โศกนาฏกรรมระดับโลก ชื่อ 'ซีเรีย'

 เพราะความสลับซับซ้อนของปัญหา และความหนักหน่วงของความขัดแย้ง ที่หาคำอธิบายด้วยเหตุผลไม่ได้

คนซีเรียตายไปแล้วกว่า 465,000 คน

คนซีเรียบาดเจ็บเพราะสงครามแล้วกว่า 1,000,000 คน

คนซีเรียพลัดพรากจากครอบครัวและไร้ที่อยู่อาศัยกว่า 12,000,000 ล้านคนหรือเท่ากับครึ่งหนึ่งของประชากรประเทศนี้ ก่อนเกิดสงครามอันโหดเหี้ยมทารุณนี้

รัฐบาลซีเรียภายใต้การนำของประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด เปิดฉากสงครามกลางเมือง ด้วยการปราบปรามกลุ่มผู้เรียกร้องประชาธิปไตยภายใต้กระแส Arab Spring เมื่อปี 2011 ซึ่งมีผลทำให้ประชาชนตูนีเซียและอียิปต์ ลุกขึ้นโค่นผู้มีอำนาจผูกขาดทางการเมืองขณะนั้น

เมื่อมีการรวมกลุ่มของคนซีเรียเพื่อเรียกร้อง ให้มีการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง อัล-อัสซาดก็ใช้วิธีการรุนแรง ทั้งสังหารและจับผู้ประท้วงเป็นพันเป็นหมื่นคน

ในเดือนกรกฏาคม 2011 ทหารกลุ่มหนึ่งที่ต่อต้านประธานาธิบดีซีเรียประกาศแยกตัว ตั้งเป็น Free Syria Army ประกาศเป้าหมายต้องการจะล้มล้างอัล-อัสซาด

นั่นคือจุดเริ่มต้นของสงครามกลางเมืองในซีเรีย ที่ลากยาวและเพิ่มความสลับซับซ้อนมากยิ่งขึ้นตามลำดับจนถึงวันนี้

กลุ่มหัวรุนแรงติดอาวุธหลายกลุ่มที่ต่อต้านผู้นำคนนี้ ก็เริ่มรวมตัวกันทำกิจกรรมด้านทหาร เพื่อหวังโค่นอัล-อัสซาดเช่นกัน

กลุ่มศาสนาก็แตกแยกกัน ขณะที่กลุ่มต่อต้านส่วนใหญ่เป็นมุสลิมสุหนี่ แต่กลุ่มที่สนับสนุนอัสซาดเป็นกลุ่มย่อยต่าง ๆ อีกทั้งผู้กุมอำนาจทางทหารของซีเรียส่วนใหญ่ก็เป็นสมาชิกของกลุ่ม Alawite ของอัสซาด

ความแตกแยกในประเทศว่าร้ายแรงแล้ว ก็ไม่เท่ากับความระหองระแหงระหว่างประเทศต่าง ๆ ในภูมิภาคนั้น

อิหร่านกับอิรักซึ่งมีรัฐบาลประกอบด้วยผู้นับถือมุสลิมนิกายชีอะ และกลุ่มเฮซโบเลาะ ซึ่งมีฐานอำนาจอยู่ในเลบานอนยืนอยู่ข้างอัสซาด

แต่ตุรกี กาตาร์และซาอุดีอาระเบีย ซึ่งมีรัฐบาลเป็นมุสลิมสุหนี่สนับสนุนฝ่ายกบฏอย่างเปิดเผย

เท่านั้นไม่พอ มหาอำนาจทั้งหลายต่างก็ยืนอยู่คนละข้างของขั้วอำนาจในซีเรีย

สหรัฐเป็นตัวตั้งตัวตีในการจัดตั้งกลุ่มพันธมิตร ที่อยู่ข้างฝ่ายต่อต้านที่ต้องการจะโค่นอัสซาด

รัสเซียอยู่ข้างอัสซาดอย่างชัดเจน

แรกเริ่มนั้นดูเหมือนทั้งอัสซาด สหรัฐและรัสเซียจะมีเป้าหมายตรงกัน คือปราบปรามกลุ่มก่อการร้าย IS

แต่ลึก ๆ แล้วสหรัฐกับรัสเซียยืนอยู่คนละข้าง ต่างคนต่างสงสัยคลางแคลงว่าอีกฝ่ายหนึ่งปราบ IS จริงหรือไม่

ในปี 2015 รัสเซียเปิดฉากถล่มทางอากาศ มีเป้าคือ “กลุ่มก่อการร้ายทั้งหลายในซีเรีย” ซึ่งรวมถึง IS กับกลุ่มกบฏที่สหรัฐสนับสนุนอยู่ด้วย

พอโดนัลด์ ทรัมป์ขึ้นมาเป็นผู้นำสหรัฐ แรกเริ่มเขาบอกว่าซีเรียไม่ใช่ปัญหาเร่งด่วนสำหรับเขา และไม่ยอมให้ผู้ลี้ภัยหนีตายจากซีเรียเข้าสหรัฐ

แต่ผ่านไปไม่กี่วัน ทรัมป์บอกว่าเห็นภาพเด็ก ๆ ซีเรียต้องตายเพราะสารเคมีซารินแล้วทนไม่ได้ ต้องแสดงความรับผิดชอบทางศีลธรรม จึงสั่งถล่มฐานทัพอากาศซีเรียด้วยขีปนาวุธ Tomahawk 59 ลูก

ทำให้รัสเซียต้องออกมาประกาศว่าถ้าทรัมป์ยังเดินหน้าถล่มซีเรียต่อ มอสโควก็จะต้องตอบโต้อย่างแน่นอน

สงครามกลางเมืองซีเรียวันนี้ จึงกลายเป็นเวทีการเผชิญหน้า ระหว่างมหาอำนาจอย่างน่ากลัว!