'เนติวิทย์' สายแข็ง

'เนติวิทย์' สายแข็ง

แฟนเพจ “สภานิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย” ได้แจ้งให้ทราบว่า เนติวิทย์ โชติภัทรไพศาล เป็นประธานสภานิสิต

 ในวาระปีการศึกษา 2560 (ดำรงตำแหน่ง 1 มิ.ย. 2560 ถึง 31 พ.ค. 2561)

พลันที่สื่อทราบข่าว ก็มีการรายงานข่าวอย่างทันท่วงที พร้อมเสียงวิพากษ์วิจารณ์ดังอึงมี่

เนื่องจาก “แฟรงค์ เนติวิทย์” เป็นสายแข็ง และเป็น “ของแสลง” ฝ่ายผู้มีอำนาจ

ดังนั้น ปฏิกิริยาในโซเชียล จึงมีทั้งดีใจสุดๆ และตกใจสุดขีด ด้วยฝ่ายหลัง กังวลว่า เนติวิทย์จะพาให้จุฬาฯ เข้ารกเข้าพง

ก่อนอื่นต้องเข้าใจโครงสร้างกิจการนิสิตจุฬาฯ เสียก่อน อันประกอบด้วยฝ่ายบริหาร และฝ่ายสภา

ฝ่ายบริหารคือ องค์การบริหารสโมสรนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (อบจ.)

ฝ่ายสภาคือ สภานิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (SCCU) วันนี้ เนติวิทย์ อยู่ฝ่ายตรวจสอบ

“เนติวิทย์” หรือ แฟรงค์ เกิดเมื่อวันที่ 10 กันยายน 2539 ในทะเบียนบ้านระบุว่า เป็นชาว ต.เทพารักษ์ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ บิดาและมารดาประกอบอาชีพขายของชำแถวบ้าน

แฟรงค์เข้าเรียนชั้นประถมที่ โรงเรียนป้วยฮั้ว สมุทรปราการ จากนั้น ต่อระดับมัธยมที่โรงเรียนนวมินทราชินูทิศ เตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ

ตอนอยู่ ม.5 หรือประมาณช่วงปี 2556 เนติวิทย์ เริ่มเป็นที่รู้จักเป็นวงกว้างในโลกออนไลน์ ที่เจ้าตัวมักโพสต์ความคิดเห็นต่างๆ ออกมาทางเฟซบุ๊คส่วนตัว

การทำกิจกรรมโปรดของเขาเช่น ตอนอยู่ ม.2 เคยทำจุลสารปรีดีให้กับทางโรงเรียน และเป็นผู้ริเริ่มกลุ่มต่างๆ อาทิ ชมรมปรีดีเสวทัศน์ กลุ่มการศึกษาเพื่อความเป็นไท

หลังรัฐประหาร 2557 เนติวิทย์ ออกมาแสดงจุดยืนไม่เห็นด้วยกับการรัฐประหาร และเคยเคลื่อนไหวต้านเผด็จการทหาร ในฐานะรองประธานกลุ่มองค์กร “ยุวสยาม” 

ตอนสอบเข้ามหาวิทยาลัย เนติวิทย์อยากเข้าธรรมศาสตร์ เพราะศรัทธาในกลุ่มอาจารย์คณะนิติราษฎร์ แต่สอบติดจุฬาฯ 

เมื่อ 5 ตุลาคม 2559 เนติวิทย์ขณะเป็นนิสิตปี 1 ได้เชิญ โจชัว หว่อง นักกิจกรรมชาวฮ่องกงต่อต้านรัฐบาลจีน มาปาฐกถาครบรอบ 40 ปี 6 ตุลาคม 16 หัวข้อ “การเมืองของคนรุ่นใหม่” แต่โจชัว หว่อง กลับถูกทางการไทยควบคุม กักตัวไว้ 12 ชั่วโมง ก่อนส่งกลับฮ่องกง

หรือไม่นานมานี้ กับการต้องเกณฑ์ทหาร แฟรงค์ก็บอกว่า “การรับใช้ชาติไม่ควรจำกัดอยู่ที่การเป็นทหารเท่านั้น” ว่าแล้วก็ขอผ่อนผัน

ทั้งหมดนี้ คือตัวตนของเนติวิทย์ คนรุ่นใหม่ที่ “คนเดือนตุลา” ปีกไม่เอาทหาร ซึ่งคาดหวังที่จะให้เป็น “ผู้นำ” ในอนาคต

ถ้า 3 ปีข้างหน้า “เนติวิทย์” ได้รับเลือกเป็นนายกองค์การบริหารสโมสรนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (อบจ.)

รับประกันขบวนการนักศึกษาไทยที่ตายสนิทมาหลายปี อาจฟื้นตื่นขึ้นมาอีกหนก็ได้