คิดทำงานแบบเห็นคนเป็นคนเหมือนกัน

คิดทำงานแบบเห็นคนเป็นคนเหมือนกัน

หากทำงานด้วยกันอย่างคำนึงถึงเขาถึงเรา การเบียดเบียนย่อมไม่เกิดขึ้น

 วันใดก็ตามที่เริ่มคิดว่าตัวเราไว้ก่อน คนอื่นช่างมัน การเอารัดเอาเปรียบก็จะปรากฏขึ้นมา คราวนี้อะไรต่ออะไรที่คนไม่ควรจะกระทำกับคนด้วยกันก็ตามมา แต่ไม่ได้หมายถึงกับมีการทำร้ายฆ่าแกงกัน แต่หมายถึงการกระทำที่ทำให้เกิดความไม่สบายใจ ไม่สบายกาย รวมทั้งการเลือกปฏิบัติทำนองฉันสูงเธอต่ำฉันจะทำอย่างไรก็ได้ ถ้าอยากทำงานด้วยกันแบบยังเห็นคนร่วมงานเป็นคนเหมือนกัน ให้ลองยึดหลักคิดเบื้องต้นสามประการ ที่ดั่งเดิมใช้เป็นหลักคิดพื้นฐานในการวิจัยที่เกี่ยวข้องกับคน ใครทำวิจัยเกี่ยวข้องกับคนต้องยึดหลักคิดนี้ ห้ามละเลยเด็ดขาด ไม่งั้นคนจะกลายเป็นสัตว์ทดลอง

หลักแรกคือ เคารพความเป็นตัวตนของกันและกัน เคารพว่าคนแต่ละคนมีความคิดความเห็นเป็นของตนเอง คนแต่ละคนมีลักษณะ มีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน คนแต่ละคนควรได้รับการปฏิบัติที่สอดคล้องกับตัวตนของคนนั้น ไม่ใช่ใช้ตัวตนของคนหนึ่งไปกำหนดวิธีปฏิบัติให้กับอีกคนหนึ่ง ชอบระเบียบ ชอบสั่งซ้ายหันขวาหัน ถ้าเคารพความเป็นตัวตนของคนอื่น ก็จะไม่ไปเที่ยวไล่บังคับให้คนอื่นซ้ายหันขวาหันตามที่ตนเองชอบ ถ้านายใหญ่เคารพความเป็นตัวตนของลูกจ้างก็จะกำหนดวิธีการทำงานที่ทุกคนสามารถกระทำได้ แต่ถ้าไม่เห็นตัวตน เห็นแค่ปัจจัยการผลิต การใช้คนแบบเครื่องจักรมักปรากฏให้พบเห็น ก่อนจะตามมาด้วยข้อพิพาทและความขัดแย้ง แค่ไม่เห็นตัวตนของผู้ร่วมงาน แม้ว่าจะไม่ได้ทำอะไรที่เกินเลย ก็สามารถลดทอนความมุ่งมั่นผูกพันในการทำงานของผู้ร่วมงานได้อย่างมากมาย นายใหญ่ชอบกลับช้า แต่ไม่เห็นตัวตนของคนอื่นว่ามีภาระครอบครัวต้องดูแล นายใหญ่จ้องคอยดูว่าใครกลับเร็ว แค่นี้ความมุ่งมั่นทุ่มเททำงานอย่างเต็มสติปัญญาความสามารถก็หายไปจากคนที่นายใหญ่ไม่เห็นตัวตนแล้ว

หลักที่สองคือจะทำอะไรก็ตามขอให้มุ่งไปในทางที่เป็นประโยชน์ต่อมนุษย์ด้วยกันไว้เสมอ ถ้าเชื่อตามนี้ จะจัดพื้นที่ทำงานก็มองไว้ก่อนว่าสะดวกสบายกับคนทำงานเพียงพอหรือไม่ หลีกเลี่ยงอันตรายอย่างเต็มที่แล้วหรือไม่ ถ้าไม่ใส่ใจกับหลักนี้ ก็จัดที่ทำงานตามมีตามเกิด อันตรายใด ๆจะตามมาก็สุดแล้วแต่โชคชะตา ที่ทำงานนายใหญ่ปลอดภัย แต่คนอื่นเสี่ยงสารพัดอย่าง อย่างน้อยที่สุดตามหลักคิดนี้ การทำงานใด ๆร่วมกันต้องไม่ก่อให้เกิดอันตรายใด ๆ กับคนร่วมงาน อันตรายที่ว่านี้ไม่ใช่แค่อันตรายต่อสังขารร่างกาย แต่ครอบคลุมไปถึงอันตรายต่อจิตใจด้วย ถ้าเชื่อมั่นในหลักการมุ่งประโยชน์ต่อผู้คน จะกำหนดการงานใดให้ใครทำ ก็ต้องนึกก่อนว่างานนั้น ตามตัวตนของคนนั้น เสี่ยงมากน้อยแค่ไหน บีบคั้นจิตใจในการทำงานบ้างหรือไม่ ผู้บริหารที่ยึดมั่นในหลักมุ่งประโยชน์กับคน พร้อม ๆกับเคารพความเป็นตัวตนของพนักงาน ไม่รอให้มีกฎระเบียบมาบังคับว่าอะไรให้ทำ อะไรไม่ให้ทำ แต่เลือกทำในสิ่งที่เป็นประโยชน์ที่มากที่สุดที่สอดคล้องกับตัวตนของพนักงาน โดยมุ่งลดผลกระทบทางลบให้น้อยที่สุด ควบคู่ไปกับการขับเคลื่อนความสำเร็จของงาน ถ้ายังมองเห็นคนเป็นคนเหมือนกัน ความสำเร็จของงานมาพร้อมกับการมุ่งประโยชน์กับคน และการเคารพตัวตนของคน

หลักที่สามคือความเสมอภาค คือไม่มีการเลือกปฏิบัติ โดยไม่มีเหตุผลที่สมควร ซึ่งไม่ได้หมายความว่าทุกคนต้องได้ผลตอบแทนเท่ากัน แต่หมายถึงไม่มีใครที่ไม่ได้รับสิ่งที่ควรได้รับ โดยปราศจากเหตุผลที่สมควร ชอบหน้าคนนี้เลยให้ เกลียดคนนี้เลยไม่ให้ ถือว่าเป็นการทำงานร่วมกันอย่างเห็นคนไม่ใช่คนเหมือนกัน การให้ทุกคนเหมือนกันหมดก็ไม่ได้หมายความว่ามีความเสมอภาค ต้องให้จนเกิดประโยชน์ตามบริบทของตัวตนของคนนั้น ดังนั้นการดำเนินการใดกับคนใด ขอให้ดูก่อนว่าเหมาะสมกับความเป็นตัวตนของเขาหรือไม่ สิ่งที่จะกระทำนั้น ไม่ว่าจะเป็นคุณหรือเป็นโทษก็ตาม สอดคล้องกับผลงานของเขาทั้งที่ปรากฏต่อหน่วยงาน และสังคมโดยรวมหรือไม่ และที่สำคัญที่สุดคือ เขาได้รับการพิจารณาอย่างเท่าเทียมกับคนอื่นหรือไม่

ผู้บริหารทุกคนมีหน้าที่ที่ต้องสร้างความสำเร็จให้กับหน่วยงานที่ตนบริหาร แต่มีเฉพาะผู้บริหารที่เห็นความเป็นคนของผู้ร่วมงานเท่านั้นที่สามารถสร้างความสำเร็จของงานให้เกิดขึ้นพร้อมกับความมุ่งมั่นทุ่มเททำงานของบุคลากร