ภาพแบบทวิภพ ของ Q2 2017

ภาพแบบทวิภพ ของ Q2 2017

ไม่บ่อยครั้งนักที่ภาพของเศรษฐกิจโลก จะสามารถแบ่งได้ออกเป็น 2 รูปแบบที่แตกต่างกันมาด้วยเหตุการณ์ 2-3 อย่างที่จะเกิดขึ้น

 ด้วยผลลัพธ์ที่ไม่เหมือนกันเหมือนในไตรมาสสองปี 2017 ก่อนไปถึงจุดนั้น ผมขอพูดถึงหน้าตาของโลกใน 2 แบบนี้กันก่อน

เริ่มจากโลกในแบบที่ไม่สวยงามสักเท่าไหร่กันก่อน หากไม่นับการตัดสินใจนโยบายการเงินของธนาคารกลางยุโรปและญี่ปุ่น ที่จะเกิดขึ้นในสัปดาห์หน้า ซึ่งน่าจะไม่ใช่ Big Deal มากในช่วงนี้ ผมคิดว่าถ้าเหตุการณ์ 3 อย่าง ดังนี้ เกิดขึ้นคือ

หนึ่ง นายโดนัลด์ ทรัมป์ เกิดสั่งการบอมบ์ประเทศอื่นๆ อีกต่อจากซีเรียและอัฟกานิสถาน

สอง นายทรัมป์ สั่งให้เริ่มมาตรการทางการค้าด้วยการสั่งขึ้น Tariff แบบไม่แคร์สื่อ และ

สาม นางมารีน เลอแปง ชนะการเลือกตั้งผู้นำฝรั่งเศสรอบสองพร้อมกัน ภาพของไตรมาสสอง ปี 2017 คงจะส่งผลกระทบให้เกิดมีความผันผวนของตลาดเป็นการใหญ่ เนื่องจากนโยบายการคลังของสหรัฐถือว่ามีปัญหาในระยะยาว จนการสร้างโครงสร้างพื้นฐานอาจจะทำได้ไม่ได้มากจนถึงทำได้น้อยมาก นโยบายการค้าที่ปกป้องสหรัฐเองจะส่งผลให้ประเทศอื่นๆมีปัญหาในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของตนเอง และนางเลอแปง คงจะเป็นความเสี่ยงที่ยุโรปจะสั่นคลอนเป็นการใหญ่

ถามว่าโอกาสเกิดขึ้นพร้อมกันทั้งสามอย่างมีสูงไหม คิดว่ามีอยู่ไม่ถึงร้อยละ 15 แต่ถ้าเกิดขึ้นแต่สองในสามเหตุการณ์ก็ถือว่าแย่มากแล้วมีอยู่ถึงร้อยละ 20 ต้นๆ ซึ่งถือว่ามีอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว แน่นอนว่า หากเป็นเช่นนี้ธนาคารกลางสหรัฐหรือเฟดคงจะไม่ขึ้นดอกเบี้ยในเดือนพฤษภาคมเป็นแน่แท้

มาถึงชุดเหตุการณ์ที่มาแบบโลกสวยกันบ้าง ดังนี้ หนึ่ง นายทรัมป์ สั่งให้เริ่มมาตรการทางภาษีด้วยการผ่านสภา การลดอัตราภาษีต่างๆ ทั้งนิติบุคคลและบุคคลธรมดา สอง นายเอมมานูเอล มาครอน ชนะการเลือกตั้งผู้นำฝรั่งเศส และ สาม เฟดขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในเดือนพฤษภาคม หากเป็นเช่นนี้ ตลาดเงินและตลาดทุนของสหรัฐและตลาดเกิดใหม่ ก็จะเริงร่าเป็นเหมือนในไตรมาสแรก แต่อาจต้องระวังการชะลอตัวของตลาดสหรัฐสำหรับการขึ้นดอกเบี้ยของเฟดในครั้งถัดไป โอกาสที่โลกสวยจะเกิดขึ้นอยู่ราวร้อยละ 10

กลับมาถึงปัจจัยที่ขับเคลื่อนโลกในทั้ง 2 แบบกันบ้าง ผมคิดว่า จะมีปัจจัยหลัก 3 ประการในการประเมินภาพของไตรมาสสอง ปี 2017 ดังนี้

หนึ่ง ปัจจัยเฟดว่าจะขึ้นดอกเบี้ยในเดือนพฤษภาคมหรือไม่นั้น ณ วันนี้ ผมคิดว่าโอกาสสองในสามที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ก่อน เหตุผลหลักคือ นโยบายต่างๆที่ทรัมป์กล่าวไว้ช่วงหาเสียงถือว่าไม่มาตามนัด ส่วนโอกาสมีอยู่หนึ่งในสามที่เฟดจะขึ้นดอกเบี้ย หากตัวเลขเศรษฐกิจบางตัวที่ยังดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ไม่มีสงครามยืดเยื้อ และทรัมป์เริ่มผ่านนโยบายบางอย่างได้แล้ว

โดยผลของการที่เฟดน่าจะยังคงดอกเบี้ย คือ ความผันผวนของกระแสเงินทุนและดัชนีตลาด รวมถึงดอลลาร์จะอ่อนตัวลง ส่วนหากเฟดขึ้นอัตราดอกเบี้ย ตลาดหุ้นสหรัฐจะขึ้นต่อเล็กน้อยและดอลลาร์จะแข็งตัว

สอง นโยบายต่างๆที่ทรัมป์จะดำเนินการต่อไป เริ่มจากสงคราม นโยบายภาษี และนโยบายการค้า

โดยหากสงครามเกิดยืดเยื้อไปเรื่อยๆ เชื่อเหลือเกินว่าจะทำให้นโยบาย Infrastructure ของนายทรัมป์ต้องหยุดชะงัก โอกาสผมให้ถึงราวครึ่งหนึ่ง

นโยบายภาษี โอกาสผ่านสภาได้ผมให้ร้อยละ 30 ในปีนี้ ถ้าผ่านได้ จะเป็นผลดีต่อเศรษฐกิจสหรัฐ

นโยบายการค้า โอกาสผ่านสภาได้ผมให้ร้อยละ 15 ในปีนี้ ถ้าผ่านได้ จะเป็นผลร้ายต่อเศรษฐกิจโลก

สาม การเลือกตั้งฝรั่งเศสนั้น ณ วันนี้ โอกาสของนางเลอเปนในรอบสองของการเลือกตั้ง น่าจะมีสูงขึ้นแม้จะยังเป็นรองนายมาครอนอยู่ก็ตาม เนื่องจากนายชอง ลูฟ เมเลคอน ฝ่ายซ้ายจัด คะแนนเริ่มนำนายฟิลิป เฟลลอน ฝ่ายขวากลาง เล็กน้อยขึ้นมาที่สาม แต่คงค่อนข้างยากอยู่แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ที่นายเมเลคอนจะเข้ารอบสองเพราะถือว่ามาค่อนข้างช้าเกินกว่าสองคนแรก ทำให้เป็นไปได้ว่านายฟิลลอนจะย้ายไปให้คะแนนเสียงกับนางเลอแปงในรอบสอง สังเกตได้จากการโจมตีกันไปมาระหว่างนายมาครอนกับนายฟิลลอนในระยะหลัง ทว่าเสียงของนางเลอแปงเองที่มีอยู่ตอนนี้ก็ยังไม่พอจะชนะในรอบสองได้อยู่ดี ต้องพึ่งชาวฝรั่งเศสที่ยังไม่ตัดสินใจที่มีอยู่กว่าร้อยละ 20 อยู่ดี เพื่อจะชนะการเลือกตั้งในรอบสอง สรุปคือยังเหนื่อยมากที่ฝรั่งเศสจะมีผู้นำหญิงในปี 2017 ครับ