เมื่ออาจารย์สี จิ้นผิงสอนมวย เด็กหน้าใหม่ชื่อโดนัลด์ ทรัมป์

เมื่ออาจารย์สี จิ้นผิงสอนมวย เด็กหน้าใหม่ชื่อโดนัลด์ ทรัมป์

ลองวาดภาพการสนทนาระหว่างสี จิ้นผิง กับโดนัลด์ ทรัมป์ ในสองสถานการณ์ ที่ร้อนแรงในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา

ผมอยากรู้จริงๆ ว่าบรรยากาศตอนที่ทรัมป์แจ้งให้ผู้นำจีนรู้ว่า เขาได้ตัดสินใจถล่มซีเรียด้วยจรวดโทมาฮอว์ค 59 ลูก ในระหว่างอาหารเย็นที่ฟลอริดาเป็นอย่างไร

และเมื่อทรัมป์จี้สี จิ้นผิงเรื่องกดดันเกาหลีเหนือ ให้ยุติการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ ผู้นำจีน “เลคเชอร์” ให้ประธานาธิบดีสหรัฐคนนี้ เข้าใจถึงความสลับซับซ้อนของปัญหานี้อย่างไร

ถ้าทำเป็นหนัง สองฉากนี้จะต้องถือเป็น “ไฮไลต์” ของดราม่าสุดยอดทีเดียว

ทรัมป์เป็นคนเล่าให้พิธีกรของ Fox News ฟังเองว่าตอนที่เขาตัดสินใจถล่มซีเรียนั้นเป็นวันที่สี จิ้นผิงมาเยือนอเมริกาอย่างเป็นทางการ

จะเป็นเรื่องความบังเอิญหรือจัดฉากให้เหมาะเจาะก็ตาม ทรัมป์อ้างว่าตอนนั้นทั้งสองคนกินอาหารจานหลักเสร็จแล้ว กำลังกินของหวานซึ่งเป็น “เค้กช็อกโกแลตที่แสนสวยงามและอร่อยเหลือเกิน” (ตามคำบอกเล่าของทรัมป์)

“ผมก็รอให้ท่านสี จิ้นผิง ได้ลิ้มรสชาติของเค้กช็อกโกแลตนั้นก่อน ผมจึงแจ้งให้ท่านทราบถึงการตัดสินใจถล่มซีเรีย...” ทรัมป์เล่า

“ท่านสี จิ้นผิงนิ่งไปสัก 10 วินาที แล้วท่านก็บอกให้ล่ามพูดอีกครั้งหนึ่ง ผมไม่คิดว่านั่นเป็นสัญญาณที่ดี แล้วท่านก็บอกผมว่าใครก็ตามที่โหดร้ายได้ขนาดนั้น สามารถใช้แก๊สทำกับเด็กๆ และทารกได้ก็ควรจะโดนอย่างนี้...ก็โอเคน่ะ” ทรัมป์เล่า

พิธีกรถามย้ำว่า “ท่าน (สี จิ้นผิง) เห็นด้วยกับท่านหรือ?”

ทรัมป์ตอบว่า “ท่านก็โอเคน่ะ...”

ผมไม่แน่ใจว่าสี จิ้นผิงบอกกับทรัมป์ว่าการถล่มซีเรียอย่างนั้นเป็นเรื่อง “โอเค”

รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ เร็กซ์ ทีเลอร์สัน บอกนักข่าวภายหลังว่าเมื่อสี จิ้นผิงได้รับการบอกเล่าจากทรัมป์เรื่องโจมตีซีเรียแล้ว “ท่านสี จิ้นผิงก็เข้าใจ”

คำว่า “เห็นด้วย” หรือ “โอเค” กับ “เข้าใจ” ย่อมมีความหมายที่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ

ผมยังไม่เห็นข่าวว่าผู้นำจีนได้ออกมายืนยันอย่างที่ทรัมป์บอกเล่าหรือไม่ แต่ผมค่อนข้างจะแน่ใจว่าประเมินจากจุดยืนของจีนต่อซีเรียมาก่อนหน้านี้สี จิ้นผิงไม่อาจจะบอกว่า “เห็นด้วย” กับการที่ทรัมป์ส่งจรวดโทมาฮอว์ค 59 ลูก ลงไปที่สนามบินทหารของซีเรียแน่นอน

อีกตอนหนึ่งคือการสนทนาเรื่องเกาหลีเหนือระหว่างผู้นำจีนกับสหรัฐ

ทรัมป์เล่าว่าเขาได้พยายามบอกสี จิ้นผิงให้กดดันเกาหลีเหนือให้เลิกพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ หาไม่แล้วสหรัฐก็อาจจะต้องดำเนินการเรื่องนี้ด้วยตัวเอง

ทรัมป์บอกว่า “ท่านสี จิ้นผิงบอกผมว่าจะต้องเล่าประวัติศาสตร์ของจีนกับเกาหลีเหนือ… พอท่านเล่าไปได้ 10 นาที ผมก็เริ่มจะเข้าใจแล้วว่าเรื่องมันไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด ผมเชื่ออย่างสนิทใจว่าจีนมีพลังมหาศาลเหนือเกาหลีเหนือ แต่มันไม่ใช่อย่างที่คุณคิด...”

แปลว่าสี จิ้นผิง “ให้การศึกษา” ทรัมป์ในบทเรียนประวัติศาสตร์ระหว่างจีนกับเกาหลีเหนือ เพื่อชี้ให้ผู้นำสหรัฐผู้มาใหม่รู้ว่า เรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไม่ใช่เรื่องง่าย

จีนกับเกาหลีเหนืออาจจะสนิทกันตอนประธานเหมากับคิมอิลซุงคบหากันใหม่ๆ แต่ต่อมาคิมจองอิลรับอำนาจต่อก็มาเยือนจีนบ้าง แต่พอมาถึงคิมจองอึนก็ยังไม่เคยมาเยือนจีน และที่ใครคิดว่าจีนสามารถ “สั่ง” เกาหลีเหนือให้หันซ้ายหันขวานั้นก็ไม่จริง

เมื่อ “อาจารย์สี” เปิดตำราประวัติศาสตร์สอน “เด็กหน้าใหม่ทรัมป์” แล้วผู้นำสหรัฐจะฉลาดขึ้น สุขุมรอบคอบขึ้นหรือไม่ต้องดูความประพฤติกันต่อไป