จีนหงุดหงิดทั้งกับ เกาหลีเหนือ...และใต้!

จีนหงุดหงิดทั้งกับ เกาหลีเหนือ...และใต้!

พอเจอวิกฤติเกาหลีเหนือรอบใหม่ จีนก็ตกอยู่ในภาวะ “กลืนไม่เข้าคายไม่ออก”

 ทางการเมือง การทูตและความมั่นคง

เพราะจีนเคยเป็นพันธมิตรเก่าแก่ของเกาหลีเหนือ ตั้งแต่ยุคประธานเหมาเจ๋อตุง กับสหายร่วมรบคิม อิลซุง ผู้ก่อตั้งเกาหลีเหนือ หรือคุณปู่ของคิม จองอึน ที่เป็นผู้นำปัจจุบัน

ด้านหนึ่งสหรัฐก็บีบให้จีนกดดันเปียงยาง ให้ยอมระงับการพัฒนาอาวุธร้ายแรง และหยุดการ “ยั่วยุ” สหรัฐ

อีกด้านหนึ่ง เกาหลีเหนือก็ไม่ได้แสดงถึงความเคารพนบนอบปักกิ่งเหมือนดั่งที่เคยเป็นมา

ในแง่ภูมิรัฐศาสตร์ จีนถือว่าเกาหลีเหนือเป็น “รัฐกันชน” สำหรับตนมาตลอด และไม่ต้องการเห็นเกาหลีเหนือล่มสลาย เพราะจะเกิดผลกระทบกว้างไกล

จีนไม่ต้องการเห็นเกาหลีเหนือกับเกาหลีใต้ “รวมชาติ” เพราะจะกลายเป็นประเทศแข็งแกร่งที่อาจไม่เป็นมิตรกับตน

แต่จีนก็ไม่ยอมถูกมองว่าถูกโดนัลด์ ทรัมป์ บีบจนต้องยอมทำตามคำขู่และคำปลอบของผู้นำสหรัฐคนใหม่

ขณะเดียวกันจีนก็หงุดหงิดกับเกาหลีเหนือ ที่ไม่ฟังเสียงทัดทานของปักกิ่ง ที่ให้ระงับการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ เพราะจีนเองก็ไม่ต้องการเห็นเปียงยางมีอาวุธร้ายแรง ซึ่งอาจจะกลายเป็น “หอกข้างแคร่” เมื่อไหร่ก็ได้

สีจิ้นผิงบอกทรัมป์ในโอกาสในเยือนอเมริกาเมื่อเร็ว ๆ นี้ว่าขณะที่คิมผู้พ่อ (คิมจองอิล) เคยมาเยือนจีนถึง 4 ครั้ง แต่คิมผู้ลูกยังไม่ได้มาเยี่ยมเยียนจีนเลยแม้แต่ครั้งเดียว

ทรัมป์ยอมรับว่า “ผมฟังท่านสีจิ้นผิงเล่าถึงประวัติความเป็นมาของความสัมพันธ์จีนกับเกาหลีเหนือได้ 10 นาทีแรก ผมก็รู้แล้วว่าไม่ใช่เรื่องง่าย”

สีจิ้นผิงบอกทรัมป์ว่าความสัมพันธ์ของสองประเทศมีมายาวนานเป็นพันปี จึงมีความสลับซับซ้อนพอสมควร ไม่ใช่ว่าจีนจะสามารถสั่งเพื่อนบ้านให้ซ้ายหันขวาหันได้ตามต้องการ

จีนได้ร่วมลงมติสนับสนุนมติสหประชาชาติ ให้คว่ำบาตรเกาหลีเหนือ ในการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ ว่าด้วยการห้ามผลิตและพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ แต่ก็ไม่ได้ทำให้เกาหลีเหนือชะลอแผนการด้านนี้แต่อย่างใด

จีนได้ระงับการซื้อถ่านหินจากเกาหลีเหนือเมื่อเร็ว ๆ นี้จนถึงสิ้นปีนี้ นัยว่าเพื่อเป็นการ “ลงโทษ” เปียงยางตามคำร้องขอของสหรัฐ แต่ตัวเลขทางการของการค้าขาย ระหว่างจีนกับเกาหลีเหนือในไตรมาสแรก ยังเติบโตกว่าระยะเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้านี้อยู่ดี

เกิดคำถามว่าจีนตั้งใจกดดันเกาหลีเหนือ หรือเป็นเพียงการสร้างภาพเท่านั้น

อีกด้านหนึ่ง จีนก็กดดันเกาหลีใต้ด้วยการคว่ำบาตรด้านเศรษฐกิจ เพราะโซลยอมให้สหรัฐมาติดตั้งระบบต่อต้านขีปนาวุธหรือ THAAD ที่ปักกิ่งเห็นว่าเป็นอันตรายกับตน

แต่เกาหลีใต้ก็ไม่ฟังเสียง ยังเดินหน้าจับมือกับสหรัฐเพื่อติดตั้งระบบนี้ เพราะกลัวการโจมตีจากเกาหลีเหนือด้วยขีปนาวุธ

จีน “ลงโทษ” เกาหลีใต้ในประเด็นนี้ด้วยการยกเลิกทัวร์ จากประเทศนั้นมาเที่ยวจีนตั้งแต่เดือนมีนาคม

สื่อทางการของจีนได้เรียกร้องให้คนจีนคว่ำบาตรสินค้าจากเกาหลีใต้ และแม้เด็กนักเรียนประถม ยังถูกครูสอนให้ชุมนุมต่อต้านเกาหลีใต้ด้วยเหตุผลเดียวกัน

กลุ่มบริษัทยักษ์เกาหลีใต้ Lotte ที่ยกที่ดินของตนให้ใช้เป็นฐานติดตั้งระบบต่อต้านขีปนาวุธ เป็นเป้าของการลงโทษครั้งนี้จากจีน โดยสาขาของเครือข่ายธุรกิจนี้ถูกสั่งปิดตัวลง 87 แห่งจากทั้งหมด 99 แห่งด้วยกัน

จีนตกอยู่ในฐานะลำบากเพราะแม้ขณะที่ปักกิ่งพยายาม กดดันให้เกาหลีใต้ยกเลิกแผนติดตั้ง THAAD แต่เกาหลีเหนือก็ยังตอกย้ำความไม่ใส่ใจกับความห่วงใยของจีน ด้วยการยิงขีปนาวุธครั้งแล้วครั้งเล่า ทำให้เกาหลีใต้อ้างได้ว่าจำเป็นต้องเดินหน้า ติดตั้งระบบต่อต้านขีปนาวุธนี้เพื่อป้องกันตัวเองอย่างจริงจัง

ยิ่งเมื่อเปียงยางออกมากล่าวหาว่าจีนกำลัง “เต้นตามจังหวะเพลงของสหรัฐ” ด้วยก็ยิ่งเห็นชัดว่า “เด็กเกเร” ไม่ฟัง “ผู้ใหญ่ข้างบ้าน” อีกต่อไป

อีกทั้ง “เด็กข้างบ้าน” ที่ทะเลาะกับ “เด็กเกเร” ก็ไม่ได้ใส่ใจกับ “ผู้ใหญ่หงุดหงิด” แต่อย่างไรเช่นกัน