เน็ต แต่สื่อกระแสหลักกลับไม่สนใจ ไม่เสนอให้รัฐบาลตรวจสอบ ซ้ำยังฟันธงเสียเองว่าไม่จริง

มาครงเคยเป็นวานิชธนกรของตระกูลร็อทธ์ไชลด์มาก่อน อาชีพนี้มีหรือจะไม่รู้จักเส้นสนกลในของเกาะหนีภาษี การเสนอข่าวเพื่อแสดงถึงความไม่ชอบมาพากล และเรียกร้องให้ตรวจสอบเบื้องลึก จึงเป็นสิ่งที่ควรกระทำ แต่สื่อกระแสหลักกลับเพิกเฉย นี่เพราะมาครงเป็น“ตัวแทน” ของกลุ่มทุนนิยมโลกที่เป็นเจ้าของสื่อใหญ่ ข่าวจึงถูกกลบเกลื่อนไป

ก่อนเส้นตายหยุดหาเสียงเพียงไม่กี่ชั่วโมง มาครงให้ข่าวว่า ไฟล์ข้อมูลแคมเปญหาเสียงถูกแฮ็ก เรื่องนี้แปลก เพราะถึงนาทีสุดท้ายแล้ว จะเอาข้อมูลนี้ไปทำอะไร ซ้ำเผยแพร่ก็ไม่ได้เพราะผิดกฎหมาย แต่สื่อกระแสหลักกลับตีเป็นข่าวใหญ่ไปทั่ว ซ้ำกล่าวอ้างว่าเป็นฝีมือรัสเซีย นี่คือการสร้างข่าวเพื่อกลบข่าวอย่างแท้จริง

แม้มาครงเป็นผู้ชนะ แต่มีผู้ไม่ออกเสียงถึง 12 ล้านคน คิดเป็น 25.4 % สูงสุดนับแต่ปี 1969 นี่คือเสียงของประชาชนที่ผิดหวังต่อการเมืองปัจจุบันและปฏิเสธตัวเขา เลอแปงถึงแม้พ่ายแพ้ แต่เธอสร้างคะแนนเสียงสูงสุดในประวัติศาสตร์ของพรรคขวาจัด ซึ่งจะเป็นพื้นฐานสำคัญสำหรับการเลือกตั้งอีก 5 ปีข้างหน้า

ในทางโหราศาสตร์ ดวงเลอแปงเข้มแข็ง โดดเด่น และเหมาะกับงานการเมือง เธอขึ้นเป็นผู้นำพรรคแทนพ่อและสร้างฐานเสียงที่เติบโตขึ้นเรื่อย ๆ ส่วนดวงมาครงอ่อนแอและเต็มไปด้วยโชคฟลุ๊ค คนที่ไร้รากและไม่เคยแสดงเจตนารมณ์ที่แน่วแน่ทางการเมือง จึงสามารถขึ้นเป็นผู้นำประเทศในยามที่บ้านเมืองวุ่นวายได้ แต่ดวงเขาไม่สอดคล้องกับดวงเมือง ฝรั่งเศสจะดีขึ้นหรือแย่ลง คงต้องดูกันต่อไป

ถ้าดูดวงโปรเกรสของมาครง มีสัญญาณแห่งชัยชนะ 2 ประการ คือ (1) จันทร์ทำมุม 120 กับอาทิตย์ศุกร์สนิท (2) อังคาร-ดาวเจ้าเรือนทศมลัคน์เล็งลัคน์เดิม ขณะที่ดวงเลอแปงมี (1) ทศมลัคน์ทับพฤหัสเดิม พฤหัส 60 กับทศมลัคน์เดิม (2) ลัคน์ 120 กับทศมลัคน์เดิม น้ำหนักไม่ยิ่งหย่อนกว่ากันเท่าไร ต้องใช้ดาวจรเข้าตัดสิน

ดาวจรให้คุณกับเลอแปงอย่างมาก พฤหัสทับลัคน์พอดี พลูโตเล็งทศมลัคน์สนิท อังคารโยคหลัง 60 กับอาทิตย์และพุธ-ดาวเจ้าเรือนลัคน์ ในดวงมาครง อาทิตย์ทับจันทร์เดิม อังคารโยคหลัง 60 กับอังคารเดิม ราหูทับเสาร์-ดาวเจ้าเรือนลัคน์สนิท แต่ลัคน์และทศมลัคน์วันเลือกตั้งสอดคล้องให้คุณกับเลอแปงมากกว่า นี่คือจุดตัดสินที่ผู้เขียนทำนายว่า เลอแปงเป็นผู้ชนะ

แต่ผลปรากฏว่าแพ้ ผู้เขียนขอยอมรับผิดและขออภัยครับ เมื่อดูเว็บของนักโหราศาสตร์ยุโรปก็พบว่า กว่า 70 % ทายว่าเลอแปงชนะ พวกเขาใช้เทคนิคที่แตกต่าง (เช่น Profection) แต่ก็ได้ผลเหมือนกัน น่ายินดีที่เราทุกคนซื่อสัตย์ต่อตัวเองและหลักวิชา ทุกคนต้องการพัฒนาต่อยอดองค์ความรู้ มิฉะนั้น คงไม่กล้าทำนายสวนโพลที่คะแนนตามหลังกันมากมายเช่นนี้

เหตุผลที่ผู้เขียนทำนายผิดมี 3 ข้อ (1) จังหวะที่พุธวิกลคติเสริด ข้อมูลบัญชีลับของมาครงรั่วไหล แต่เลอแปงไม่สามารถใช้มันพลิกสถานการณ์ได้ สื่อกระแสหลักเป็นฝ่ายตรงข้ามกับเธอ สื่อมวลชนก็คือพุธ พุธเสริดแต่ตกภพมรณะ ซ้ำกุมมฤตยูสนิท ไม่เพียงไม่ให้คุณ แต่กลับให้โทษเรื่องข่าวแฮ็กข้อมูลอย่างคาดไม่ถึง

(2) ราหูที่ทับเสาร์เดิม ทำมุม 120 กับเสาร์จรที่ทับอาทิตย์เดิม เสาร์ยังส่งกระแสเป็นเกณฑ์ 10 ไปถึงราหูเดิมในดวงมาครง ถือเป็น “โชคเทวฤทธิ์” ตามหลักโหรไทย โชคเทวฤทธิ์นี้กระตุ้นพลังของ “ปริวรรตนะราชาโยค” ตามหลักโหรอินเดีย ดลบันดาลให้เขามีโชคฟลุ๊คในการขึ้นสู่ตำแหน่งผู้นำสูงสุดของประเทศ

ผู้เขียนเห็นจุดนี้ตั้งแต่แรก แต่คิดว่ามีน้ำหนักน้อยกว่าพฤหัสพลูโตจรในดวงเลอแปง (พวกยุโรปไม่เห็นจุดนี้ เพราะโหราศาสตร์สากลไม่ใช้ราหูจร) เมื่อเลอแปงแพ้ จึงถือเป็นสถิติใหม่ที่ต้องทดสอบกันต่อไป

ข้อ (3) สำคัญที่สุด กลไกการเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศส ขัดกับสมมติฐานการเลือกอย่างอิสระของมหาชน (Free Will) ในโหราศาสตร์ชะตาบ้านเมือง เพราะการเลือกรอบ 2 เปิดโอกาสให้ผู้สมัครที่ตกรอบแรกรวมหัวกันเทคะแนนให้กับคนหนึ่งและบีบอีกคนให้พ่ายแพ้ เช่นกรณีฌองค์-มารีน เลอแปง พ่อของเลอแปงที่เข้าชิงรอบ 2 ในปี 2002 และถูกรุมจนแพ้ไป 17.8 ต่อ 82.2 %

ในครั้งนี้ ฟียงและอามงจาก 2 พรรคใหญ่ในสภาเทคะแนนให้มาครง ทำไม ? การเมืองคือเรื่องผลประโยชน์ เลอแปงทำงานการเมืองมา 20 ปีและมีประสบการณ์สูง แต่มาครงเป็นหน้าใหม่ เพิ่งตั้งพรรคเมษายน 2016 ไม่มีฐานเสียงในสภา จึงง่ายต่อการเจรจาต่อรองและตนเองได้รับประโยชน์มากกว่า กลไกเช่นนี้ทำให้เลอแปงต้องพ่ายแพ้

มาครงคือผู้ชนะ แต่ชัยชนะของเขาไม่แน่ว่าเป็นชัยชนะของฝรั่งเศส ในโลกปัจจุบันที่ซับซ้อนวุ่นวาย การบริหารประเทศที่แตกแยกภายในอย่างหนัก โดยผู้นำที่อ่อนประสบการณ์ย่อมอันตรายมาก นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า ฝรั่งเศสจะย่ำแย่ลงไปอีก

ผู้ชนะที่แท้จริงคือแอนเจลา แมร์เคิลครับ