หุ้นยุโรปหลังเลือกตั้งฝรั่งเศส น่าลงทุนหรือไม่?

สวัสดีเดือนพ.ค.ครับ หลังเลือกตั้งฝรั่งเศสผ่านไป ตลาดเริ่มลดความกังวลกับสถานการณ์การเมืองในยุโรปลง ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้น บางตลาดอย่างเยอรมันถึงกลับทำ All time High ในสถานการณ์แบบนี้ผมเชื่อว่านักลงทุนจำนวนไม่น้อยคงแอบมีคำถามขึ้นในใจว่า แล้วแบบนี้กองทุนหุ้นยุโรปยังน่าลงทุนอยู่หรือไม่? วันนี้เราจะหยิบยกประเด็นที่ว่ามาคุยกันครับ

หากพูดถึงพื้นฐานที่สนับสนุนธุรกิจในยุโรป ตัวเลขในช่วงที่ผ่านมานั้นตัวเลขเศรษฐกิจหลายตัวไม่ว่าจะเป็นปัจจัยภายในประเทศอย่าง PMI ที่ยืนเหนือ 50 อย่างสม่ำเสมอ ยอดค้าปลีกที่โตขึ้น ตัวเลข GDP ที่ถือว่าค่อนข้างดี เงินเฟ้อที่เริ่มกลับมา หรือว่าจะเป็นปัจจัยภายนอกอย่างเศรษฐกิจทั่วโลกที่ดูมีพัฒนาการ ต่างก็ส่งผลดีต่อหุ้นยุโรปซึ่งพึ่งพาการส่งออกสูง หรือแม้แต่แนวโน้มผลประกอบการบริษัทของบริษัทจดทะเบียนนั้นก็มีแนวโน้มที่ดีขึ้นจากปีก่อนเช่นกัน ดังนั้นผมคงปฏิเสธไม่ได้ว่าในระยะนี้หากมองที่ปัจจัยพื้นฐานในปัจจุบันแล้วหุ้นยุโรปถือว่าดีขึ้นจริงครับ

อย่างไรก็ตาม ในแง่ของการจะลงทุน การมองปัจจัยพื้นฐานเพียงอย่างเดียวนั้นแน่นอนว่าคงไม่เพียงพอครับ เพราะราคาก็เป็นอีกปัจจัยสำคัญมากที่ควรนำมาพิจารณาประกอบการตัดสินใจด้วย เหมือนเวลาเราจะซื้อของสักชิ้น เรายังไม่ได้ดูแต่คุณภาพของสินค้าที่เราจะซื้อเลย แต่เรายังดูด้วยว่าของชิ้นนั้นคุณภาพสมราคาด้วยไหม ซึ่งราคาที่เหมาะสมของสิ่งของแต่ละชิ้นก็คงไม่เท่ากัน แถมยังขึ้นอยู่กับว่าใครจะใช้อะไรเป็นตัวตัดสินอีกด้วย ตัวชี้วัดหนึ่งที่ผมใช้ในการประกอบการตัดสินใจเกี่ยวกับราคาที่เหมาะสมของหุ้นในตลาดที่มีลักษณะแบบนี้ก็คือ อัตราส่วน P/E เมื่อเทียบค่าเฉลี่ยในรอบ 10 ปีนั่นเองครับ 

ถ้ามองอัตราส่วน P/E ของหุ้นยุโรป ในปัจจุบันซึ่งอยู่ที่ ราว 15.9 เท่า เทียบกับค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 10 ปีที่ 13.2 เท่าแล้ว จะเห็นได้ว่า P/E ในวันนี้ได้กลับขึ้นมายืนเหนือค่าเฉลี่ยในรอบ 10 ปีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทำให้ผมมองว่าราคาหุ้นยุโรปโดยรวมในวันนี้ไม่ได้ถูกเหมือนเมื่อก่อนแล้วครับ ดังนั้นแม้จะมองว่าพื้นฐานหุ้นยุโรปดีขึ้น แต่เมื่อนักลงทุนในตลาดต่างก็คิดแบบนี้ และไล่ซื้อหุ้นยุโรปกันมาทำให้ราคาสูงขึ้นเรื่อยๆ จนสะท้อนมุมมองเชิงบวก และความคาดหวังของนักลงทุนไปมากแล้ว ทำให้ ณ วันนี้ หากใครต้องการจะลงทุนในกองทุนหุ้นยุโรป ผมก็คงจะต้องขอบอกว่า ผมไม่แนะนำให้เข้าไปลงทุนในหุ้นยุโปเพิ่มครับ 

อย่างไรก็ตามสำหรับบางคนที่อาจมีหุ้นยุโรปในพอร์ตอยู่แล้ว ประเด็นอาจไม่ได้อยู่ที่ว่าควรซื้อหุ้นยุโรปเพิ่มไหม แต่คงอยู่ตรงที่ว่าจะทำอย่างไรกับหุ้นยุโรปที่มีอยู่นี่สิ จำเป็นต้องขายทันทีเลยไหม? อันนี้ผมมองว่าไม่จำเป็นครับ แต่ควรหาจังหวะในการทยอยลดสัดส่วนลงบ้าง เพราะถามว่าหุ้นยุโรปที่แพงแล้วนี้ยังมีสิทธ์ขึ้นไปอีกไหม ผมก็ยังเชื่อว่ามี เพียงแต่ถ้าราคาหุ้นขึ้นไปอีกความเสี่ยงที่ราคาจะปรับตัวลดลงก็จะสูงขึ้นตามไปด้วย

อย่างที่ Warren Buffett เคยกล่าวไว้ว่า “Price is what you pay, value is what you get.” ...ราคาคือสิ่งที่คุณจ่าย แต่คุณค่าคือสิ่งที่คุณได้รับนะครับ ดังนั้น จงอย่าลงทุนเพียงเพราะเห็นว่าพื้นฐานดีจนลืมดูไปว่าราคาที่ต้องจ่ายมันคุ้มค่าหรือเปล่า!? เพราะสินทรัพย์คุณภาพดีที่แพงเกินไปจนไม่สมราคา สุดท้ายก็อาจนำมาซึ่งการขาดทุนได้เหมือนกัน 

สำหรับเดือนนี้ผมคงฝากไว้เท่านี้ก่อน ไว้พบกับใหม่ในเดือนหน้า โชคดีในการลงทุนนะครับ